มีอะไรกับเเฟนเมื่อวันที่4 เเต่ใส่ถุงแล้วเสร็จเเต่ตอนเช็คว่าถุงรั่วไหมใส่น้ำในถุงแล้วบีบ แล้วถุงเเตก จึงกินยาคุมฉุกเฉินตอนนั้นเลย แล้ววันที่10 มีเลือดออกเยอะสีเข้มๆกว่าปกติ แบบนี้ถือว่าท้องไหมครับ ไม่รู้ว่าเป็นประจำเดือนหรือเลือดล้างหน้า

สวัสดีครับ
เลือดที่ออกมานั้นไม่ใช่ทั้งประจำเดือน และเลือล้างหน้าเด็กอย่างที่ผู้ถามสงสัยครับ เลือดดังกล่าวเป็นผลข้างเคียงจากการทานยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินครับ ซึ่งพบได้บ่อยในช่วงภายหลังการทานยาชนิดนี้ประมาณ 1 สัปดาห์ เลือดที่ออกมานั้นไม่ใช่ประจำเดือน และไม่ได้บ่งบอกว่าจะไม่มีการตั้งครรภ์ครับ ประจำเดือนจริงๆของผู้ที่ทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมักจะมาปกติตามรอบเดือน ในช่วงเวลาเดิม แต่อาจจะเลื่อนได้บ้างครับ หากพ้นกำหนดรอบเดือนตามปกติแล้วประจำเดือนยังไม่มา ให้สงสัยไว้ก่อนว่าอาจจะมีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นได้ แนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์หลังจากการมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วอย่างน้อย 2 สัปดาห์ครับ

สวัสดีครับ
ถ้าถุงยางอนามัยมีการแตกรั่วและได้รับประทานยาคุมฉุกเฉินไปแล้วก็จะช่วยลดโอกาสตั้งครรภ์บงได้ 75-85% ครับ

หลังจากรับประทานยาคุมฉุกเฉินแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ อาจมีผลข้างเคียงทำให้มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดได้ ในกรณีนี้เลือดที่ออกมาจึงอาจเป็นเพียงผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินเท่านั้น ส่วนประจำเดือนก็ควรจะมาในช่วงที่ใกล้เคียงกับกำหนดตามปกติครับ

หลังจากนี้หมอแนะนำให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูก่อน โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

ยาคุมฉุกเฉินมีผลกระทบได้หลายอย่างครับ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ปวดศีรษะ คัดตึงเต้านม อารมณ์แปรปรวน ตกขาวมากขึ้น มีเลือดออกผิดปกติระหว่างรอบเดือน

จากอาการที่เล่ามานี้จึงยังเป็นผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉินได้ครับ

ส่วนถ้าหากต้องการทราบให้แน่ชัดว่ามีการตั้งครรภ์อยู่หรือไม่ หมอก็แนะนำว่าควรลองตรวจการตั้งครรภ์ดูตามช่วงเวลาที่หมอได้แนะนำไปครับ

เลือดล้างเด็กเป็นเลือดที่เกิดจากการฝังตัวของตัวอ่อนกับเยื่อบุโพรงมดลูกในกรณีที่มีการตั้งครรภ์ ซึ่งก็จะมีลักษณะเป็นเลือดสีชมพูจางๆออกมาในปริมาณเพียงเล็กน้อยแต่พอเปื้อนกางเกงในติดต่อกันนาน 1-2 วันครับ

โดยส่วนใหญ่แล้วผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินจะมีอยู่ได้ประมาณ 1-2 สัปดาห์หลังรับประทานยาครับ

เลือดที่ออกจากผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินจะมีลักษณะเป็นเชือดออกกระปริกกระปรอยออกมาติดต่อกันนาน 3-7 วันครับ

ส่วนเลือดประจำเดือนนั้นจะยังมาตามรอบประจำเดือนปกติอยู่โดยที่จะมาในปริมาณที่มากกง่า มักต้องใช้ผ้าอนามัยวันละ 2-3 แผ่น และเลือดจะออกมาติดต่อกันนาน 3-7 วันครับ

ในกรณีนี้หมอคงไม่สามารถยืนยันได้อย่างชัดเจนว่าเลือดที่ออกมาเป็นประจำเดือนหรือไม่ครับ เพราะจะต้องมีการสังเกตดูลักษณะเลือดในระยะยาว ต้องดูระยะห่างจากรอบเดือนก่อน และต้องเทียบกับลักษณะของเลือดในรอบเดือนก่อนๆด้วยว่าเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร ซึ่งทางแฟนของคุณน่าจะเป็นคนที่สังเกตสิ่งเหล่านี้ได้ดีที่สุดครับ

ถ้าหากมั่นใจว่าเลือดที่ออกมาเป็นประจำเดือนตามปกติก็สามารถมั่นใจได้ว่าไม่มีการตั้งครรภ์ครับ

แต่ถ้ายังไม่แน่ใจว่าใช่ประจำเดือนหรือไม่ ก็ควรลองตรวจการตั่งครรภ์ยืนยันดูตามช่วงเวลาที่หมอได้แนะนำไปก่อนครับ

ถ้าประจำเดือนเพิ่งหมดไปในวันที่ 25 ธันวาคม เลือดที่ออกมาในตอนนี้ก็ไม่น่าใช่ประจำเดือน เพราะมีระยะห่างกับรอบเดือนที่แล้วน้อยเกินไปครับ

การตรวจการตั้งครรภ์นั้นแนะนำให้ตรวจเมื่อห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

การรับประทานยาคุมไม่มีผลต่อการตรวจการตั้งครรภ์ครับ

ลักษณะของประจำเดือนที่ปกติน้้นจะมามากในช่วงวันแรกๆและจะค่อยๆมีปริมาณลดลงเรื่อยๆในวันต่อมา และเลือดก็จะออกมาติดต่อกันนาน 3-7 วัน โดยที่ในเลือดประจำเดือนก็อาจมีลิ่มเลือดปนออกมาได้ครับ

อย่างไรก็ตามการที่จะบอกได้อย่างชัดเจนว่าเลือดที่ออกมานั้นเหมือนกับปรพจำเดือนตามปกติหรือไม่ก็จะต้องเทียบกับลักษณะเลือดในเดือนที่ผ่านๆมสด้วยครับ ซึ่งในกรณีนี้ทางแฟนของคุณน่าจะบอกได้ดีที่สุด

แต่ถ้าหากยังไม่สามารถมั่นใจได้ว่าเลือดที่ออกมาเป็นประจำเดือนตามปกติ หมอก็แนะนำให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ดูตามช่วงเวลาที่หมอได้แนะนำไปก่อนครับ

เนื่องจากไม่ได้เห็นลักษณะเลือดจึงบอกได้บากว่าเลือดที่ออกมาก่อนหน้านี้จะใช่ประจำเดือนหรือไม่ครับ แต่ถ้าหากได้ตรวจการตั้งครรภ์ตามช่วงเวลาที่หมอแนะนำไปแล้ว คือ ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจแล้วไม่พบการตั้งครรภ์ ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการตั้งครรภ์แล้วครับ

ถ้าเช่นนั้นหมอก็แนะนำให้ลองตรวจด้วยปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าอีกครั้งเพื่อความแน่ใจครับ

ไม่ทราบว่าได้ตรวจการตั้งครรภ์ตามช่วงเวลาที่หมอแนะนำไปหรือยังครับ

ถ้ายังไม่ได้ตรวจการตั้งครรภ์ตามช่วงเวลาที่หมอแนะนำไปหมอก็แนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ดูก่อนครับ

ถ้าได้ตรวจการตั้งครรภ์ไปตามที่หมอแนะนำแล้วก็ไม่ควรต้องกังวลเรื่องการตั้งครรภ์มาก และประจำเดือนก็มักมาช้าไปจากสาเหตุอื่นมากกว่าครับ เช่น
- ไม่มีการตกไข่ในรอบเดือนที่ผ่านมา
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
- ความเครียด
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
เป็นต้น
ซึ่งในกรณีนี้ก็อาจรอประจำเดือนต่อไปก่อนได้อีกระยะหนึ่ง แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนหรือมีปัญหาประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมออยู่บ่อยๆก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุครับ