สวัสดีค่ะอยากจะสอบถามคือหนูเพิ่งจะไปเอาที่ฝังยาคุมชนิด3ปีออกเมื่อวันที่3มีนาแล้วปกติประจำเดือนจะมาประมานวันที่20ไม่เกิน25จะมา7-8วันแต่เมื่อเดือนกุมภามาตั้งแต่ต้นเดือนยาวเลยค่ะตามรูปที่แนบหายไปแค่3วันคิดว่าคงน่าจะไม่มาแล้ว ส่วนตัวคิดว่าอาจจะเป็นเพราะฮอร์โมนกำลังเปลี่ยนมาหยุดจริงๆวันที่9มีนาแล้วพยาบาลบอกให้กินยาคุมหลังประจำเดือนหาย2วัน หนูเริ่มกินวันที่12คะใช้แอพFloในการดูด้วยแต่คือตอนนี้หนูไม่สามารถระบุได้ว่าประจำเดือนหนูจะมาอีกทีตอนไหนแล้วไข่ตกตอนไหน+กับมีเพศสัมพันธ์หลังใน จะมีโอกาสท้องมั้ยคะ

สวัสดีครับ
ในกรณีที่ไม่ได้เริ่มรับประทานยาคุมในวันเดียวกับที่ถอดยาคุมแบบฝังออกก็จะต้องรับประทานยาคุมติดต่อกันนานอย่างน้อย 7 วันก่อน ยาคุมจึงจะเริ่มป้องกันการตั้งครรภ์ได้ครับ และถ้าหากจะมีเพศสัมพันธ์ภายใน 7 วันแรกที่รับประทานยาคุมก็จะต้องใช้ถุงยางอนามัยป้องกันไปก่อน

ส่วนเลือดที่ออกมาผิดปกติก่อนหน้านี้ก็จะเกิดจากผลข้างเคียงจากฮอร์โมนในช่วงที่ฝังยาคุมได้ครับ แต่เมื่อรับประทานยาคุมไปแล้วฮอร์โมนในร่างกายก็จะถูกปรับใหม่อีกครั้ง และประจำเดือนก็จะมาในช่วงเวลาตามนี้ครับ
- ถ้าหากรับประทานยาคุมชนิด 21 เม็ด ประจำเดือนก็จะมาในช่วงที่เว้นการรับประทานยา 7 วันก่อนเริ่มรับประทานยาแผง
- ถ้าหากรับประทานยาคุมชนิด 28 เม็ด ประจำเดือนก็จะมาในช่วงที่รับประทานยาเม็ดแป้ง 4-7 เม็ดสุดท้ายของแผงขึ้นอยู่กับยี่ห้อของยาคุม

ถ้าผู้ถามใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมอยู่ หากไม่ตั้งครรภ์ ประจำเดือนรอบนี้จะมาในช่วงปลอดฮอร์โมนของแผงค่ะ

เช่น ถ้ายาคุมที่ใช้เป็นแบบ 21 เม็ด เมื่อหมดแผงแล้วจะต้องเว้นว่างเป็นช่วงปลอดฮอร์โมน 7 วันก่อนต่อยาคุมแผงใหม่ ประจำเดือนจะมาในช่วงที่เว้นว่าง โดยมักจะมาประมาณวันที่ 3 หรือ 4 ของการเว้นว่าง แต่ก็อาจคลาดเคลื่อนจากนั้นเล็กน้อย

แต่ถ้ายาคุมที่ใช้เป็นยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมแบบ 28 เม็ด เมื่อหมดแผงแล้วจะต้องต่อแผงใหม่ในวันถัดมา ไม่ต้องเว้นว่างเพิ่มอีก ประจำเดือนจะมาในช่วงที่รับประทานเม็ดแป้ง ซึ่งถือเป็นช่วงปลอดฮอร์โมนของแผง และอาจมีเม็ดแป้ง 7 เม็ด หรือ 4 เม็ด ขึ้นกับยี่ห้อยาคุมที่ใช้ โดยประจำเดือนมักจะมาหลังจากที่ใช้เม็ดยาฮอร์โมนหมดไปแล้ว 2 - 3 วันหรือคลาดเคลื่อนเล็กน้อยค่ะ
..
..
อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้ถามไม่ได้ต่อยาคุมทันทีในวันที่ถอดยาฝังคุมกำเนิดออก ก็จะต้องรับประทานเม็ดยาฮอร์โมนของยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมติดต่อกันให้ครบ 7 วันก่อนจึงจะมีผลคุมกำเนิดได้นะคะ ในช่วงที่ยังไม่มีผลป้องกันจากยาคุมรายเดือน ควรงดมีเพศสัมพันธ์ หรือต้องใช้ถุงยางอนามัยป้องกันไปก่อนค่ะ

ซึ่งหลังถอดยาฝังคุมกำเนิดออกตามกำหนด มาจนถึงปัจจุบัน ถ้ามีเพศสัมพันธ์ไปแล้วโดยไม่ป้องกันด้วยถุงยางอนามัย แนะนำให้รับประทานยาคุมฉุกเฉินทันที หรือเร็วที่สุดที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงเพื่อลดความเสี่ยงดังกล่าวให้น้อยลง และงดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน แล้วรอตรวจการตั้งครรภ์ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันด้วยนะคะ

การใช้โปรแกรมช่วยคำนวณวันไข่ตกไม่สามารถใช้ได้ในกรณีที่คุมกำเนิดด้วยฮอร์โมนอยู่ค่ะ และไม่สามารถคาดการณ์วันไข่ตกจากวันที่ผู้ถามมีประจำเดือนมาได้ เนื่องจากเลือดที่ออกมาอาจเป็นผลข้างเคียงจากยาฝังคุมกำเนิดเอง

เมื่อผู้ถามเริ่มรับประทานยาคุมแผงนี้ช้าไป ก็จะต้องรับประทานติดต่อกันให้ครบ 7 วันก่อนจึงจะถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้นะคะ ในช่วงที่ยังไม่มีผลป้องกันจากยา จึงต้องงดมีเพศสัมพันธ์ หรือต้องใช้ถุงยางป้องกันไปก่อน

เพราะในกรณีที่ถอดยาฝังคุมกำเนิดออกตามกำหนด ผู้ผลิตแนะนำว่าอาจมีไข่ตกได้เร็วภายใน 1 - 2 สัปดาห์หลังจากที่ถอดยาฝังคุมกำเนิดออกค่ะ ดังนั้น ถ้าผู้ถามมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วโดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย ในช่วงที่ไม่มีผลป้องกันทั้งจากยาฝังคุมกำเนิดและจากยาคุมอาร์เดน ก็มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้มากกว่าที่ควรจะเป็น

(นอกจากนี้ ข้อมูลที่ผู้ถามให้มาก็ขัดแย้งกันเองนะคะ เพราะในหัวข้อกระทู้ บอกว่าเริ่มรับประทานอาร์เดนในวันที่ 12 แต่ข้อมูลที่มาให้เพิ่มเติมในเวลา 20.15 น. ของวันที่ 13 มีนาคม กลับบอกว่ามีการรับประทานยาคุมไปแล้ว 3 เม็ด อย่างไรก็ตาม ไม่สำคัญค่ะ เพราะถือว่ายังไม่มีผลคุมกำเนิดจากยาคุมอาร์เดนอยู่ดี)

ดังนั้น แนะนำให้รับประทานยาคุมฉุกเฉินทันที หรือเร็วที่สุดที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์นะคะ
..
..
ส่วนยาคุมอาร์เดน ถ้าเพิ่งเริ่มรับประทานในวันที่ 12 มีนาคม และเลือดที่ออกมาผิดปกติก่อนหน้านี้ก็หายไปแล้ว แนะนำให้หยุดรับประทานไปก่อน แล้วรอดูว่าจะมีประจำเดือนมาหรือไม่ (ถ้าไม่ตั้งครรภ์ ควรจะมีประจำเดือนมาภายในเวลาประมาณ 1 เดือนหลังจากที่ถอดยาฝังคุมกำเนิดออกค่ะ)

แต่ไม่ต้องสนใจเลือดกะปริบกะปรอยที่อาจพบภายใน 7 วันหลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินนะคะ เพราะเป็นเพียงผลข้างเคียงจากยา ไม่ได้สำคัญอะไร (ยกเว้นว่าเลือดออกมามากหรือนานผิดปกติ ก็ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริง และพิจารณาการรักษาที่เหมาะสม)

ในระหว่างที่รอให้ประจำเดือนมา ควรงดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน หรือถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ ควรให้แฟนใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง

ถ้ามีประจำเดือนมาแล้ว หากต้องการคุมกำเนิดด้วยการรับประทานยาคุมรายเดือน ควรเริ่มใช้ภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน และจะถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้เลย ซึ่งถ้ามีการใช้อาร์เดนไปเพียงแค่ 1 - 2 เม็ด จะนำแผงเดิมที่เหลืออยู่มาใช้ต่อก็ได้ค่ะ (แต่ถ้าใช้ไปแล้ว 3 เม็ดตามข้อมูลล่าสุด แนะนำให้ซื้อแผงใหม่มารับประทานเลยนะคะ)

ถ้าไม่มีประจำเดือนมา หรือถ้ากังวลว่าจะตั้งครรภ์ สามารถตรวจให้ชัดเจนได้ โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันค่ะ