ลูกชายอายุ 6 ขวบ มีอาการชอบเคี้ยวเสื้อผ้า/หมอน/ตุ๊กตา เวลาที่เขาทำ/คิดอะไรเพลินๆ แบบนี้เข้าข่ายเป็นจิตเภทมั้ยคะ สาเหตุเกิดจากอะไร มีวิธีแก้ไข/รักษาอย่างไร

หากมีแค่การเคี้ยว แต่ไม่มีการกลืนกิน อาจเป็นปัญหาพฤติกรรมที่คล้ายกับการกัดเล็บ ซึ่งสาเหตุอาจเกิดได้จากหลายปัจจัยร่วมกัน ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเกิดจากความวิตกกังวล การได้เคี้ยวสิ่งดังกล่าวจะช่วยให้เขารู้สึกผ่อนคลาย ค่ะ

วิธีการแก้ไข คือการปรับพฤติกรรม ซึ่งต้องพูดคุยกับเด็กว่าการที่เคี้ยวสิ่งเหล่านี้อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพอย่างไร สังเกตพฤติกรรม หากเมื่อใดที่เด็กกำลังจะนำสิ่งเหล่านั้นมาเคี้ยวก็ต้องเตือนสติและหยุดพฤติกรรมนั้นทันที
หมั่นพาไปออกกำลังกาย หรือชวนทำกิจกรรมอื่นๆเพื่อเบี่ยงเบนความคิดจากสิ่งของเหล่านั้น ค่ะ

แต่หากปรับแล้วไม่ได้ผล มีการเคี้ยวและกลืนกินสิ่งที่ไม่ควรกิน หรือกินของแปลกๆ ควรพาไปพบจิตแพทยืเด้กและวัยรุ่น ประเมินอาการอื่นๆเพิ่มเติม วินิจฉัยโรคให้แน่ชัด แล้วรับการรักษาตามแนวทางที่เหมาะสม
ในกรณีที่เด็กกินของแปลกๆ อาจเข้าข่ายอาการของโรค Pica ซึ่งโรคนี้มักพบในวัยเด็ก และมักพบว่าเด็กที่มีอาการ Pica มักมีปัญหาทางด้านพัฒนาการ มีความบกพร่องทางสติปัญญา หรือมีความผิดปกติทางด้านจิตใจ ซึ่งจำเป็นต้องประเมินอาการอย่างละเอียด นะคะ

สวัสดีครับ

พฤติกรรมตรงนั้นไม่ใช่เรื่องโรคจิตเภทนะครับ ค่อนข้างห่างไกลกันมากเลย ซึ่งผมเองมองว่าเป็นการคล้ายพฤติกรรมการกัดเล็บเหมือนที่พี่นักจิตวิทยาได้ให้ข้อมูลไว้ซึ่งเป็นเพียงสิ่งที่เกิดขึ้นจากการเรียนรู้และบางครั้งเกิดขึ้นแบบที่ตนเองก็ไม่รู้ตัวครับ

สิ่งสำคัญก็คือการพูดคุยและสอนแบบที่พี่นักจิตวิทยาได้บอกไว้ สร้างข้อตกลงร่วมกันเนื่องจากเหตุผลด้านสุขลักษณะและบุคลิกภาพ วิธีการที่อยากจะเพิ่มเติมก็คือการชื่นชม ในเวลาที่เขาไม่กัดสิ่งเหล่านั้นมากกว่าการดุหรือทำโทษเมื่อเขาทำพฤติกรรมการกัดออกมานะครับ การเตือนหรือการบอกให้หยุดเป็นสิ่งที่ต้องทำเมื่อเห็นเขากัดสิ่งเหล่านี้ แต่ไม่ควรใช้น้ำเสียงในลักษณะดุ แต่เป็นการทัก หรือสอบถามเขามากกว่าว่าเขารู้ตัวหรือไม่ว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่และละเมิดข้อตกลงที่คุยกันไว้หรือไม่ หากมีบทลงโทษ อาจจะแนะนำว่าให้ตกลงกันล่วงหน้า เช่น หากเห็นว่ากัด จะทำการลดเวลาการเล่นลง หรืองดเล่นของเล่นเป็นเวลากี่ชั่วโมงตรงนี้ก็สามารถทำได้ แต่ต้องเป็นการตกลงร่วมกันกับตัวน้องนะครับจึงจะได้ผลดี อาจจะเขียนกันไว้ได้หากน้องไม่ค่อยสนใจ

ตรงนี้ลองปรับพฤติกรรมจากที่บ้านก่อนครับ หากว่าไม่ดีขึ้นเท่าไหร่อาจจะลองปรึกษาจิตแพทย์เด็ก หรือนักจิตวิทยาเด็กก็จะสามารถช่วยให้คำแนะนำหรือช่วบฝึกน้องในเรื่องตรงนี้ได้ครับ สุดท้ายนี้หากมีคำถามเพิ่มเติมคุณแม่ก็สามารถสอบถามเข้ามาได้นะครับ