November 03, 2020 11:51
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
จริงๆแล้วถ้าหากใช้ถุงยางอนามัยป้องกันอย่างถูกต้องแล้วก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ไเ้เพียง 2% เท่านั้นครับ ในขณะที่การรับประทานยาคุมฉุกเฉินจะยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15-25% ถ้าราใช้ถุงยางอนามัยแล้วก็ไม่มีความจำเป็นต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินครับ
ในกรณีที่รับประทานยาคุมฉุกเฉินติดต่อกันก็อาจมีผลข้างเคียงจากยามากขึ้นได้ครับ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ปวดศีรษะ คัดเต้านม มีเลือดออกผิดปกติ แต่จะไม่ได้ทำให้เกิดอันตรายครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
สวัสดีค่ะ
จริงๆแล้วถ้าใช้ถุงยางอนามัยโดยที่ถุงยางไม่รั่ว ใช้อย่างถูกต้อง จะป้องกันการตั้งครรภ์ได้สูงสุดถึง 98%ค่ะ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินซ้ำค่ะ ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินจะทานเมื่อไม่ได้ป้องกันหรือถุงยางขาดค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
เมื่อเดือนตุลาคมประจำเดือนยังไม่มาแต่ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ แต่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาได้มีเพศสัมพันธ์กับแฟน โดยเเฟนใส่ถุงยางแล้วก้หนูได้ทานยาคุมฉุกเฉินไปด้วย พอวันจันทร์ก็มีเพศสัมพันธ์อีก แต่ห่างจากช่วงที่ทานยาคุมเม็ดที่2ไปประมาน8ชม. ในวันจันทร์ช่วงเย็นก้ได้ทานยาคุมไปอีก1เม็ด เป็น3เม็ดในช่วงเวลาที่ไล่เลี่ยกัน แล้วเม็ดสุดท้ายทานต่อในวันถัดไป อยากทราบว่าจะมีโอกาสตั้งครรภ์ไหมค่ะ แล้วยาคุมฉุกเฉิน เมื่อเราทานครบ2เม็ดแล้วสามารถคุมได้กี่ครั้ง แล้วจะมีผลต่อร่างกายไหมค่ะ เพราะตอนนี้เท่ากับว่าทานยาคุมไปแล้ว4เม็ดในระยะเวลา2วัน แต่แฟนบอกว่าไม่ต้องทานยาคุมก็ได้เพราะเค้าใส่ถุงยาง แบบนี้เชื่อได้ไหมค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)