สวัสดีค่ะคุณหมอ ช่วงนี้เป็นกรดไหลย้อนค่ะ ตอนแรก กินไรก็อ้วก เพลียทั้งวันใจเต้นรัวตลอด แล้วไปหาหมอมาได้รับยาลดกรด +รักษาแผลในกระเพาะมาบ้างแล้ว ประมาณ 4วันค่ะ อาการตอนนี้ กินไรไม่อ้วกแล้ว ไม่เพลียเท่าไหร่ (กินอาหารอ่อนๆ) แต่ยังรู้สึกว่า พอมานั่งเฉยๆ ตรงอกก็ยังร้อนแสบตลอดเวลา กินข้าวก่อน6โมงเย็นทุกวัน ส่วนตอนใกล้นอน ถึงนอนหัวสูงก็ยังร้อนอก+ใจเต้นเร็วอยู่ค่ะ แต่ไม่แน่นนะคะ หนักที่ร้อนๆแสบๆ ลมร้อนๆ ตีมาตรงจมูกด้วยค่ะ ผายลมบ่อย เรอบ่อย อยากทราบว่า อาการแบบนี้ ได้รับยาไปเรื่อยๆ มันจะดีขึ้นตามลำดับ ต้องรอนานๆ หรือยามันไม่ถูกกับตัวเราคะ ? แสบอกไม่อยากให้เป็นนาน แต่นี่ก็เรื้อรังเป็นอาทิตย์แล้วค่ะ ค่อนข้างรบกวนชีวิตประจำวัน ในการทำงานด้วย อยากหาย อยากกลับมาทานได้ปกติ เช่นกาแฟ บ้าง แต่ต่อจากนี้จะไม่กิน หลัง6โมงอีกแล้วค่ะ ข้อคำแนะนำอาหารควรทานช่วงนี้ด้วยค่ะ นมจืด ข้าวขาหมู อะไรนิดๆหน่อยๆได้ไหมคะ ทรมานกับสิ่งที่จืดๆ มากพอๆกับแสบอกเลยค่ะ

สวัสดีครับ
โรคกรดไหลย้อนนั้นเป็นโรคที่จะต้องใช้เวลาในการรักษาประมาณ 1-2 เดือน โดยการรับประทานยาลดกรด ยาแก้อาเจียนเพื่อช่วยในการเคลื่อนที่ของอาหารไม่ให้ไหลย้อนกลับขึ้นมา รับประทานยาช่วยขับลมตามอาการ และต้องมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารควบคู่ไปด้วยครับ โดย
- หลีกเลี่ยงการรับประทานของมันของทอด
- อาหารรสเผ็ดจัดเปรี้ยวจัด
- ไม่ดื่มเครื่องดื่มประเภทชา กาแฟ น้ำอัดลม และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ไม่นอนใน 4 ชั่วโมงหลังรับประทานอาหาร
ถ้าปฏิบัติตามนี้อาการก็จะค่อยๆดีขึ้นได้เป็นลำดับครับ

ส่วนอาหารอื่นๆก็ยังสามารถรับประทานต่อได้ตามปกติครับ สำหรับนมสามารถดื่มได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการดื่มในช่วงมื้อเย็น ส่วนข้าวขาหมูแนะนำให้หลีกเลี่ยงการรับประทานหนังหมูครับ

ถ้าเคยมีอาการในลักษณะนี้มาก่อนแล้วหายไปนานก่อนที่จะกลับมามีอาการอีกครั้งในตอนนี้ และในครั้งนี้ก็เพิ่งรับการรักษามาไม่นานก็ยังไม่ถือว่าเป็นอาการที่เรื้อรังครับ

หมอแนะนำให้รักษาต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์ไปอย่างน้อย 1-2 เดือนก่อน และถ้าอาการยังไม่ดีขึ้น ก็ควรปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาส่องกล้องทางเดินอาหารหาสาเหตุอื่นๆครับ