แมวผมมีอัตราการหายใจอยู่ที่ราวๆ 42 ครั้ง/นาที ในท่านอนหงาย กับ นอนตะแคง บนโซฟา มีพัดลมเป่าเบาๆ อุณภูมิห้อง 27 องศา อัตราการหายใจสูงเท่าใดจึงควรรีบไปพบแพทย์ครับ วันนี้น้องตรวจแล้วพบว่าหัวใจห้องขวาบนมีปัญหา ทำให้มีน้ำในช่องอกต้องเจาะออก เจาะแล้ว 2 ครั้ง - 24 ธ.ค. ปริมาณ 290ml - 29 ธ.ค. ปริมาณ 360ml รอบแรกไปที่รพส.แถวบ้าน เขาแจ้งว่าเป็น Lymphoma รอบที่สองไปที่รพส. ที่กทม. เขา X-ray ไม่พบก้อน Lymphoma ตรวจน้ำไม่ได้ติดปีใหม่แล้ว ตรวจหัวใจพบว่าแย่มาก อาจอยู่ได้ 6 เดือน ได้รับยากลับมาทานเป็นยาขับปัสสาวะ และ หัวใจ นัดดูการตอบสนองของยาอีกครั้งวันที่ 8 มกราคม ผมกังวลเกี่ยวกับอัตราการหายใจ/นาที น้องเขาจะต้องหายใจราวๆนี้อยู่แล้วหรือไม่ เท่าไหร่ถึงเป็นลิมิตที่ต้องไปฉุกเฉิน ผมอยากได้คำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแล การทานอาหารของแมวด้วยครับ เช่น กุ้งต้มสุก น้องสามารถทานได้ไหม ควรหลีกเลี่ยงแค่กลุ่มอาหารไขมันสูงเท่านั้น หรือ มีอะไรต้องระวังไหมครับ หรือจริงๆแล้วน้องควรมีความสุขกับเวลาที่เหลืออยู่ เพราะการรักษาอาจช่วยให้อยู่ได้สุดๆอีกแค่ 6 เดือนเท่านั้น (แมวอายุ 3 ปี) ไม่ใช่ 10 ปี ขอความกรุณาด้วยครับ

เราได้รับคำถามของคุณแล้ว รอทีมแพทย์มาตอบคำถามสักครู่นะคะ พูดคุยหรือสอบถามแอดมินได้ทุกวัน ทางไลน์ @honestdocs ค่ะ

ปกติอัตราการหายใจไม่ควรเกิน 40 ครั้งต่อนาที แต่ในรายของน้องมีปัญหาน้ำในช่องอก จะมีอัตราการหายใจที่มากกว่าได้ค่ะ ให้ดูอาการและท่าทางของแมวค่ะ หากน้องมีภาวะหายใจลำบาก แมวจะไม่นอนตะแคงหรือนอนหงายเพราะจะทำให้น้องยิ่งหายใจบำบากมากขึ้น แมวจะนอนแต่ท่านอนคล่ำ หรือท่า dog sitting คือก้นติดพื้น แต่ 2 ขาหน้ายังขึ้น ช่องท้องยุบเข้าออกแรงมากขึ้น หากมีอาการอ้าปากหายใจแสดงว่าหายใจลำบากมากแล้วต้องรีบพาไปหาหมอด่วนค่ะ

ไม่แน่ใจว่าได้อัลตราซาวน์หัวใจหรือเอคโค่ยังคะ วิธีนี้จะเป็นการยืนยันว่าน้องเป็นโรคหัวใจจริงๆดีที่สุด และปรับยาตามผลตรวจและอาการ และแนะนำส่งน้ำไปวิเคราะห์หลังปีใหม่อีกทีนะคะ

อาหาร ให้กินอาหารได้ตามปกติ แต่ต้องลดพวกอาหารที่มีโซเดียมสูง เพราะจะทำให้หัวใจทำงานนหนักขึ้นค่ะ และการกินยาขับปัสสาวะ จะทำให้แมวกินน้ำมากขึ้น ปัสสาวะมากขึ้น ต้องมีน้ำตั้งตลอด หากกินน้ำน้อยและกินยาขับปัสสาวะอยู่ ค่าไตจะขึ้นได้ค่ะ หมั่นตรวจเช็คค่าไตร่วมด้วยนะคะ

ในบางเคสหมอจะแนะนำให้เจ้าของซื้อตู้ออกซิเจนและถังออกซิเจนติดบ้านไว้ เผื่อกรณีฉุกเฉินค่ะ น้องจะอยู่ได้นานเท่าไหน ขึ้นกับการดูแลประกอบกันด้วยค่ะ ช่วงนี้ที่อาการยังไม่คงที่แนะนำให้กักบริเวณ ลดการวิ่งกระโดดนะคะ เพราะยิ่งกระโดดหรือวิ่ง จะยิ่งทำให้น้องหายใจลำบาก บางรายอยู่ได้นานกว่า 6 เดือน บางรายก็น้อยกว่า 6 เดือนก็มีค่ะ ยิ่งหากเจาะน้ำในช่องอกเร็วเท่าไหร่ การพยากรณ์โรคก็จะยิ่งแย่ลงค่ะ