สอบถามค่ะ ในกรณีที่เราไม่ได้นอนกับแฟนนานเป้นระยะเวลา3เดือน และกับมามีอะไรกันอีกครั้ง และเผลอหลั่งในแต่ไม่ได้ปกป้องโดนใส่ถุงยาง และกินยาคุมฉุกเฉิกไปแร้ว ครบ2เม้ดตามที่บอก จะมีผลอะไรไหมค่ะ และต้องรอจนกว่าปจด.จะมารึว่าต้องการยาคุมแบบปกติตามค่ะ

สวัสดีครับ
ถ้าหากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้อวกันไปและได้รับประทานยาคุมฉุกเฉินไปแล้วก็ถือว่าเป็นวิธีการป้องกันการตั้งครรภ์ที่เหมาะสมครับ และในกรณีนี้ก็จะทำให้โอกาสตั้งครรภ์ลดลงไปได้ 75-85% ส่วนการรับประทานยาคุมแบบรายเดือนจะไม่เหมาะสมสำหรับในกรณีนี้เนื่องจากยาคุมแบบรายเดือนจะไม่มีผลป้องกันการตั้งครรภ์จากการมรเพศสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นไปแล้วครับ

หลังจากนี้หมอแนะนำให้รอสังเกตดูว่าประจำเดือนจะมาตามปกติหรือไม่ ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปก็ให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดู โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

เมื่อใช้ยาคุมฉุกเฉินครบขนาดและทันเวลาก็พอแล้วค่ะ ไม่ต้องรับประทานยาคุมรายเดือนเพิ่มอีก เพราะยาคุมรายเดือนไม่ได้มีผลป้องกันฉุกเฉินค่ะ

แต่ประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินไม่ได้สูงนัก แม้จะใช้ครบขนาดและทันเวลาแต่ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15 - 25% จึงต้องรอดูว่าจะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติเดิมหรือไม่ แต่ไม่ต้องสนใจว่าจะมีเลือดกะปริบกะปรอยที่เป็นผลข้างเคียงภายใน 7 วันหลังรับประทานหรือเปล่า เพราะไม่ได้สำคัญอะไร

ถ้าไม่มีประจำเดือนมา หรือถ้ากังวลว่าจะตั้งครรภ์ ก็สามารถตรวจให้ชัดเจนได้ โดยใช้ชุดทดสอบการต้้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ

และครั้งต่อไปที่จะมีเพศสัมพันธ์ หากไม่ได้คุมกำเนิดด้วยวิธีมาตรฐานใด ๆ อยู่ และยังไม่พร้อมที่จะมีบุตร ควรให้แฟนใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง เพราะถ้าใช้ถูกวิธี และไม่มีปัญหารั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียงแค่ 2% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่น่าจะกังวลค่ะ

สวัสดีค่ะ

กรณีที่ทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินไป ถ้าทานภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ยาคุมจะป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 75-85% หรือเกิดโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15-25% และสามารถตรวจการตั้งครรภ์จากปัสสาวะได้เมื่อมีเพศสัมพันธ์ไปแล้ว 14 วัน โดยให้ตรวจในตอนเช้าจะได้ผลที่น่าเชื่อถือมากที่สุด

และถ้าต้องการคุมกำเนิดล่วงหน้าก่อนมีเพศสัมพันธ์สามารถเริ่มทานยาคุมแบบรายเดือนเมื่อประจำเดือนมา โดยให้ทานเม็ดแรกภายใน 5 วันนับจากประจำเดือนมาวันแรกยาคุมจะออกฤทธิ์คุมทันทีตั้งแต่เม็ดแรก หรือถ้าทานนอกเหนือจาก 5 วันนั้นให้ทานให้ครบ 7 วันยาคุมถึงจะออกฤทธิ์ค่ะ โดย 7 วันนั้นต้องคุมด้วยถุงยางอนามัยไปก่อน โดยที่ถ้าทานถูกต้อง ทานทุกวัน ยาคุมจะสามารถคุมกำเนิดได้สูงสุดถึง 99.7% ค่ะ

สวัสดีครับ
โดยปกติแล้วการใช้ถุงยางอนามัยหากใช้อย่างถูกวิธีก็มีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ถึง 98% ซึ่งเพียงพอและไม่มีความจำเป็นต้องรับประทานยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินตามอีกครับ เว้นแต่เสียว่าถุงยางขาด รั่ว หรือมีความกังวลครับ ในกรณีของผู้ถามนั้นหากภายหลังจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งดังกล่าวไปแล้วไม่มีเพศสัมพันธ์อีกก็ไม่จำเป็นต้องรับประทานยาคุมแบบรายเดือนต่อครับ

1. "ถ้าประจำเดือนของเดือนที่แล้วยังไม่ทันมาจะเป็นอะไรไหมคะ"

ยังไม่ทราบสาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนของผู้ถามไม่มาตามรอบปกติ อย่างไรก็ตาม หากไม่ได้มีเพศสัมพันธ์เลยใน 3 เดือนที่ผ่านมา ปัญหาประจำเดือนที่ยังไม่มาในเดือนธันวาคมก็ไม่น่าจะเกิดจากการตั้งครรภ์นะคะ

และหากผู้ถามยังมีไข่ตกได้ เมื่อมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน หรือใช้ยาคุมฉุกเฉินแทนวิธีคุมกำเนิดปกติเช่นนี้ ก็ต้องถือว่ามีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้มากกว่าที่ควรจะเป็น หากเทียบกับการคุมกำเนิดด้วยวิธีมาตรฐานค่ะ

และเมื่อประจำเดือนมาไม่ปกติอยู่แล้ว แนะนำให้งดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน แล้วรอตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ
..
..
2. "ถ้าประจำเดือนมาแล้ว ควรรับประทานยาคุมรายเดือนต่อไปใช่ไหมคะ"

หากผู้ถามต้องการคุมกำเนิดด้วยยาคุมรายเดือน เช่น คาดว่าจะมีเพศสัมพันธ์อีกเรื่อย ๆ และยังไม่พร้อมที่จะมีบุตร ในกรณีที่ไม่มีโรคประจำตัวหรือข้อจำกัดใด ๆ ในการใช้ฮอร์โมนคุมกำเนิด ก็สามารถรับประทานยาคุมรายเดือนได้ค่ะ

โดยเริ่มรับประทานยาคุมรายเดือนแผงแรกภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ซึ่งจะถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้เลยตั้งแต่เม็ดแรกที่รับประทานนะคะ

การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีผลป้องกันจากยาคุมรายเดือน จะมีโอกาสตั้งครรภ์ 0.3 - 9% หรือค่อนไปทางต่ำ คือ 0.3% ถ้ารับประทานถูกต้องและตรงเวลาสม่ำเสมอค่ะ
..
..
3. "ถ้าประจำเดือนมักจะมาประมาณวันที่ 25 - 26 ของเดือน ใช้ยาคุมฉุกเฉินแล้วประจำเดือนจะมาตามปกติหรือเปล่าคะ"

เนื่องจากผู้ถามให้ข้อมูลมาว่าประจำเดือนของเดือนธันวาคมก็ยังไม่มาเลย และยังไม่ทราบสาเหตุของความผิดปกติดังกล่าว ดังนั้น ต่อให้ไม่มีการตั้งครรภ์ แต่ก็คงบอกได้ยากว่าประจำเดือนของเดือนนี้จะมาตามปกติหรือไม่นะคะ

ดังนั้น แนะนำให้งดมีเพศสัมพันธ์และรอดูไปก่อน หากรอนานแล้วยังไม่มีประจำเดือนมา ให้ตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ

และถ้าไม่มีประจำเดือนมาติดต่อกันตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไปทั้งที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ หรือถ้ามีปัญหาประจำเดือนมาไม่ปกติอยู่เรื่อย ๆ ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แท้จริง และพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมค่ะ