การผ่าตัดผูกท่อนำไข่คืออะไร?

เผยแพร่ครั้งแรก 8 ส.ค. 2019 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 2 นาที
การผ่าตัดผูกท่อนำไข่คืออะไร?

การผ่าตัดผูกท่อนำไข่ (Tubal Ligation) เป็นการผ่าตัดเพื่อทำหมันถาวรให้กับผู้หญิง ซึ่งจะทำโดยการผูก ตัด หรืออุดท่อนำไข่ของผู้หญิงที่เชื่อมระหว่างรังไข่กับมดลูก เพื่อยับยั้งไม่ให้อสุจิของผู้ชายเดินทางผ่านท่อนำไข่ไปสู่ไข่ ซึ่งเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการปฏิสนธิและการตั้งครรภ์ โดยการผ่าตัดนี้ถือเป็นวิธีการทำหมันที่ใช้บ่อยที่สุดในผู้หญิง 

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง

การเตรียมตัวสำหรับการผ่าตัดผูกท่อนำไข่

ก่อนเข้ารับการผ่าตัด แพทย์อาจสั่งให้หยุดใช้ยาที่ทำให้เลือดแข็งตัวช้า เช่น Ibuprofen Warfarin หรือ Aspirin และอาจให้งดอาหารและเครื่องดื่มทุกชนิดอย่างน้อย 8 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัด นอกจากนี้ ควรแจ้งแพทย์หากสูบบุหรี่เป็นประจำ หรือมีโอกาสตั้งครรภ์ในช่วงที่จะทำการผ่าตัด เพื่อให้แพทย์วางแผนการรักษาต่อไป

วิธีการผ่าตัดผูกท่อนำไข่

การผ่าตัดผูกท่อนำไข่ จะทำโดยศัลยแพทย์ภายในโรงพยาบาล ซึ่งตามปกติแล้วจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที หัตถการนี้สามารถทำระหว่างการผ่าตัดคลอด หลังจากการคลอดทางช่องคลอด หรือในช่วงเวลาใดก็ได้

การผ่าตัดอาจทำภายใต้การดมยาสลบ การใช้ยาชาเฉพาะที่ หรือการบล็อกไขสันหลัง (Spinal block) โดยทั่วไป แพทย์จะเปิดแผล 1-2 แผลบริเวณหน้าท้อง ก่อนจะใส่แก๊ซเข้าไปเพื่อให้ช่องท้องขยายจนสามารถมองเห็นท่อนำไข่และมดลูกได้ชัดขึ้น หลังจากนั้นก็จะใส่กล้องที่มีลักษณะเป็นท่อแคบๆ ซึ่งมีกล้องและไฟอยู่ภายในเข้าไปในหน้าท้อง แล้วจะใส่เครื่องมือผ่านทางกล้อง (หรือที่อีกแผลหนึ่ง) เพื่อทำการผูกท่อนำไข่ โดยจะทำการตัด ผูก หนีบ และรัด และอาจมีการใช้จี้ไฟฟ้าเพื่อช่วยปิดท่อนำไข่ ในกรณีที่ต้องการทำพร้อมกับการผ่าตัดคลอด แพทย์จะสามารถดำเนินการได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องลงแผลเพิ่ม

หลังจากการผ่าตัดผูกท่อนำไข่

ผู้เข้ารับการผ่าตัด สามารถกลับบ้านในวันเดียวกับที่ผ่าตัดได้ แต่ควรมีผู้ขับรถให้ เพราะอาจมีอาการปวดท้องหรือปวดไหล่ภายหลังจากการผ่าตัด ซึ่งแพทย์อาจสั่งยาแก้ปวดหรือแจ้งชนิดของยาแก้ปวดที่สามารถไปซื้อมารับประทานเองได้ ระหว่างนี้ควรหลีกเลี่ยงการยกของหนักและการมีเพศสัมพันธ์ 1-2 สัปดาห์หลังจากการผ่าตัด 

หากพบอาการดังต่อไปนี้หลังการผ่าตัด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันที

  • มีไข้
  • รู้สึกมึนศีรษะหรือจะเป็นลม
  • มีการซึม เลือดออก บวม หรือแดงที่แผล
  • อาเจียนหรือมีอาการคลื่นไส้ตลอดเวลา
  • ปวดบริเวณที่ผ่าตัดหรือรังไข่มาก

ความเสี่ยงในการทำผ่าตัดผูกท่อนำไข่

ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการผ่าตัดผูกท่อนำไข่ ได้แก่

  • หมันหลุด (ผู้หญิง 1 ใน 200 คนอาจกลับมาตั้งครรภ์ได้หลังการผ่าตัด)
  • มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์นอกมดลูก หากมีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น
  • อาจมีผลกระทบต่อลำไส้ กระเพาะปัสสาวะ และเส้นเลือด
  • อาจมีการติดเชื้อบริเวณที่ผ่าตัด

8 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)