ผมอยากมีลูก แต่งงานมา5ปียังไม่มีลูก ทำการบ้านทุกครั้งผู้หญิงไม่เคยคุม ไปพบหมอเพื่อตรวจว่าน้ำเชื่อของชายแข็งแรงดี ส่วนของผู้หญิงหมอบอกว่าท่อรังไข่น่าจะตัน แต่ยังไม่ได้ไปตรวจแค่สันนิฐาน ควรทำยังไงและมีวิธีมั่ย

การมีบุตรยาก เกิดได้จากหลายสาเหตุเลยค่ะ
ทั้งสาเหตุ จากฝ่ายชาย ฝ่ายหญิง หรือ จากทั้งสองฝ่าย
สาเหตุ ทางฝ่ายชาย ส่วนใหญ่ เกิดจากน้ำเชื้อผิดปกติค่ะ
สาเหตุทางฝ่ายหญิง ก็ยังเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่า จะเป็น
1. จากรังไข่ ไข่น้อย ไข่ไม่ตก
2. จากท่อนำไข่ ท่อนำไข่อุดตัน
3. จากโพรงมดลูกผิดปกติ ตัวอ่อนฝังตัวไม่ได้
4. สาเหตุจากปากมดลูก
5. สาเหตุจากการอักเสบ หรือ มีพังผืดในช่องท้อง

ถ้าพยายามมีบุตรมานานเกิน 1 ปีแล้ว แนะนำปรึกษาแพทย์ค่ะ แพทย์จะทำการซักประวัติ หาความเสี่ยงต่างๆ และตรวจเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุ และช่วยให้มีบุตร ตามสาเหตุที่พบต่อไปค่ะ

โดยการตรวจเบื้องต้น หาสาเหตุของภาวะมีบุตรยาก
ทางฝ่ายชาย หลักๆ คือการตรวจน้ำเชื้อ (Semen analysis) ค่ะ คือการดูปริมาณ ความเขินการเคลื่อนไหว และ รูปร่าง ของเชื้ออสุจิ
ทางฝ่ายหญิง จะมีการตรวจภายใน ตรวจอัลตราซาวด์ดูมดลูกและรังไข่
ส่วนการตรวจเพิ่มเติมอื่นๆ อาจมีการตรวจฉีดสีดูท่อนำไข่ ตรวจเลือดดูฮอร์โมนเพื่อประเมินการทำงานของรังไข่ อันนี้ จะตรวจเลยหรือไมาแพทย์จะพิจารณาจากอายุฝ่ายหญิง ความเสี่ยงต่างๆ ระยะเวลาการมีบุตรยาก

การตรวจท่อนำไข่หลักๆ มี 2 วิธีค่ะ ข้อดี ข้อเสีย ต่างๆกัน คือ
1. การฉีดสารทึบแสง เข้าทางปากมดลูก และเอกเรย์ดูว่า สารทึบแสงผ่านท่อออกมาได้หรือไม่
(Hysterosalpingography)
ข้อดี : ราคาย่อมเยา ไม่ต้องดมยาสลบ ไม่ต้องทำในห้องผ่าตัด ประเมินโพรงมดลูกได้ด้วย
ข้อเสีย : ปวดเวลาทำ ประเมินช่องอุ้งเชิงกรานไม่ได้ ถ้าผลออกมาว่าตัน ผลอาจไม่ชัวร์ 100%

2. การผ่าตัดส่องกล้องเพื่อวินิจฉัย และ ฉีดสีดูท่อนำไข่ (diagnostic laparoscopy with chromopertubertion) จะทำการผ่าตัดส่องกล้อง เห็นเข้าไปในช่องท้องเลย แล้วดูว่าสีที่ฉีดผ่านปากดมลูกออก ทางปลายท่อนำไข่มั้ย

ข้อดี : วินิจฉัยได้ 100% ดูและรักษาพยาธิสภาพในช่องอุ้งเชิงกรานได้เลย ไม่เจ็บเพราะดมยา
ข้อเสีย : ค่าใช้จ่ายสูง ต้องดมยา ทำในห้องผ่าตัด ไม่เห็นในโพรงมดลูก มีแผลที่หน้าท้อง