January 29, 2019 21:01
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
สวัสดีค่ะ สำหรับการใช้ถุงยางอนามัย มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ค่ะ หากใช้ไม่ถูกวิธี การใช้ถุงยางอนามัยมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 2-18% ค่ะ ขึ้นกับการใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกต้องหรือไม่ กล่าวคือ ไม่ควรนำอวัยวะเพศชายสอดใส่ในอวัยวะเพศหญิงก่อนสวมถุงยางค่ะ เนื่องจากในน้ำหล่อลื่นเพศชาย อาจมีตัวอสุจิปนเปื้อนอยู่ค่ะ และถุงยางอนามัย ต้องไม่รั่ว ไม่ฉีกขาดค่ะ
ถ้าใช้อย่างถูกต้องโอกาสการตั้งครรภ์เหลือเพียงประมาณ2%ค่ะ
ดังนั้น ถ้าคนไข้ใช้อย่างถุกต้อง ถุงยางไม่รั่ว ไม่ขาด โอกาสการตั้งครรภฺ จึงน้อยมากๆ คนไข้สบายใจได้ ไม่ต้องทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินก็ได้ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
สวัสดีค่ะ สำหรับการใช้ถุงยางอนามัย มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ค่ะ หากใช้ไม่ถูกวิธี การใช้ถุงยางอนามัยมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 2-18% ค่ะ ขึ้นกับการใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกต้องหรือไม่ กล่าวคือ ไม่ควรนำอวัยวะเพศชายสอดใส่ในอวัยวะเพศหญิงก่อนสวมถุงยางค่ะ เนื่องจากในน้ำหล่อลื่นเพศชาย อาจมีตัวอสุจิปนเปื้อนอยู่ค่ะ และถุงยางอนามัย ต้องไม่รั่ว ไม่ฉีกขาดค่ะ
ถ้าใช้อย่างถูกต้องโอกาสการตั้งครรภ์เหลือเพียงประมาณ2%ค่ะ
ดังนั้น ถ้าคนไข้ใช้อย่างถุกต้อง ถุงยางไม่รั่ว ไม่ขาด โอกาสการตั้งครรภฺ จึงน้อยมากๆ คนไข้สบายใจได้ ไม่ต้องทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินก็ได้ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
หากใช้ถุงยางถูกต้องและไม่รั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 2% จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินเป็นวิธีป้องกันสำรองค่ะ
แต่ถ้าผู้ถามไม่มั่นใจว่ามีการใช้ถุงยางถูกต้องหรือไม่ หรือถ้าไม่ได้มีการตรวจสอบการรั่วซึมของถุงยาง ก็สามารถรับประทานยาคุมฉุกเฉินเป็นวิธีป้องกันสำรองได้นะคะ
โดยให้รับประทานเร็วที่สุดที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ (การใช้ภายใน 72 ชั่วโมงแรกหลังมีเพศสัมพันธ์ จะมีประสิทธิภาพดีกว่าการใช้ที่ 72 - 120 ชั่วโมงค่ะ) โดยสามารถรับประทานแบบหมดแผงในครั้งเดียวได้เลย นั่นคือ ถ้าใช้ยี่ห้อที่มีแผงละ 2 เม็ด ก็รับประทาน 2 เม็ดพร้อมกันในครั้งเดียว หรือถ้าใช้ยี่ห้อที่มีแผงละ 1 เม็ด ก็รับประทานเม็ดเดียวครั้งเดียวค่ะ
ซึ่งถ้ามีการใช้ถุงยางไม่ถูกต้องหรือมีการรั่วซึมจริงตามที่ผู้ถามกังวล การใช้ยาคุมฉุกเฉินที่เร็วและครบขนาด ก็อาจช่วยลดความเสี่ยงของการตั้งครรภ์ลงมาได้บ้าง โดยเหลือโอกาสตั้งครรภ์เป็น 15% แทนค่ะ
แต่ถ้ามีการใช้ถุงยางถูกต้องและไม่รั่วซึมอยู่แล้ว การรับประทานยาคุมฉุกเฉินก็ไม่ได้มีประโยชน์นะคะ และยังจะทำให้ได้รับผลข้างเคียงจากยาโดยไม่จำเป็นค่ะ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ เจ็บคัดตึงเต้านม และมีเลือดกะปริบกะปรอย
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
หากมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ทันตั้งตัวเป็นครั้งแรกแต่ป้องกันด้วยถุงยางอนามัยแล้ว ควรที่จะทานยาคุมฉุกเฉินเพื่อป้องกันอีกมั้ยคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)