กองบรรณาธิการ HD
เขียนโดย
กองบรรณาธิการ HD

ประโยชน์ของมะเขือเทศ ไอเดียการกินการใช้เพื่อสุขภาพ และข้อควรระวัง

มะเขือเทศเป็นผักผลไม้ที่มีประโยชน์หลากหลายด้าน แต่การรับประทานมากเกินไปก็อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้เช่นกัน
เผยแพร่ครั้งแรก 31 ส.ค. 2018 อัปเดตล่าสุด 28 ธ.ค. 2020 เวลาอ่านประมาณ 6 นาที
ประโยชน์ของมะเขือเทศ ไอเดียการกินการใช้เพื่อสุขภาพ และข้อควรระวัง

เรื่องควรรู้

ขยาย

ปิด

  • มะเขือเทศ (Tomato) เป็นพืชล้มลุกที่มีลักษณะเป็นพุ่ม ผลดิบเป็นสีเขียว เมื่อสุกจะมีสีเหลือง ส้มหรือแดง ภายในผลมะเขือเทศจะมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักปริมาณมาก ให้รสชาติเปรี้ยวหวาน และมีด้วยกันหลากหลายสายพันธุ์
  • ในมะเขือเทศ 100 กรัม ประกอบไปด้วยพลังงาน 18 กิโลแคลลอรี่ คาร์โบไฮเดรต 3.9 กรัม โปรตีน 0.9 กรัม, ไขมัน 0.2 กรัม วิตามินและแร่ธาตุอื่นๆ มากมาย เช่น วิตามินเอ เบตาแคโรทีน ลูทีนและซีแซนทีน วิตามินบี 1 บี 3 บี 6 และวิตามินซี
  • ตัวอย่างประโยชน์ของมะเขือเทศ เช่น ป้องกันมะเร็งชนิดต่างๆ กำจัดคอเรสเตอรอลหรือไขมันเลวในผนังเส้นเลือด ควบคุมน้ำตาลในเส้นเลือด ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ หรือโรคสมองเสื่อม
  • ในมะเขือเทศมีสารฮีสตามีน ซึ่งเป็นสารก่อภูมิแพ้ หากรับประทานในปริมาณมากอาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ หากหลังจากรับประทานมะเขือเทศแล้วมีอาการผื่น คัน บวม แดง ควรหยุดรับประทาน และรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจภูมิแพ้ทันที
  • เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจตรวจภูมิแพ้อาหารแฝง

มะเขือเทศเป็นผักผลไม้ที่นิยมรับประทานกันทั่วโลก เพราะอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายหลายชนิด โดยเฉพาะวิตามินซี วิตามินเอ ผู้คนนิยมนำมาประกอบอาหาร ตกแต่งจานอาหารให้สวยงาม หรือรับประทานเพื่อช่วยบำรุงสุขภาพ และป้องกันโรคบางชนิดได้ 

นอกจากนี้มะเขือเทศยังสามารถนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้อีกหลากหลาย เช่น น้ำผลไม้ เครื่องสำอาง และเป็นสารสกัดส่วนหนึ่งของอาหารเสริม

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ตรวจภูมิแพ้และภาวะแพ้วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 1,376 บาท ลดสูงสุด 69%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

รู้จักมะเขือเทศ

มะเขือเทศ (Tomato) เป็นพืชล้มลุกที่มีลักษณะเป็นพุ่ม ผลดิบเป็นสีเขียว เมื่อสุกจะมีสีเหลือง ส้มหรือแดง ภายในผลมะเขือเทศจะมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักปริมาณมาก ให้รสชาติเปรี้ยวหวาน และมีด้วยกันหลากหลายสายพันธุ์ 

มะเขือเทศนั้นเป็นผักที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบเทือกเขาแอนดิสทางฝั่งของอเมริกาใต้ บริเวณประเทศเปรูและชีลี ต่อมาภายในเวลาไม่นานก็เริ่มแพร่เข้าสู่ทวีปต่างๆ ได้แก่ เอเชีย อเมริกา และยุโรป จนกระทั่งได้พัฒนากลายเป็นสายพันธุ์ต่างๆ มากมายจนสู่ปัจจุบัน

คุณค่าทางโภชนาการของมะเขือเทศ

ในมะเขือเทศ 100 กรัม ประกอบไปด้วยพลังงาน 18 กิโลแคลลอรี่, คาร์โบไฮเดรต 3.9 กรัม, โปรตีน 0.9 กรัม, ไขมัน 0.2 กรัม, น้ำตาล 2.6 กรัม, เส้นใย 1.2 กรัม, น้ำ 94.5 กรัม, วิตามินเอ 42 ไมโครกรัม, เบตาแคโรทีน 449 ไมโครกรัม, ลูทีนและซีแซนทีน 123 ไมโครกรัม, วิตามินบี 1 0.037มิลลิกรัม, วิตามินบี 3 0.594 มิลลิกรัม, วิตามินบี 6 0.08 มิลลิกรัม, วิตามินซี 14 มิลลิกรัม, วิตามินอี 0.54 มิลลิกรัม, วิตามินเค 7.9 ไมโครกรัม, ธาตุแมกนีเซียม 11 มิลลิกรัม, ธาตุแมงกานีส 0.114 มิลลิกรัม, ธาตุฟอสฟอรัส 24 มิลลิกรัม, ธาตุโพแทสเซียม 237 มิลลิกรัม และไลโคปีน 2, 573 ไมโครกรัม

ประโยชน์ของมะเขือเทศ

มะเขือเทศเป็นพืชที่พบว่ามีสารไลโคปีน (Lycopene) มาก ซึ่งสารชนิดนี้มักพบอยู่ในกลุ่มของผักผลไม้สีแดง เช่น แตงโม มะละกอ ฟักข้าว แครอท มีคุณสมบัติโดดเด่นในเรื่องของการป้องกันโรคมะเร็ง และยังช่วยบำรุงสุขภาพแทบทุกส่วนในร่างกายได้เป็นอย่างดี 

นอกจากเด่นในเรื่องของการรักษาและป้องกันโรคบางชนิดแล้ว มะเขือเทศยังโดดเด่นในเรื่องของการบำรุงผิวพรรณอีกด้วย โดยประโยชน์ของมะเขือเทศ มีดังนี้

  • ป้องกันมะเร็งชนิดต่างๆ ได้ โดยเฉพาะมะเร็งลำไส้ มะเร็งรังไข่ มะเร็งปอด มะเร็งต่อมลูกหมากและมะเร็งตับอ่อน และด้วยไฟเบอร์รวมถึงน้ำที่เป็นส่วนประกอบหลักของมะเขือเทศที่มีอยู่ปริมาณมาก จึงทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • กำจัดคอเรสเตอรอลหรือไขมันเลวในผนังเส้นเลือด ทำให้ลดการเกิดเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • ช่วยควบคุมน้ำตาลในเส้นเลือด ซึ่งเป็นผลดีกับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน และยังช่วยลดอาการบวมน้ำตามร่างกายได้ แต่จะต้องรับประทานในปริมาณที่พอดีเท่านั้น
  • เนื่องจากมีวิตามินเคสูงจึงมีส่วนช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน ทั้งยังช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
  • ป้องกันโรคลักปิดลักเปิด เนื่องจากมะเขือเทศมีวิตามินซีสูง จึงสามารถป้องกันเลือดออกตามไรฟันได้ผล
  • ลดการเป็นเส้นเลือดตีบ โรคหัวใจวาย โรคหัวใจ และป้องกันการแข็งตัวของเส้นเลือด เพราะมะเขือเทศสามารถลดไขมันที่เกาะตามผนังของเส้นเลือดได้ จึงทำให้สามารถลดโอกาสเสี่ยงในการเป็นโรคดังกล่าว
  • ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ หรือโรคสมองเสื่อม
  • แก้อาการท้องผูก ส่งผลทำให้ระบบขับถ่ายทำงานดี เพราะมีไฟเบอร์หรือใยอาหารสูง จึงช่วยให้ระบบของลำไส้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
  • ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ดูมีสุขภาพดี ระบบเลือดไหลเวียนดี เพราะมีเบต้าแคโรทีน ซึ่งจะทำให้ผิวสดใส และยังช่วยลดริ้วรอยต่างๆ ให้จางลงได้
  • ป้องกันผมหงอกได้ เพราะมะเขือเทศจะช่วยชะลอสีผมไม่ให้เปลี่ยนจนเร็วเกินไปเมื่อรับประทานเป็นประจำ

ไอเดียการใช้มะเขือเทศเพื่อสุขภาพ

มะเขือเทศนิยมนำมาประกอบเป็นอาหารเพื่อรับประทานกันทั่วโลก และนิยมนำผลสุก หรือน้ำมาพอก หรือทาเพื่อบำรุงผิวอีกด้วย เราไปดูกันเพิ่มเติมดีกว่าว่าไอเดียการนำมะเขือเทศมาใช้เพื่อสุขภาพมีอะไรบ้าง

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ตรวจภูมิแพ้และภาวะแพ้วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 1,376 บาท ลดสูงสุด 69%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

  • ป้องกันการเกิดสิว โดยการฝานมะเขือเทศให้เป็นชิ้นบางๆ จากนั้นให้นำมาวางแปะบนหน้า ทิ้งไว้ หรือจะคั้นเอาแต่น้ำนำมาล้างหน้าก็ได้ มะเขือเทศจะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าให้ออกไปได้เร็วขึ้น ช่วยลดการเกิดสิวได้หรืออาจใช้น้ำมะเขือเทศผสมกับน้ำมะนาวผสมกัน แล้วใช้สำลีชุบนำมาทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที จากนั้นล้างออกให้สะอาด
  • ขัดผิวเพื่อความกระจ่างใส โดยการนำน้ำมะเขือเทศผสมกับผงขมิ้น จากนั้นนำมาขัดผิวก่อนอาบน้ำ มะเขือเทศจะช่วยทำให้ผิวที่หมองคล้ำค่อยๆ กระจ่างใสขึ้น เพราะมีกรดวิตามินซีจากธรรมชาติที่ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวด้วยนั่นเอง
  • ถนอมสีผมให้คงความสวย นำมะเขือเทศมาคั้นเอาแต่น้ำ แล้วนำมาหมักผมก่อนสระทิ้งไว้สัก 15 นาที จะช่วยป้องกันไม่ให้สีผมเปลี่ยนแปลงจนเร็วเกินไป ช่วยให้สีผมเปล่งประกายสวยเงางามได้
  • ทำเป็นสูตรสครับผิว ให้นำน้ำมะเขือเทศมาผสมกับข้าวโอ๊ต แล้วนำมาขัดตามบริเวณจุดด่างดำ ตามข้อพับหรือบริเวณผิวที่หยาบกร้าน จะช่วยทำให้ผิวใสรอยกร้านจะนุ่มนวลขึ้น
  • ใช้ในการไล่แมลง โดยการเลือกเอาใบแก่ 3 กำมือ หั่นให้เป็นชิ้นเล็กๆ จากนั้นนำมาต้มให้เดือดราว 1 นาที พักไว้ให้เย็นนาน 2 ชั่วโมง ก่อนจะนำไปฉีดพ่นเพื่อไล่แมลง เพลี้ย ด้วง หนอน รวมทั้งป้องกันแบคทีเรีย เชื้อรา และไวรัสที่เป็นศัตรูพืชแทนการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชได้อย่างปลอดภัย ไม่ทำลายสุขภาพ

ไอเดียการกินมะเขือเทศเพื่อสุขภาพ

หากต้องการให้ร่างกายได้ไลโคปีนจากมะเขือเทศเต็มประสิทธิ์ภาพก็ควรนำมาปรุงให้สุกด้วยน้ำมันจะดีมาก เพราะความร้อนจะทำให้ไลโคปีนหลุดออกมาจากเนื้อเยื่อของมะเขือเทศ และละลายได้ดีในไขมัน จนร่างกายสามารถดูดซึมออกมาใช้ได้ง่าย 

แต่ถ้าหากอยากให้มีผิวพรรณสวยใส ควรรับประทานมะเขือเทศแบบสดๆ เพราะร่างกายจะได้รับวิตามินซีได้แบบเต็มที่

  • ผัดเปรี้ยวหวานกุ้งมะเขือเทศ เตรียมส่วนผสม ได้แก่ มะเขือเทศ หอมใหญ่ แตงกวา ต้นหอม พริก กระเทียม สัปปะรด กุ้งสด น้ำมัน ซอสปรุงรส ซีอิ้วขาว และน้ำตาลทราย วิธีการคือ เจียวกระเทียมให้หอม ใส่กุ้งลงไปผัด ตามด้วยหอมใหญ่ และผักพร้อมมะเขือเทศที่เตรียมไว้ ปรุงรสตามต้องการ เมื่อผัดผักจนสุกแล้ว ยกลงพร้อมเสิร์ฟ เมนูนี้รับรองอร่อยพร้อมได้คุณค่าของสารอาหารครบถ้วน
  • ไก่คั่วกลิ้งมะเขือเทศ เตรียมส่วนผสมเมนูความอร่อยรสชาติจัดจ้าน ได้แก่ มะเขือเทศ ซีอิ๊วขาว อกไก่ พริกแกงคั่ว ใบมะกรูด น้ำตาล น้ำปลา และนมสด วิธีทำ นำไก่ผัดกับพริกแกงให้สุก ใส่นมสดลงไปพร้อมใส่มะเขือเทศและปรุงรสตามต้องการ ก่อนเสิร์ฟให้โรยหน้าด้วยใบมะกรูดเพื่อให้เพิ่มความหอมชวนรับประทาน
  • ซุปมะเขือเทศหมูสับเตรียมมะเขือเทศ (ลูกใหญ่) หมูสับ ไข่ เกลือ น้ำซุป ต้นหอม น้ำมันพืชและน้ำตาล เริ่มการทำโดยผัดหมูสับและมะเขือเทศให้สุกก่อน จากนั้นปรุงรส ผัดจนมะเขือเทศสุกจนเป็นน้ำ เติมน้ำซุปและตีไข่ใส่ลงไป ใส่ต้นหอม เป็นอันเสร็จ เป็นเมนูที่ให้ไลโคปีนสูง ช่วยบำรุงสุขภาพและผิวพรรณได้เป็นอย่างดี
  • ยำมะเขือเทศกุ้งสดเป็นอีกหนึ่งเมนูที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบรสชาติจัดจ้าน ไม่จำเจ พร้อมรับวิตามินซีจากมะเขือเทศแบบเต็มๆ ด้วยส่วนผสม กุ้งสด มะเขือเทศราชินี พริกขี้หนู ผักชี เม็ดมะม่วงหิมพานต์ น้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว มะนาว น้ำปลา และน้ำมันมะกอก  วิธีทำ ลวกกุ้งให้สุกพอดี รุงน้ำยำรสชาติตามชอบ คนให้น้ำยำเข้ากันและน้ำตาลละลายหมด จากนั้นใส่กุ้งสดและเม็ดมะม่วงหิมพานต์ลงคลุกเคล้าให้ทั่ว โรยผักชีให้หอม เป็นอันเสร็จพร้อมเสิร์ฟ เมนูนี้กินลดน้ำหนักได้ดีทีเดียว เหมาะกับมื้อเย็นอย่างมาก
  • น้ำมะเขือเทศปั่น เป็นการมิกซ์ระหว่างน้ำมะเขือเทศกับผลไม้ชนิดอื่นๆ เพื่อเพิ่มรสชาติความอร่อยเพิ่มเติม และยังได้สารวิตามินแร่ธาตุอีกเพียบวิธีการคือ 1.นำมะเขือเทศปั่นรวมกับสัปปะรดแล้วบีบมะนาวผสมน้ำต้มสุกเล็กน้อย คนให้เข้ากัน 2.มะเขือเทศปั่นรวมกับลิ้นจี่ ผสมน้ำต้มสุกเล็กน้อย โดยทั้ง 2 เมนู ไม่ต้องใส่เกลือ ส่วนผลไม้ที่ต้องการปั่น ควรนำไปแช่ให้เย็นก่อนนำมาปั่น รับรองสดชื่นคลายร้อน ดื่มแล้วหายเหนื่อยกันเลยทีเดียว

ข้อควรระวัง

  • ในมะเขือเทศมีสารฮีสตามีน ซึ่งเป็นสารก่อภูมิแพ้ หากรับประทานในปริมาณมาก ก็จะทำให้เกิดการแพ้มะเขือเทศได้ง่าย โดยเฉพาะคนที่มีอาการแพ้ง่ายและรุนแรง แต่ในบางรายอาจจะมีอาการแพ้ที่ผิวหนังเท่านั้น เช่น ลมพิษ ผื่นผิวหนัง และกลาก
  • ไม่ควรรับประทานมะเขือเทศแบบไม่ผ่านการทำความสะอาด เพราะมะเขือเทศเป็นแหล่งสารอาหารของเชื้อซานโมเนล่า ที่เป็นสาเหตุของการเกิดอาการท้องเสีย
  • ผู้ที่ป่วยเป็นโรค IBS ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานมะเขือเทศ เพราะเมล็ดของมะเขือเทศมีผลทำให้ลำไส้ทำงานปิดปกติ ก่อให้เกิดอาการท้องอืด และในช่วงท้องเสียก็ควรหลีกเลี่ยงเช่นกัน
  • มะเขือเทศมีปริมาณโซเดียมสูง เพราะเพียงซุปมะเขือเทศ 1 ถ้วย ก็ให้โซเดียมได้สูงถึงประมาณ 700-1,200 มิลลิกรัม ดังนั้นจึงไม่ควรรับประทานมากเกินไป เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการบวมน้ำได้
  • ถ้ารับประทานมากเกินไป จะเกิดภาวะไลโคปีนมากเกินไปในร่างกาย เรียกว่า lycopenodermia ซึ่งส่งผลทำให้ผิวเปลี่ยนสี ในบางรายอาจจะเป็นสีส้มหรือสีเหลือง แต่สำหรับผู้ชายก็จะเกิดความเสี่ยงเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก โดยอาจจะเริ่มจากการเจ็บในขณะปัสสาวะ หรือปวด
  • การรับประทานมะเขือเทศอาจก่อให้เกิดอาการปวดข้อ และเริ่มมีอาการบวม เพราะร่างกายจะระบายสารฮิสตามีนเข้าสู่เนื้อเยื่อในร่างกาย นอกจากนี้ภายในมะเขือเทศยังมีปริมาณของกรดยูริคสูง โดยกระตุ้นทำให้เกิดโรคเกาต์ได้
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานใบมะเขือเทศ เพราะมีฤทธิ์เป็นพิษโดยจะทำให้เกิดการระคายหลอดอาหาร อาเจียน วิงเวียน ปวดศีรษะ บางรายอาจจะรุนแรงจนถึงเสียชีวิต
  • น้ำมะเขือเทศไม่ควรดื่มเกินวันละ 2 แก้ว เพราะวิตามินซีที่มีปริมาณสูงอาจทำให้เป็นโรคนิ่วได้ 
  • ผู้ที่ป่วยเป็นโรคไตไม่ควรดื่ม หรือรับประทานมะเขือเทศในรูปใดๆ อย่างเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานดิบหรือสุก เพราะมีสารโพแทสเซียมสูง ทำร่างกายของผู้ป่วยทำงานหนักเพื่อขับโพแทสเซียมออกจากร่างกาย และหากขับออกมาได้ไม่หมด อาจทำให้ร่างกายทรุดลงได้
  • ผู้ที่ป่วยเป็นกรดไหลย้อนก็ควรหลีกเลี่ยงเช่นกัน เพราะมะเขือเทสมีกรดอ่อนๆ อาจส่งผลให้โรคกำเริบหนักขึ้นได้

มะเขือเทศจัดได้ว่าเป็นพืชที่มีประโยชน์มาก โดยในส่วนของผลสุก สามารถแปรรูปเป็นผลไม้แช่อิ่มเพื่อให้สามารถเก็บไว้รับประทานได้นานๆ นับว่ามีประโยชน์ และสรรพคุณทางยาหลายด้าน นำมาปรนนิบัติด้านความสวยความงามก็ได้ผล และนำมาใช้ทำอาหารก็ได้อย่างหลากหลายเมนู ประโยชน์มากมายขนาดนี้ ไม่กินมะเขือเทศนับว่าพลาด

เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจตรวจภูมิแพ้อาหารแฝง จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกการอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android


5 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Is Tomato Juice Good for You? Benefits and Downsides. Healthline. (https://www.healthline.com/nutrition/tomato-juice)
Tomatoes: Benefits, facts, and research. Medical News Today. (https://www.medicalnewstoday.com/articles/273031)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป
10 อาหารสุขภาพที่มีวิตามิน E สูง
10 อาหารสุขภาพที่มีวิตามิน E สูง

รวบรวมอาหารเพื่อสุขภาพที่อุดมด้วยวิตามิน E เพื่อจะได้เติมประโยชน์ได้ร่างกายกันได้ง่ายขึ้น

อ่านเพิ่ม