January 02, 2020 20:29
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
1.น้ำอสุจิหยดข้างๆอวัยวะเพศ ไม่ทำให้ท้องครับ
2.การที่ไม่ใส่ถุงยางนั่น มีโอกาสท้องครับ
เนื่องจากขณะสอดใส่อาจมีอสุจิปนออกมากับน้ำหล่อลื่นฝ่ายชายได้ครับ
หากรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินภายใน 12-24 ชม.แรกของการมีเพศสัมพันธ์ จะคุมกำเนิดได้ประมาณ 85% รับประทานภายใน 72 ชม. ประมาณ 75%
ส่วนถ้าเกิน 72 ชม.แต่ยังไม่เกิน 120 ชม. จะประมาณ 60% ครับ
สรุปคือยิ่งรับประทานช้า จะยิ่งมีโอกาสท้องครับ
หลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินจะมีเลือดออกทางช่องคลอดได้ประมาณภายใน1 สัปดาห์หลังกินยา ซึ่งมักไม่ใช่เลือดประจำเดือน (อาจจะมากระปริบกระปรอย หรือ ไม่มีก็ได้ครับ ไม่ได้บอกว่าท้องหรือไม่ท้องครับ)
ส่วนประจำเดือนจริงๆจะมาไกล้เคียงกับรอบประจำเดือนปกติ เเต่อาจมาเร็วหรือช้ากว่ารอบเดือนปกติได้ 1-3สัปดาห์
ดังนั้น หากเกิน3สัปดาห์ไปเเล้วจากวันที่ประจำเดือนควรจะมา ก็มีโอกาสหลุดท้องครับ
ให้ตรวจการตั้งครรภ์ครับ
หากต้องการรีบตรวจการตั้งครรภ์ ตรวจได้เร็วที่สุด2สัปดาห์หลังมีเพศสัมพันธ์ครับ
ระหว่างรอประจำเดือนจริงๆมา ถ้ามีเพศสัมพันธ์ใช้ถุงยางอนามัยไปก่อนครับ
ถ้าชัวร์ว่าไม่ท้องคือประจำเดือนมาเเล้ว เเนะนำเลือกวิธีคุมกำเนิด เช่น ยาคุมรายเดือน ฝังยาคุม ฉีดยาคุม หรือใช้ถุงยางอนามัยครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
หมอคะ แล้วถ้าเป็นคนที่ปจด.มาไม่ปกติอยู่แล้ว
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
สวัสดีค่ะ
ถ้ามีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้ป้องกันถึงแม้จะไม่มีการหลั่งในก็มีโอกาสตั้งครรภ์ได้เพราะอสุจิอาจปนมากับน้ำหล่อลื่นได้ค่ะ กรณีที่ได้ทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินเป็นวิธีที่ถูกต้องแล้วค่ะ โดยยาคุมจะป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 75-85% ถ้าทานยาคุมภายใน 120 ชั่วโมง และสามารถตรวจการตั้งครรภ์ได้เมื่อมีเพศสัมพันธ์ผ่านมาแล้ว 14 วันค่ะ
ส่วนกรณีที่ใช้ถุงยางอนามัยถ้ามั่นใจว่าไม่รั่ว ไม่ขาด ก็ไม่จำเป็นต้องทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินค่ะ โดยถุงยางอนามัยจะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 2-18% และการที่มีน้ำอสุจิหยดลงบนอวัยวะเพศไม่ได้ทำให้ตั้งครรภ์ได้ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ถ้าหากมีเพศสัมพันธ์โดยมีการสอดใส่แลบไม่ป้องกัน แม้จะเป็นเพียงเล็กน้อยก็อาจมีอสุจิที่ปนอยู่ในน้ำหล่อลื่นของผู้ชายหลุดลอดเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้ทำให้มีโอกาสผิดพชาดตั้งครรภ์ได้ 4-22% ครับ และการมีอสุจิล้นออกมาภายนอกถุงยางอนามัยระหว่างที่มีเพศสัมพันธ์อยู่ก็ถือว่าเป็นความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้เช่นกัน ในกรณีนี้จึงเหมาะสมที่จะรับประทานยาคุมฉุกเฉินครับ และหลังจากรับประทานยาคุมฉุกเฉินไปแล้วก็จะลดโอกาสตั้งครรภ์ได้ 75-85%
การรับประทานยาคุมฉุกเฉินไม่ได้มีผลเสียในระยะยาว แจ่อาจมีผลข้างเคียงหลังรับประทานไปได้เล็กน้อย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ปวดศีรษะ คัดตึงเต้านม ตกขาวมากขึ้น มีเลือดออกกระปริดกระปรอยทางช่องคลอด เป็นต้น
หลังจากรับประทานยาคุมฉุกเฉินแล้วหมอแนะนำให้รอสังเกตประจำเดือนต่อไปก่อนว่าจะมาตามปกติหรือไม่ ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปก็ให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ดู โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
สุวพัชญ์ พิศาลมงคล (นพ.)
สวัสดีครับ
การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกันถึงแม้ไม่ได้หลั่งภายใน แต่สารคัดหลั่งที่ออกจากอวัยวะเพศชายสามารถพบอสุจิได้ครับ แปลว่าสามารถทำให้ตั้งครรภ์ได้ ซึ่งผู้ถามมีการทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินแล้ว ในที่นี้หากทานอย่างถูกต้องจะลดโอกาสการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 80% ครับ นอกจากนี้ข้อควรรู้คือผลข้างเคียงของยาที่อาจจะพบได้คือการมีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด ซึ่งมักจะเกิดในช่วงภายหลังการทานยาชนิดนี้ประมาณ 1 สัปดาห์ เลือดที่ออกมานั้นไม่ใช่ประจำเดือน และไม่ได้บ่งบอกว่าจะไม่มีการตั้งครรภ์ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
“หมอคะ แล้วถ้าเป็นคนที่ปจด. มาไม่ปกติอยู่แล้ว”
ในกรณีที่มีประจำเดือนมาไม่ปกติอยู่แล้วก็จะคาดการณ์ได้ยากว่าประจำเดือนจะมาอีกครั้งเมื่อไหร่ครับ ในกรณีนี้ถ้าหากต้องการความมั่นใจจริงๆ หมอก็แนะนำให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ดูเมื่อห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ เพื่อให้ได้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
คือหนูมีอะไรกับแฟนค่ะ ใส่ถุงยางอนามัย แฟนเช็คถุงยางตลอดว่ารั่วหรือไม่รั่วแต่ก็ปกติทุกรอบ แต่รอบแรกแฟนไม่ใส่ถุง แต่ทำไม่เสร็จนะคะเอาออกมาก่อน หนูก็เลยกินยาคุมฉุกเฉินกันเอาไว้ จะไม่ทีผลอะไรใช่มั้ยคะ? แล้วก็มีอีกครั้งนึงที่หนูกำลังเอาถุงยางออก มีน้ำมันหยดลงมาอยู่ข้างๆน้องแต่ความรู้สึกหนูคือหนูปัดทันนะคะคือว่าเช็ดออกทัน แต่หยดแค่เม็ดเดียว แต่ถ้าสมมุติหนูปัดออกไปได้แค่ส่วนหนึ่งแต่อีกส่วนหนึ่งมันไหลเข้าไป มีโอกาสท้องมั้ยคะ หรือว่าไม่เพราะว่าหนูก็เช็คโดยการใช้ทิชชู่เช็ดอีกทีค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)