กองบรรณาธิการ HonestDocs
เขียนโดย
กองบรรณาธิการ HonestDocs

โรคติดเชื้อในระบบบประสาทส่วนกลาง (Central Nervous System Infection)

เผยแพร่ครั้งแรก 8 มิ.ย. 2019 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 5 นาที

เรื่องควรรู้

ขยาย

ปิด

  • โรคติดเชื้อในระบบประสาทส่วนกลาง คือ โรคที่เกิดจากระบบประสาทส่วนกลางเกิดการติดเชื้อจากเชื้อโรค เชื้อแบคทีเรีย เชื้อปรสิต เชื้อไวรัส เชื้อรา จนหลังจากนั้น การติดเชื้อจะลุกลามไปทั่วอวัยวะของระบบประสาทส่วนกลาง
  • อาการเมื่อติดเชื้อในระบบประสาทส่วนกลาง ได้แก่ มีไข้ ปวดศีรษะ ความรู้สึกตัวเปลี่ยนไป อาการชัก ปวดหลัง ปวดคอ คอแข็ง
  • การทำกายภาพบำบัด เป็นบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูผู้ป่วยโรคติดเชื้อในระบบประสาทส่วนกลาง เพราะหากระบบประสาทเสียหายหนัก ผู้ป่วยอาจไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ตามปกติ
  • หากติดเชื้อในระบบประสาทส่วนกลางแล้วไม่ได้รับการวินิจฉัย และรักษาอย่างทันท่วงที ผู้ป่วยสามารถเกิดภาวะพิการถาวรได้
  • เปรียบราคาและแพ็กเกจทำกายภาพบำบัด และนวดเพื่อรักษา

การติดเชื้อในระบบประสาทส่วนกลาง ทั้งสมอง ไขสันหลัง และอวัยวะบริเวณรอบๆ เป็นอาการที่พบได้บ่อยในประเทศไทย และนับว่าเป็นภาวะฉุกเฉินทางระบบประสาท 

นอกจากนี้ในผู้ป่วยระยะแรกๆ หรือในรายที่อาการยังไม่รุนแรงมาก อาการแสดงของภาวะนี้ยังจำแนกจากอาการอื่นๆ ได้ยาก ดังนั้นการทำความเข้าใจเรื่องสาเหตุ และปัจจัยเสี่ยงของการติดเชื้อในระบบประสาทส่วนกลาง จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
กายภาพบำบัดและนวดเพื่อการรักษาวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 198 บาท ลดสูงสุด 92%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

ความหมายของโรคติดเชื้อในระบบประสาทส่วนกลาง

โรคติดเชื้อในระบบบประสาทส่วนกลาง (Central Nervous System Infection) คือ โรคที่เกิดจากเชื้อโรค หรือสิ่งก่อโรคเข้าไปในบริเวณของระบบประสาทส่วนกลาง ไม่ว่าจะเป็นสมอง ไขสันหลัง เนื้อหุ้มสมอง น้ำเลี้ยงไขสันหลัง จนอาการติดเชื้อลุกลามไปทั่วอวัยวะของระบบประสาทส่วนกลาง 

วิธีที่เชื้อโรค และสิ่งก่อโรคจะเข้าสู่ร่างกายนั้นมีหลายวิธี เช่น 

  • เข้าสู่ระบบประสาทโดยตรงจากการบาดเจ็บ หรือการผ่าตัด 
  • ติดเชื้อจากอวัยวะข้างเคียง หรือเชื้อที่ก่อโรคเข้ามาทางระบบประสาทส่วนปลาย ก่อนจะค่อยๆ ลุกลามไปยังระบบประสาทส่วนกลาง 
  • เชื้อ หรือสิ่งที่ก่อโรคหลายชนิด เช่น แบคทีเรีย (Bacteria) ไวรัส (Virus) ปรสิต (Parasite) เชื้อรา (Fungus) และพริออน (Prion) ซึ่งเป็นกลุ่มโปรตีนก่อให้เกิดโรคได้ แต่ละชนิดก็จะมีวิธีรุกล้ำเข้าไปในระบบประสาทส่วนกลางที่แตกต่างกัน

อาการของโรคติดเชื้อในระบบประสาทส่วนกลาง

อาการของการติดเชื้อในระบบประสาทส่วนกลางจะมีลักษณะบางประการเฉพาะตัวของเชื้อ หรือสิ่งก่อโรคแต่ละชนิด อย่างไรก็ตาม การติดเชื้อในระบบประสาทส่วนกลางยังมีอาการทางคลินิกร่วมกันที่พบได้บ่อย ดังนี้

  1. มีไข้ ซึ่งไข้เป็นอาการทั่วไปของการติดเชื้อทุกประเภท อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยที่เป็นฝีในสมองอาจจะไม่มีไข้ก็ได้
  2. ปวดศีรษะ อาเจียนพุ่ง หรือตาพร่ามัว ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ความดันในกะโหลกเพิ่มสูงขึ้น
  3. ระดับความรู้สึกตัวเปลี่ยนแปลง เช่น ซึมลง
  4. มีอาการแสดงของเยื่อหุ้มสมองอักเสบ เช่น คอแข็ง (Stiff neck) ปวดศีรษะ กลัวแสง
  5. มีอาการชัก ซึ่งจัดเป็นอาการในระดับรุนแรง
  6. มีอาการปวดตามแนวระบบประสาทส่วนกลาง เช่น ปวดหลัง ปวดคอ ซึ่งอาจจะเกิดจากการติดเชื้อของกระดูกสันหลัง หรือการอักเสบของเส้นประสาท

โรคติดเชื้อในระบบประสาทส่วนกลางที่พบได้บ่อย

เนื่องจากสมอง และไขสันหลังซึ่งเป็นองค์ประกอบหลังของระบบประสาทส่วนกลางเป็นอวัยวะที่เชื่อมต่อกัน เยื่อหุ้มสมอง และไขสันก็เชื่อมต่อกัน 

นอกจากนี้น้ำเลี้ยงสมอง และไขสันหลังยังหมุนเวียนระหว่างสมองกับไขสันหลัง ทำให้เมื่อมีอาการติดเชื้อ การแพร่กระจายของเชื้อที่ก่อโรคไปยังบริเวณใกล้เคียงจึงเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว 

สมองและไขสันหลังยังมีส่วนสำคัญอย่างมากในการควบคุมการทำงานของร่างกายให้ปกติ หากเกิดความเสียหายขึ้นที่โครงสร้างเหล่านี้ จึงนำมาซึ่งความพิการ หรือสูญเสียความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวันได้อย่างมาก

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

โรคติดเชื้อในระบบประสาทส่วนกลางมีหลายโรค ในที่นี้จะขอแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ โรคติดเชื้อที่เกิดขึ้นกับสมอง และเยื้อหุ้มสมอง กับโรคติดเชื้อที่เกิดขึ้นกับไขสันหลังและเยื้อหุ้มไขสันหลัง จะขอยกตัวอย่างของโรคที่น่าสนใจกลุ่มละ 1 ตัวอย่าง ดังนี้

1. โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ (Meningitis) 

โรคนี้อาจมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อไวรัส ในกรณีของเชื้อแบคทีเรียจะมีอาการรุนแรงกว่า ส่วนการติดเชื้อไวรัสมีหลายงานหลายฉบับรายงานว่า สามารถหายได้เอง ส่วนอาการของโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบที่พบได้บ่อย คือ 

ภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อย คือ 

  • ฝีในสมอง 
  • ฝีที่เหนือและใต้ต่อเยื่อหุ้มสมอง
  • เส้นประสาทสมองอักเสบ 
  • น้ำคั่งในโพรงสมอง 
  • อาการชัก

ส่วนวิธีการวินิจฉัยที่เป็นที่นิยม คือ การเจาะตรวจน้ำไขสันหลัง (Lumbar puncture) 

2. โรคกระดูกสันหลังติดเชื้อ (Pyogenic vertebral osteomyelitis) 

อาจเกิดจากการลุกลามของการติดเชื้อบริเวณใกล้เคียงหลังผ่าตัดกระดูกสันหลัง การแพร่กระจายของเชื้อที่ก่อโรคมาตามกระแสเลือด แต่ส่วนมากไม่ทราบสาเหตุของการติดเชื้อ แต่มักพบในผู้ป่วยที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น มีโรคเบาหวาน อายุมาก หรือผู้ที่ใช้ยาเสพติดชนิดฉีด 

การวินิจฉัยโรคกระดูกสันหลังติดเชื้อทำได้ยากมาก เนื่องจากอาการจะค่อยๆ รุนแรงขึ้น อาจกินเวลานานถึง 3 เดือน อาการที่พบได้บ่อย คือ 

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

  • ปวดหลัง 
  • ปวดคอ ร่วมกับมีอาการปวดร้าว (Radicular pain) ไปที่แขน หรือขา และมักปวดเมื่อเคลื่อนไหว 
  • มีไข้  
  • มีจุดกดเจ็บตามแนวกระดูกสันหลัง อาจพบอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อร่วมด้วย 

การวินิจฉัยที่นิยม คือ การทำเอกซเรย์ (X-ray) และตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI)

นอกจาก 2 โรคที่ยกตัวอย่างไปข้างต้น ยังมีโรคติดเชื้อในระบบประสาทอีกมากมาย เช่น 

  • โรคพยาธิตืดหมูในระบบประสาท(Neurocysticercosis) 
  • โรคสมองอักเสบจากเชื้อเริม (Herpes simplex encephalitis) 
  • วัณโรค (Tuberculosis
  • โรคโปลิโอ (Poliomyelitis)  

ซึ่งการติดเชื้อเหล่านี้ เมื่อระบบประสาทส่วนกลางเกิดความเสียหายในระยะรุนแรงมักจะนำไปสู่อาการที่ทำให้การเคลื่อนไหว หรือขยับร่างกายของผู้ป่วยเปลี่ยนไป เช่น 

  • ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ของกล้ามเนื้อครึ่งตัวล่าง (Paraplegia) ทั้งตัว (Quadriplegia) 
  • ภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็ง (Spasticity) จนรยางค์แขน หรือขาหงิกงอผิดรูป 
  • มีอาการกล้ามเนื้อครึ่งซีกของร่างกายอ่อนแรง (Hemiplegia) ได้ 

นักกายภาพบำบัดจะมีบทบาทอย่างมากในการฟื้นฟูผู้ป่วยกลุ่มนี้ให้กลับมาทำกิจวัตรประจำวันได้ใกล้เคียงปกติที่สุด

วิธีการตรวจโรคติดเชื้อในระบบประสาทส่วนกลาง

วิธีการตรวจวินิจฉัยเพื่อยืนยันการติดเชื้อในระบบประสาท ต้องอาศัยผลจากการซักประวัติ และตรวจร่างกายประกอบกัน 

อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนที่สำคัญ และแม่นยำที่สุด คือ การตรวจทางห้องปฏิบัติการ ซึ่งมีกระบวนการที่แตกต่างกันไปตามชนิดของเชื้อ หรือสิ่งก่อโรคที่สงสัยว่าเป็นสาเหตุของการติดเชื้อ มีด้วยกันหลายวิธี ดังนี้

  1. การวิเคราะห์หรือเพาะเชื้อจากน้ำเลี้ยงสมอง และไขสันหลัง (Cerebrospinal fluid) เลือด หนอง หรือสารคัดหลั่งอื่นๆ
  2. การตรวจวินิจฉัยด้วยการถ่ายภาพภาพทางรังสีวิทยา ได้แก่
    • การตรวจวินิจฉัยโรคด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (Computerized Tomography Scan: CT Scan)
    • การตรวจวินิจฉัยโรคเครื่องสร้างภาพด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้า (Magnetic Resonance Imaging: MRI) ของสมองและไขสันหลัง
    • การตรวจวินิจฉัยโรคด้วยการฉีดสารทึบรังสี (Nonionic water-soluble contrast media) เข้าช่องไขสันหลัง เพื่อดูการกดทับของของระบบประสาทบริเวณไขสันหลัง (Myelography) 
  3. การเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อส่งตรวจทางพยาธิวิทยา (Biopsy)

นอกจากนี้ ในปัจจุบันการวินิจฉัยด้านพันธุศาสตร์ (Polymerase Chain Reaction (PCR)) ได้เข้ามามีบทบาทอย่างมาก ในการช่วยวินิจฉัยเชื้อที่มีปริมาณน้อยหรือเพาะเชื้อยากได้ดีขึ้น

วิธีการรักษาโรคติดเชื้อในระบบประสาทส่วนกลาง

หลักการรักษาโรคติดเชื้อในระบบประสาทมีด้วยกัน 5 ข้อใหญ่ๆ ดังนี้

  1. ตรวจหาเชื้อที่ก่อโรค (Pathogen)
  2. ให้ยาปฏิชีวนะ (Antibiotic) เพื่อกำจัดเชื้อที่ก่อโรค
  3. จัดการกับแหล่งกำเนิดที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อ
  4. ผ่าตัด (Surgery) เมื่อมีข้อบ่งชี้ชัดเจนว่า สามารถช่วยแก้ปัญหา หรือลดความพิการที่จะเกิดขึ้นกับผู้ป่วยได้
  5. ฟื้นฟูให้สามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ใกล้เคียงปกติมากที่สุด ด้วยวิธีทางกายภาพบำบัด

โรคติดเชื้อในระบบประสาทส่วนกลางมีโอกาสเกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกวัย นอกจากนี้ ในระยะแรกๆ ของโรคที่ยังมีความรุนแรงน้อย อาการจะใกล้เคียงกับภาวะเจ็บป่วยทั่วไปที่พบได้ในชีวิตประจำวัน เช่น ปวดหลัง มีไข้ ปวดศีรษะ 

ดังนั้นหากผู้ป่วยโรคติดเชื้อในระบบประสาทส่วนกลางไม่ได้รับการวินิจฉัย และรักษาอย่างทันท่วงที ก็อาจจะก่อให้เกิดความพิการถาวรได้ เช่น 

  • กล้ามเนื้ออ่อนแรงถาวร เนื่องจากเส้นประสาทถูกทำลาย 
  • กล้ามเนื้อหดเกร็งจนเกิดการผิดรูปของอวัยวะ 
  • การหดลีบอย่างถาวรของกล้ามเนื้อ 

หากคุณสงสัยว่าตนเองมีความเสี่ยงเกิดการติดเชื้อในระบบประสาทส่วนกลาง ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที 

และเมื่อเกิดความผิดปกติหลังจากได้รับเชื้อแล้ว การทำกายภาพบำบัดก็เป็นวิธีหนึ่งที่มีประโยชน์มากในการบรรเทาหรือชะลอความพิการที่จะเกิดขึ้น การเข้ารับการรักษาอย่างเร็วที่สุดจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก

เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจทำกายภาพบำบัด และนวดเพื่อรักษา จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android


9 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Roos, K. (2015). Bacterial Infections of the Central Nervous System. CONTINUUM: Lifelong Learning In Neurology, 21, 1679-1691. https://doi.org/10.1212/con.0000000000000242. LWW Journals. (Available via: https://journals.lww.com/continuum/Abstract/2015/12000/Bacterial_Infections_of_the_Central_Nervous_System.14.aspx)
Dubot-Pérès, A., Mayxay, M., Phetsouvanh, R., Lee, S. J., Rattanavong, S., Vongsouvath, M....Newton, P. N. (2019). Management of Central Nervous System Infections, Vientiane, Laos, 2003–2011. Emerging Infectious Diseases, 25(5), 898-910. https://dx.doi.org/10.3201/eid2505.180914. Centers for Disease Control and Prevention. (Available via: https://wwwnc.cdc.gov/eid/article/25/5/18-0914_article)
B.D. Michael, M. Sidhu, D. Stoeter, M. Roberts, N.J. Beeching, A. Bonington, I.J. Hart, R. Kneen, A. Miller, T. Solomon, North West Neurological Infections Network*, Acute central nervous system infections in adults—a retrospective cohort study in the NHS North West region, QJM: An International Journal of Medicine, Volume 103, Issue 10, October 2010, Pages 749–758, https://doi.org/10.1093/qjmed/hcq121. Oxford Academic. (Available via: https://academic.oup.com/qjmed/article/103/10/749/1552180)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

ดูคำถามและคำตอบอื่นๆ ที่เกี่ยวกับอาการนี้
เป็นไข้หวัดใหญ่ชนิดเดียวกันในช่วงๆเวลาใกล้กันได้หรือไม่คะ
คำถามนี้ได้การตอบจากแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา)
สงสัยคะทำไมคนไข้ส่วนใหญ่จะติดเชื้อในกระแสเลือดคะ
คำถามนี้ได้การตอบจากพยาบาลผู้เชี่ยวชาญ
เชื้อ HPV เกิดขึ้นได้อย่างไร และสามารถติดต่อกันทางเพศสัมพันธ์ได้หรือไม่ ถ้าได้..สามารถตรวจเช็คได้ทางไหนบ้าง
คำถามนี้ได้การตอบจากแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา)
ปัญหาสิวในวัย30+
คำถามนี้ได้การตอบจากแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา)
เรื่องความเข้มข้นของเลือดในการบริจาคเลือดค่ะ เคยบริจาคได้ แต่สองสามปีมานี้ ทั้งพักผ่อน อกล ก็ยังไม่สามารถบริจาคเลือดได้ค่ะ
คำถามนี้ได้การตอบจากแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา)
การใส่เหล้ก จำเป้นไหมไม่ที่ไม่ผ่าออก
คำถามนี้ได้การตอบจากแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา)