คุณหมอคะพอดีเมื่อเดือนที่แล้วประจำเดือนหนูมาประมาณวันที่3-4 ม.ค นิแหละค่ะ หนูคิดว่าหมดช่วงวันที่10 ม.ค ค่ะ แต่พอหนูมีอะไรกับแฟนวันที่ 11. ม.ค ดันมีคาบเลือดติดถุงยางอนามัยมาค่ะแล้วก็เว้นระยะมาจนถึงวันที่ 20 ม.ค หนูทีเลือดออกทางช่องคลอดสีแดงมีประมาณ2-3วันค่ะแล้วก็เมื่อประมาณวันที่6-7ก.พ มีลิ่มเลือดสีตาลคล้ำออกมา2ก้อนเล็กค่ะๆแล้วก็ไม่มีเลยค่ะ แล้วก็เมื่อไม่กี่ก็มีตกขาวสีขาวขุ่นค่ะแล้วก็เมื่อวานกับวันนี้สีตกขาวเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเขียวนิดๆค่ะไม่มีคันไม่มีกลิ่นเจ็บเต้านมนิดๆค่ะแล้วจริงๆประจำเดือนหนูต้องมาประมาณ ไม่วันที่3-4อะค่ะแล้วมาตอนนี้ปจด.หนูก็ยังไม่มีเลยค่ะถุงยางไม่แตกค่ะหนูกลัวว่าอาจมีรอยรั่วไหมอันนี้พอมีอะไรเสร็จน้ำอสจ.ก็แบบเป้งในกระบอกเก็บนะคะไม่แฟบไม่เหี่ยวแบบนี้หนูมีโอกาสท้องไหมคะ

สวัสดีครับ
ถ้าหากได้ใช้ถุงยางอนามัยได้อย่างถูกต้องแล้วระหว่างมีเพศสัมพันธ์ก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้เพียง 2% เท่านั้นครับ แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปหมอก็แนะนำว่าควรลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูก่อน โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

ส่วนการที่มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดและมีตกขาวเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเขียวนั้นก็มีโอกาสที่จะเกิดจากการติดเชื้อบางอย่างในช่องคลอดได้ครับ ในส่วนนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ

อาการเริ่มแรกของการตั้งครรภ์จะเริ่มจากการขาดประจำเดือนก่อนครับ ส่วนอาการอื่นๆ เช่น ตกขาวมากขึ้น เจ็บคัดตึงเต้านม แพ้ท้อง ท้องใหญ่ขึ้น มักจะตามมาในภายหลังจากที่ประจำเดือนขาดหายไป 2-3 เดือนแล้วครับ

ในกรณีที่ประจำเดือนขาดหายไปการตรวจการตั้งครรภ์ก็จะเป็นวิธีที่ช่วยให้ทราบได้แน่นอนและเร็วที่สุดว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่ครับ