ทีมนักวิจัยด้านอาหาร HonestDocs
เขียนโดย
ทีมนักวิจัยด้านอาหาร HonestDocs
ทีมแพทย์ HD
ตรวจสอบความถูกต้องโดย
ทีมแพทย์ HD

วิตามิน DHC ยอดฮิต ตัวไหนกินเพื่ออะไรบ้าง?

รวบรวมวิตามิน DHC ชนิดต่างๆ คุณประโยชน์ ขนาดรับประทาน และข้อควรระวัง
เผยแพร่ครั้งแรก 2 มิ.ย. 2019 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 ตรวจสอบความถูกต้อง 23 พ.ค. 2019 เวลาอ่านประมาณ 3 นาที
วิตามิน DHC ยอดฮิต ตัวไหนกินเพื่ออะไรบ้าง?

เรื่องควรรู้

ขยาย

ปิด

  • DHC เป็นแบรนด์อาหารเสริมและวิตามินที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น
  • 5 ประเภทของวิตามิน DHC ได้แก่ วิตามินซี วิตามินบีรวม วิตามินอี คอลลาเจน และไลโคปีน
  • วิตามินแต่ละชนิดมีสรรพคุณในการบำรุงร่างกายที่ต่างกัน เช่น วิตามินซีช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน วิตามินบีช่วยป้องกันการเกิดสิว หรือวิตามินอีช่วยลดการอักเสบของผิว และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ 
  • ปกติแล้ว วิตามินเหล่านี้สามารถหาได้จากแหล่งอาหารทั่วไป การรับประทานอาหารที่หลากหลายจะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน
  • หากต้องการรับประทานอาหารเสริมไม่ควรซื้อมารับประทานด้วยตัวเอง เพราะร่างกายอาจได้รับสารอาหารเพียงพออยู่แล้ว และไม่ควรรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้เกิดการสะสมในตับได้ (ดูแพ็กเกจตรวจระดับวิตามินได้ที่นี่)

DHC เป็นหนึ่งในแบรนด์อาหารเสริมและวิตามินที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น มีขายทั่วไปในซูเปอร์มาร์เกต ร้านขายยา และร้านเครื่องสำอางทั่วไป เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นมีการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ แบรนด์ DHC จึงเป็นที่นิยม 

วิตามิน DHC มีอะไรบ้าง มีข้อแนะนำในการกินอย่างไร HonestDocs รวบรวมข้อมูลมาให้แล้วที่นี่

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

5 ประเภทของวิตามิน DHC

วิตามิน DHC สามารถแบ่งได้เป็น 5 ประเภทหลักๆ ดังต่อไปนี้

1. Vitamin C

วิตามินซี DHC มีลักษณะเป็นแคปซูลสีส้ม 

สรรพคุณคือ ช่วยบำรุงผิว ลดรอยหมองคล้ำ จุดด่างดำ รอยฝ้ากระ ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น ไม่ป่วยง่าย และลดอาการภูมิแพ้ จึงแนะนำให้รับประทานเป็นวิตามินพื้นฐาน 

ในหนึ่งวันจะให้รับประทาน 2 แคปซูล ประกอบด้วยวิตามินซี 1,000 มิลลิกรัม และ วิตามินบี 2 2 มิลลิกรัม รับประทานหลังอาหารเช้าและเย็น (ครั้งละ 1 แคปซูล) 

ต้องระวังการเก็บรักษา โดยไม่ควรเก็บในที่ที่ร้อนหรือโดนแดด เพราะวิตามินซีสลายตัวได้จากความร้อน และหากรับประทานมากเกินปริมาณที่แนะนำ (มากกว่า 2,000 มิลลิกรัม/วัน) อาจทำให้มีอาการวิงเวียน คลื่นไส้ และปวดหัวได้

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ตรวจแร่ธาตุวิตามินวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 97 บาท ลดสูงสุด 68%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

2. Vitamin B-Mix 

เป็นวิตามินบีรวมที่ช่วยป้องกันการเกิดสิว ลดปัญหาสิวเสี้ยน สิวอุดตัน และผดผื่นบนในหน้า ช่วยบำรุงสมองและประสาท ลดความเครียด เพิ่มพลังงาน ลดอาการเหนื่อยล้าและอ่อนเพลียได้ 

มีลักษณะเป็นเม็ดทรงกลมรีสีส้ม และแนะนำให้รับประทานวันละ 2 เม็ด หลังอาหารเช้าและเย็น (ครั้งละ 1 เม็ด) พร้อมน้ำเปล่าอุณหภูมิห้องหรือน้ำอุ่น โดยในสองเม็ดนี้จะครอบคลุมปริมาณวิตามินบีที่ควรได้รับต่อวันอย่างครบถ้วน นั่นคือใน 2 เม็ด ปริมาณ 400 มิลลิกรัม ประกอบด้วย

  • วิตามินบี 1 - 40 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี 2 - 30 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี 3 - 40 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี 5 - 40 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี 6 - 30 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี 7 - 50 ไมโครกรัม
  • วิตามินบี 9 - 200 ไมโครกรัม
  • วิตามินบี12 - 20 ไมโครกรัม
  • อิโนซิทอล - 50 มิลลิกรัม

แนะนำว่า ควรรับประทานวิตามินบีเฉพาะตอนที่ต้องการบำรุงร่างกายเท่านั้น ไม่ควรรับประทานต่อเนื่องเป็นเวลานาน เนื่องจากวิตามินบีมีอยู่ในอาหารทั่วไปอยู่แล้ว

หากได้รับมากเกินไปอาจทำให้มีอาการอาเจียน ทำลายระบบประสาทและทำให้ผิวไวต่อแสง ในการรับประทานวิตามินบี ปัสสาวะอาจเป็นสีเหลืองเข้ม ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เกิดจากร่างกายขับวิตามินส่วนเกินออกมา 

3. Vitamin E

วิตามินอี เป็นวิตามินที่ช่วยบำรุงผิวพรรณให้อ่อนนุ่ม ชุ่มชื้น ลดปัญหาผิวหยาบกร้าน ลดการอักเสบของผิวและเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ โดยแนะนำให้รับประทานวันละ 1 เม็ดพร้อมมื้ออาหาร และแนะนำให้รับประทานร่วมกับวิตามินซีเพื่อช่วยเรื่องการดูดซึมด้วย 

วิตามินอีของ DHC 1 เม็ดประกอบด้วยวิตามินอี (d-α-tocopherol) 301.5 มิลลิกรัม มีลักษณะเป็นเม็ดแคปซูลทรงกลมรีสีเหลืองทอง
ข้อควรระวังคือ หากรับประทานวิตามินอีมากเกินอาจทำให้เกิดอาการท้องอืด อาเจียน ท้องร่วงและปวดท้องได้

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

4. Collagen 

คอลลาเจนของ DHC ประกอบคอลลาเจนสกัดจากปลาทะเลน้ำลึก และเป็นคอลลาเจนชนิดคอลลาเจนไฮโดรไลเซต (Collagen hydrolysate) ซึ่งมีขนาดโมเลกุลเล็กและดูดซึมเข้าร่างกายได้ง่าย

มีสรรพคุณช่วยให้ผิวยืดหยุ่น เรียบเนียน เต่งตึง กระชับ และเพิ่มความแข็งแรงของชั้นผิวหนังและเสริมกระดูก ผลิตภัณฑ์นี้แนะนำให้รับประทานวันละ 6 เม็ด โดยอาจแบ่งรับประทานหลังอาหารครั้งละ 3 เม็ด 2 มื้อ หรือรับประทานครั้งเดียว 6 เม็ดเลยก็ได้ ใน 6 เม็ดประกอบด้วย

คอลลาเจนจากปลาทะเลลึก 2,050 มิลลิกรัม และเสริมด้วยวิตามินบี 1 - 14 มิลลิกรัม วิตามินบี 2 - 2 มิลลิกรัม เม็ดคอลลาเจน DHC มีลักษณะเป็นเม็ดทรงกลมสีครีม

ควรรับประทานตามปริมาณที่แนะนำข้างฉลาก หากใครมีความเสี่ยงต่อการแพ้อาหารทะเล อาจต้องหลีกเลี่ยง

5. Lycopene 

ไลโคปีน เป็นสารเม็ดสีที่พบในผักผลไม้สีแดง-ส้ม โดยเฉพาะในมะเขือเทศ ซึ่งสารสีแดงนี้จัดเป็นสารแคโรทีนอยด์ประเภทหนึ่งซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง

ดังนั้นอาหารเสริมตัวนี้จึงเหมาะสมกับผู้ที่ต้องการดูแลผิวพรรณให้มีผิวพรรณที่สดใส สุขภาพดี มีชีวิตชีวา และยังช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งบางชนิดด้วย เช่นมะเร็งผิวหนัง โดยแนะนำให้รับประทานวันละ 1 เม็ดเวลาไหนก็ได้และดื่มน้ำตามมากๆ หญิงมีครรภ์ไม่แนะนำให้รับประทาน

ควรเลือกวิตามิน DHC อย่างไร?

DHC มีผลิตภัณฑ์วิตามินและอาหารเสริมสำหรับบำรุงผิวให้เลือกหลายตัว จนหลายคนอาจสงสัยว่าแล้วควรจะเลือกรับประทานตัวไหนดี

คำตอบคือ คุณควรศึกษาและพิจารณาตัวเองก่อนว่าตอนนี้ตัวเองได้รับสารอาหารอะไรอยู่จากอาหารที่รับประทานทุกวัน และขาดสารอาหารอะไรบ้าง เช่น บางคนไม่ชอบรับประทานผักผลไม้ ก็อาจควรเสริมด้วยวิตามินซีในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

บางคนไม่ชอบรับประทานมะเขือเทศ ก็อาจจะต้องการไลโคพีนเพิ่ม เพราะเป็นสารที่ร่างกายผลิตเองไม่ได้ แต่ถ้าหากรับประทานอาหารได้หลากหลายอยู่แล้ว ก็ขอแนะนำให้กินวิตามินเสริมเฉพาะช่วงร่างกายขาดการบำรุงจะเหมาะสมกว่า และไม่ควรกินวิตามินเสริมติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะอาจเกิดการสะสมในตับ และทำให้ไตทำงานหนักได้

ดูแพ็กเกจตรวจระดับวิตามินในร่างกาย เปรียบเทียบราคา โปรโมชั่นล่าสุดจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำได้ที่นี่ หรือไม่พลาดทุกการอัปเดตแพ็กเกจต่างๆ เมื่อกดเป็นเพื่อนทางไลน์ @hdcoth และกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android


4 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Vrolijk, M., Opperhuizen, A., Jansen, E., Hageman, G., Bast, A., & Haenen, G. (2017). The vitamin B6 paradox: Supplementation with high concentrations of pyridoxine leads to decreased vitamin B6 function. Toxicology In Vitro, 44, 206-212.
Story, E. N., Kopec, R. E., Schwartz, S. J., & Harris, G. K. (2010). An update on the health effects of tomato lycopene. Annual review of food science and technology, 1, 189–210.
Li, B. (2017). Beneficial Effects of Collagen Hydrolysate: A Review on Recent Developments. Biomedical Journal Of Scientific & Technical Research, 1(2).

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)