การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะในผู้ชาย

สาเหตุ อาการ การวินิจฉัย และการรักษา
เผยแพร่ครั้งแรก 21 ม.ค. 2017 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 2 นาที
การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะในผู้ชาย

ถึงแม้ว่าการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะมักจะพบได้ในผู้หญิงที่มีความเสี่ยงมากกว่าผู้ชาย แต่ก็พบว่าก็มีผู้ชายที่ได้รับการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะปีละหลายล้านคนเช่นกัน โดยการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะซึ่งรวมไปถึง ไต ท่อจากไต กระเพาะปัสสาวะอาจรุนแรง และบางครั้งก็อาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ เพราะฉะนั้นควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุและอาการของการติดเชื้อและการเข้ารับการรักษาอย่างรวดเร็ว

สาเหตุของการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ

ระบบทางเดินปัสสาวะนั้นมีหน้าที่ในการขับน้ำที่เป็นส่วนเกินออกจากร่างกาย (ประมาณ 1.5 quart ของปัสสาวะต่อวัน) เพื่อรักษาสมดุลของสารต่างๆในร่างกาย และเกลือในเลือดและยังช่วยผลิตฮอร์โมนที่ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง การที่ปัสสาวะมีการเคลื่อนที่จะช่วยป้องกันการติดเชื้อโดยการล้างเอาสารติดเชื้อต่าง ๆ ออกไป และต่อมลูกหมากยังผลิตสารที่ช่วยชะลอการเติบโตของแบคทีเรียอีกด้วย ซึ่งปกติแล้วปัสสาวะจะปลอดเชื้อ แต่ในบางกรณีอาจมีแบคทีเรียชนิด E.coli ซึ่งอาศัยอยู่ในลำไส้อาจจะเข้ามายังท่อปัสสาวะทำให้เกิดการติดเชื้อที่ท่อปัสสาวะ โดยการติดเชื้อนี้อาจมีการแพร่เชื้อจากทางเดินปัสสาวะเข้าสู้กระเพาะปัสสาวะและไตได้

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง

ผู้ชายที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะประกอบด้วย

  • ผู้ที่มีทางเดินปัสสาวะผิดปกติ เช่นมีนิ่วในไต หรือต่อมลูกหมากโต
  • ผู้ที่มีสายสวนหรือท่ออยู่ในกระเพาะปัสสาวะ
  • ผู้ที่เป็นเบาหวาน หรือโรคที่มีการกดระบบภูมิคุ้มกัน

อาการของการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะในผู้ชาย

ถึงแม้ว่าผู้ชายผู้ชายที่มีการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะซึ่งบางคนอาจจะไม่มีอาการแสดงใดๆเลยก็ได้ แต่สำหรับผู้ชายส่วนใหญ่ที่มีการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะมักมีอาการบางอย่างต่อไปนี้

  • รู้สึกปวดปัสสาวะบ่อย แต่ปัสสาวะออกน้อย
  • รู้สึกแสบหรือปวดบริเวณกระเพาะปัสสาวะขณะปัสสาวะ
  • อ่อนเพลีย
  • มีไข้ (มักแสดงว่าการติดเชื้อได้ขึ้นไปถึงไตแล้ว)
  • ปัสสาวะขุ่น (อาจมีปัสสาวะเป็นเลือดได้)
  • ปัสสาวะมีกลิ่นเหม็น
  • คลื่นไส้และอาเจียน อาจพบได้ในการติดเชื้อที่ไจ
  • ปวดหลัง

การวินิจฉัยการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ

ถ้าคุณมีอาการของการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ซึ่งแพทย์จะทำการเก็บปัสสาวะของคุณไปตรวจหาเชื้อแบคทีเรียและอาจต้องมีการตรวจเพิ่มเติมเช่นการฉีดสีดูภายในไจ (intravenous pyelogram) การทำ ultrasound หรือการส่องกล้องตรวจกระเพาะปัสสาวะ (cystoscopy) เพื่อหาสาเหตุของการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ โดยเฉพาะหากเป็นบ่อยหรือไม่ตอบสนองต่อการรักษาที่ให้

การรักษาการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ

การรักษาโดยทั่วไปจะใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อดังกล่าว ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นที่จะต้องได้รับประทานยาจนครบตามที่แพทย์สั่งแม้ว่าจะมีอาการของการติดเชื้อและอาจจะหายก่อนที่ยาจะหมดก็ตาม


4 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
University of Illinois-Chicago, School of Medicine, Urethritis: What you need to know (https://www.medicalnewstoday.com/articles/264903.php), February 7, 2017
Judith Marcin, MD, Urethritis (https://www.healthline.com/health/urethritis), October 6, 2016
med.mahidol, การติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะ (https://med.mahidol.ac.th/surgery/sites/default/files/public/pdf/Urinary%20tract%20infection.pdf)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)