กองบรรณาธิการ HD
เขียนโดย
กองบรรณาธิการ HD
ทีมแพทย์ HD
ตรวจสอบความถูกต้องโดย
ทีมแพทย์ HD

อาหารที่ดีต่อสุขภาพครรภ์ มีอะไรบ้าง ?

ระหว่างตั้งครรภ์ควรรับประทานอาหารชนิดใดบ้าง ควรรับประทานปริมาณเท่าไร และอาหารอะไรบ้างที่ควรหลีกเลี่ยง
เผยแพร่ครั้งแรก 23 มี.ค. 2019 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 ตรวจสอบความถูกต้อง 4 เม.ย. 2019 เวลาอ่านประมาณ 2 นาที
อาหารที่ดีต่อสุขภาพครรภ์ มีอะไรบ้าง ?

การเลือกรับประทานอาหารที่ดีระหว่างที่คุณกำลังตั้งครรภ์ จะช่วยทำให้สุขภาพร่างกายทั้งของคุณและทารกในครรภ์แข็งแรง ไม่จำเป็นต้องทานอาหารแบบพิเศษ หรือมีราคาสูง เพียงทานอาหารให้หลากหลายในทุกๆ วันเพื่อให้ได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ

มื้อเช้าเป็นมื้ออาหารที่สำคัญมากสำหรับสตรีมีครรภ์ เพราะจะช่วยให้อิ่มท้องไปตลอดทั้งวัน ในช่วงตั้งครรภ์ ผู้หญิงหลายคนจะรู้สึกหิวมากกว่าปกติ และอาจรับประทานอาหารมากกว่าปกติโดยอ้างว่ากินเผื่อลูกด้วย ซึ่งถ้าหากไม่ระวัง ก็อาจมีเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อคุณและทารกในครรภ์

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ฝากครรภ์ คลอดบุตรวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 79 บาท ลดสูงสุด 65%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

หากตั้งครรภ์ควรรับประทานอะไรบ้าง และรับประทานในปริมาณเท่าไรจึงจะเหมาะสม?

  • ผักและผลไม้ : ผักและผลไม้อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และไฟเบอร์ ที่ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น และช่วยป้องกันการท้องผูกระหว่างตั้งครรภ์ แนะนำให้รับประทานผักและผลไม้ต่างชนิดกันอย่างน้อย 5 ส่วนทุกวัน และควรล้างให้สะอาดก่อนรับประทาน เพื่อป้องกันปรสิต ท็อกโซพลาสมา (Toxoplasma) ที่อาจทำให้ทารกในครรภ์มีความพิการแต่กำเนิดได้
  • แป้ง : แป้งเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญทั้งต่อคุณแม่และทารก จึงควรรับประทานให้ได้มากกว่า 1/3 ของมื้ออาหาร แต่ให้เลือกทานเป็นโฮลเกรนแทนที่จะเป็นแป้งที่ผ่านการขัดสีมาแล้ว เพื่อให้ได้รับสารอาหารต่างๆ เพิ่มเติมมากขึ้น
  • โปรตีน : โปรตีนมีส่วนสำคัญในการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ รวมถึงช่วยซ่อมแซมและบำรุงส่วนต่างๆ ของคุณแม่ ดังนั้น โดยอาหารที่มีโปรตีนสูง ได้แก่ อาหารทะเล ไข่ เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อสัตว์ปีก ถั่วเปลือกแข็ง หากรับประทานเนื้อสัตว์ ควรเลือกเป็นเนื้อแดงไม่ติดมัน และควรปรุงให้สุกก่อนรับประทานเสมอ
  • นม : หรืออาหารที่มีส่วนผสมของนม เช่น ชีส หรือโยเกิร์ต เต็มไปด้วยแคลเซียมที่ช่วยสร้างกระดูกให้กับทารก และบำรุงกระดูกของคุณแม่ให้แข็งแรง ควรรับประทานนม หรืออาหารที่มีส่วนประกอบของนมอย่างน้อยวันละ 2-3 ส่วน ควรเลือกแบบไขมันต่ำและลดน้ำตาลเพื่อสุขภาพที่ดี
  • ชีสประเภท Hard Cheese : หรือชีสเนื้อแข็งทุกชนิด เช่น เชดดาชีส พาร์เมซานชีส สามารถรับประทานเพื่อเพิ่มแคลเซียมได้
  • ปลา : การรับประทานปลาในช่วงตั้งครรภ์ จะช่วยเพิ่มโปรตีน แคลเซียม กรดไขมันโอเมก้า 3 และกรดไขมันโอเมก้า 6 ซึ่งจะช่วยทำให้การเจริญเติบโตของทารกเป็นไปอย่างสมวัยและแข็งแรง อย่างไรก็ตาม ควรเลี่ยงการรับประทานปลาที่มีไขมันสูงไม่ให้เกินสัปดาห์ละ 2 ส่วน และควรหลีกเลี่ยงการรับประทานปลาดิบในระหว่างนี้

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงในระหว่างตั้งครรภ์

  • อาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง : เช่น เนย น้ำมัน น้ำสลัด ครีม ช็อกโกแลต ขนมอบกรอบ เค้ก พุดดิ้ง น้ำอัดลม ควรลดความถี่ในการรับประทานอาหารเหล่านี้ให้น้อยลง เพราะนอกจากจะทำให้อ้วนแล้ว ยังเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน และเสี่ยงต่อการเกิดภาวะความดันโลหิตสูง
  • ชีสประเภท Soft Cheese : เช่น บลูชีส เพราะชีสประเภทนี้มีกรดและมีความชื้นสูง ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะแก่การเติบโตของแบคทีเรียชนิดที่ทำให้เกิดอันตราย เช่น Listeria ที่อาจทำให้เกิดภาวะแท้งบุตร แต่ถ้าหากผลิตจากนมที่พาสเจอร์ไรซ์ เช่น คอทเทจ มอสซาเรลลา และผ่านการปรุงสุกแล้ว สามารถรับประทานได้ตามปกติ
  • ปลาบางชนิด : เช่น ปลาฉลาม ปลากระโทงดาบ หรือปลากระโทงสีน้ำเงิน เนื่องจากปลาเหล่านี้มีสารปรอทสูง ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายต่อเด็กในครรภ์
  • เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน : การสะสมของคาเฟอีนปริมาณมาก เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแท้งบุตร หรืออาจทำให้ทารกมีน้ำหนักแรกคลอดต่ำ ซึ่งจะมีผลต่อการเกิดปัญหาสุขภาพในภายหลัง ดังนั้น จึงควรงดบริโภคเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน แต่ถ้าไม่สามารถงดได้ ให้จำกัดการดื่มไม่ให้มากกว่า 200 มิลลิกรัม/วัน

1 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Rhee J et al. (2015), Maternal Caffeine Consumption during Pregnancy and Risk of Low Birth Weight: A Dose-Response Meta-Analysis of Observational Studies. PloS one, 10(7)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป
ทารกมีอัตราการเต้นของหัวใจช้า อันตรายหรือไม่
ทารกมีอัตราการเต้นของหัวใจช้า อันตรายหรือไม่

เรื่องง่ายๆ ที่คุณแม่ทุกคนต้องใส่ใจเพราะอัตราการเต้นของหัวใจสัมพันธ์กับความปลอดภัยของลูกน้อย

อ่านเพิ่ม
อะไรคือสัญญาณการฉีกขาดในภาวะตั้งครรภ์นอกมดลูก?
อะไรคือสัญญาณการฉีกขาดในภาวะตั้งครรภ์นอกมดลูก?

เรียนรู้สัญญาณการตั้งครรภ์นอกมดลูกก่อนที่มันจะฉีกขาด

อ่านเพิ่ม
ทำความเข้าใจกับภาวะตั้งครรภ์ที่ไข่ที่ปฏิสนธิไม่ฝังตัว (Chemical Pregnancy) ใช่หรือไม่ใช่?
ทำความเข้าใจกับภาวะตั้งครรภ์ที่ไข่ที่ปฏิสนธิไม่ฝังตัว (Chemical Pregnancy) ใช่หรือไม่ใช่?

การตั้งครรภ์ที่เร็วเกินไปที่จะยืนยันด้วยวิธีการทางชีวเคมี

อ่านเพิ่ม