หนูอายุ22. แฟน27หยุดกินยาคุมมา1ปีเเล้ว ไม่ได้ป้องกัน นับวันตกไข่ทุกครั้ง ไม่ท้องสักที เสี่ยงมีลูกยากไมคะ ถ้าไปปรึกษาที่โรงบาลรัฐมีไมคะ เสียค่าใช้จ่ายในการตรวจเท่าไรคะ

ถ้าพยายามมีลูกมานานเกิน 1 ปีแล้ว ควรพบสูตินรีเเพทย์ ตาม รพใหญ่ๆ ที่มีศูนย์ดูแลเรื่องการมีบุตรยากครับ ถ้ารพ.รัฐก็ต้องเป็น รพ.ใหญ่ๆครับ

การมีบุตรยากเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ
ทั้งสาเหตุ จากฝ่ายชาย ฝ่ายหญิง
- ทางฝ่ายชาย ส่วนใหญ่ เกิดจากน้ำเชื้อผิดปกติมีจำนวนน้อยหรือรูปร่างผิดปกติ
- ทางฝ่ายหญิง เช่น ไข่ไม่ตก ท่อนำไข่ตัน โพรงมดลูกมีพังผืด มีก้อนเนื้อ
จะมีการตรวจภายใน ตรวจอัลตราซาวด์ อาจมีการตรวจฉีดสีดูท่อนำไข่ ตรวจเลือดดูฮอร์โมนการทำงานของรังไข่ เป็นต้นครับ

ถ้าไปโรงพยาบาลตามสิทธิการรักษา สามสิบบาท ประกันสังคม ก็เบิกได้ครับ
(เช็คสิทธิที่สายด่วนสปสช.1330)หรือhttp://eservices.nhso.go.th/eServices/mobile/login.xhtmlถ้าเป็นข้าราชการก็เบิกได้ทุก โรงพยาบาลรัฐครับ

ถ้ารพ.ที่เรามีสิทธิการรักษา ไม่มีสูตินรีเเพทย์ที่ดูเเลเรื่องมีบุตรยาก หรืออุปกรณ์ไม่พร้อม ทางรพ.จะพิจารณาเขียนใบส่งตัวไปรพ.ใหญ่ครับ
เเต่ถ้ามีทุนทรัพย์ สะดวกจ่ายค่ารักษาเอง เเละไม่อยากเสียเวลา ก็ไป รพ.ใหญ่ที่อาจจะไม่มีสิทธิการรักษาได้เลยครับ

สวัสดีครับ
ถ้าหากปฃ่อยตั้งครรภ์มา 1 ปีแล้วนังไม่สามารถตั้งครรภ์ได้สำเร็จก็จะเสี่ยงต่อการเป็นภาวะมีบุตรยากครับ

ภาวะมีบุตรยากนั้นเกิดได้จากทั้งสาเหตุจากทางฝ่ายชายและฝ่ายหญิง โดยสาเหตุจากทางฝ่าชายนั้นจะเกิดจากการมีปริมาณหรือคุณภาพของอสุจิที่ไม่ดีพอเป็นหลัก ส่วนสาเหตุจากฝ่ายหญิงนั้นอาจเกิดได้หลายสาเหตุ เช่น
- มีการตกไข่ที่ผิดปกติ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ท่อนำไข่อุดตัน
- มีพังผืดในอุ้งเชิงกราน
- เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
- เนื้องอกมดลูก

ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์สูตินรีเวชพร้อมแฟนเพื่อตรวจหาสาเหตุของการมีบุตรยากก่อนเพื่อที่จะได้ให้ความช่วยเหลือได้อย่างเหมาะสมครับ โดยค่าใช้จ่ายในการตรวจของโรงพยาบาลรัฐก็จะอยู่ในช่วงหลักพันต้นๆครับ