วิตามินดีสำหรับการรักษาโรคปวดกล้ามเนื้อ (Fibromyalgia) และ กลุ่มอาการความล้าเรื้อรัง (Chronic Fatigue Syndrome)

ประโยชน์
เผยแพร่ครั้งแรก 3 ม.ค. 2017 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 1 นาที
วิตามินดีสำหรับการรักษาโรคปวดกล้ามเนื้อ (Fibromyalgia) และ กลุ่มอาการความล้าเรื้อรัง (Chronic Fatigue Syndrome)

>วิตามินดี กับ การปวดกล้ามเนื้อ

การที่มีระดับวิตามินดีในร่างกายต่ำสามารถทำให้ปวดกล้ามเนื้อ และอ่อนแรงได้ มีการศึกษาพบว่า คนที่ป่วยด้วยโรคปวดกล้ามเนื้อ (Fibromyalgia (FMS)) และกลุ่มอาการความล้าเรื้อรัง (Chronic fatigue syndrome (CFS)) มีมากถึง 25% ที่มีระดับวิตามินดีในร่างกายต่ำ และวิตามินเสริมสามารถช่วยบรรเทาอาการดังกล่าวได้ในผู้ป่วยบางคน มีการศึกษาหนึ่งแสดงว่า ในกลุ่มคนที่ขาดวิตามินดีนั้น ต้องการยาบรรเทาอาการปวดชนิดเสพติด (Narcotic pain reliever) มากเป็นถึงสองเท่าเมื่อเทียบกับคนที่ไม่ขาดวิตามินดี

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ตรวจแร่ธาตุวิตามินวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 97 บาท ลดสูงสุด 68%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

ร่างกายของคุณนั้นต้องการวิตามินดีเพื่อช่วยเรื่องการดูดซึมแคลเซียม สำหรับการเจริญเติบโตและเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก และยังทำหน้าที่เสริมกับแคลเซียมช่วยป้องกันคุณจากโรคกระดูกพรุน

ขนาดของวิตามินดีที่ใช้

ผู้เชี่ยวชาญทางโรค FMS และ ME/CFS ได้แนะนำไว้ว่าควรได้รับวิตามินดี 1,000-2,000 IU ต่อวัน ซึ่งเป็นขนาดที่สูงกว่าที่สถาบันสุขภาพแห่งชาติ (National Institutes of Health) ได้เคยแนะนำไว้ว่าวิตามินดีเพียง 600 IU ต่อวันสำหรับบุคคลทั่วไป อย่างไรก็ตามการศึกษาใหม่ ๆ มีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับความสำคัญของวิตามินดีว่าต้องบริโภคขนาดเท่าไรจึงจะเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

หากคุณกำลังจะใช้วิตามินดีเสริม คุณควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้งถึงขนาดที่เหมาะสม เพราะหากคุณใช้ในขนาดที่สูงเกินไป แพทย์จำเป็นที่จะต้องตรวจเลือดเพื่อติดตามระดับวิตามินดีให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้รับปริมาณมากเกินความจำเป็น

แหล่งอาหารอุดมไปด้วยวิตามินดี

หากคุณกำลังมองหาอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินดีแทนที่จะทานพวกวิตามินดีเสริม คุณสามารถหาทานได้ง่ายเลยทีเดียว

  • วิตามินดีสามารถหาได้ในอาหารต่อไปนี้
  • ไข่
  • สวิสชีส (Swiss cheese)
  • ปลาบางชนิด เช่น แซลมอน แมคเคอเรล ทูน่า ซาร์ดีน

นอกจากนี้คุณยังได้รับวิตามินดีผ่านแสงอาทิตย์อีกด้วย ดังนั้น เพียงเพิ่มเวลาออกไปรับแสงแดดนอกบ้านบ้างก็ช่วยให้คุณได้รับวิตามินดีเช่นกัน นอกจากนี้ผู้ผลิตอาหารหลายแห่งก็ได้มีการเติมธัญพืชและนม เพื่อป้องกันโรคกระดูกอ่อนในเด็ก (Rickets)

ผลข้างเคียงจากวิตามินดี

ไม่ว่าจะเป็นวิตามินดีจากธรรมชาติหรืออาหารเสริมต่างก็มีผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้เหมือนกัน ซึ่งวิตามินดีที่มากเกินไปสามารถเป็นพิษต่อร่างกายได้

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ท้องผูก อ่อนแรง และน้ำหนักลด ที่สำคัญอย่าลืมแจ้งและสอบถามแพทย์เกี่ยวกับปริมาณวิตามินดีที่คุณควรได้รับในแต่ละวัน


22 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
The 6 Best Supplements for Fibromyalgia. Everyday Health. (https://www.everydayhealth.com/pain-management/fibromyalgia/6-best-supplements-fibromyalgia/)
Vitamin D Deficiency: Causes, Symptoms. Diagnosis, and Treatment. Verywell Health. (https://www.verywellhealth.com/vitamin-d-deficiency-2224209)
Vitamin D in Fibromyalgia: A Causative or Confounding Biological Interplay?. National Center for Biotechnology Information. (https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4924184/)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)