กองบรรณาธิการ HD
เขียนโดย
กองบรรณาธิการ HD
ทีมแพทย์ HD
ตรวจสอบความถูกต้องโดย
ทีมแพทย์ HD

สะระแหน่ (Lemon Balm)

เผยแพร่ครั้งแรก 27 ม.ค. 2019 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 ตรวจสอบความถูกต้อง 4 มี.ค. 2019 เวลาอ่านประมาณ 7 นาที

สะระแหน่ (Lemon balm) หรือชื่อวิทยาศาสตร์ Melissa officinalis เป็นพืชยืนต้นที่อยู่ในตระกูลเดียวกับมิ้นท์ ใบสะระแหน่มีกลิ่นเลม่อนอ่อนๆ นำไปทำยาได้ สะระแหน่เพียงอย่างเดียวหรือที่ผสมร่วมกับสมุนไพรอื่นๆ นำไปใช้ในผลิตภัณฑ์สมุนไพรต่างๆ มากมาย

สะระแหน่รักษาปัญหาการย่อยอาหารอย่างอาการปวดท้อง ท้องอืด อาเจียน และโคลิก รวมถึงรักษาอาการเจ็บปวด อย่างปวดประจำเดือน ปวดศีรษะ และปวดฟัน อีกทั้งภาวะผิดปกติทางจิตอย่างฮิสเทอเรีย (hysteria) และโรคซึมเศร้ารุนแรง (melancholia)

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง

หลายคนนำสะระแหน่ไปใช้บรรเทาอาการอย่างภาวะวิตกกังวล ปัญหาการนอนหลับ และอยู่ไม่สุข มีการนำสมุนไพรชนิดนี้ไปใช้รักษาโรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer's disease) โรคสมาธิสั้น (attention deficit-hyperactivity disorder (ADHD)) โรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเองที่เกี่ยวกับไทรอยด์ (Graves' disease) หลอดลมบวม หัวใจเต้นเร็วเนื่องจากความตื่นเต้น ความดันโลหิตสูง อาการปวด เนื้องอก และแมลงกัดต่อย เป็นต้น

สำหรับการรักษาโรคอัลไซเมอร์นั้นจะนำสะระแหน่ไปใช้ในสุคนธบำบัด (aromatherapy) บางคนใช้วิธีทาสะระแหน่บนผิวเพื่อบรรเทาอาการจากโรคเริมที่ริมผีปาก (herpes labialis)

สารสกัดและน้ำมันจากสะระแหน่ยังถูกใช้ประกอบอาหารและผสมในเครื่องดื่มมากมายเพื่อแต่งกลิ่นให้น่าดึงดูดมากขึ้น

สะระแหน่ทำงานอย่างไร?

สะระแหน่ประกอบด้วยเคมีที่มีฤทธิ์เป็นยากล่อมประสาท ช่วยผ่อนคลาย และลดการเจริญเติบโตของไวรัสบางประเภทได้อีกด้วย

การใช้และประสิทธิภาพของสะระแหน่

ภาวะที่อาจใช้สะระแหน่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • ภาวะวิตกกังวล  (Anxiety) งานวิจัยบางชิ้นได้แสดงให้เห็นว่าการรับประทานผลิตภัณฑ์จากสะระแหน่บางประเภท (Cyracos by Naturex SA) สามารถลดอาการวิตกกังวลของผู้ป่วยบางรายได้บ้าง อีกทั้งงานวิจัยยังได้แสดงให้เห็นว่าการรับประทานผลิตภัณฑ์ที่มีสะระแหน่ รวมกับส่วนผสมอื่น 12 ชนิด (Klosterfrau Melissengeist by Klosterfrau) สามารถลดอาการวิตกกังวลได้อย่างความตื่นเต้นหรือกระสับกระส่าย เป็นต้น
  • โคลิก (colic) ในทารกที่ยังไม่หย่านม งานวิจัยบางชิ้นแสดงถึงการทดลองที่ให้ทารกที่ยังไม่หย่านมซึ่งมีอาการโคลิก รับผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยเฟนเนล (fennel) สะระแหน่ และดอกคาโมมายล์สายพันพันธุ์เยอรมัน (ColiMil by Milte Italia SPA) เป็นเวลา 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ช่วยลดระยะเวลาร้องไห้ของเด็กได้ งานวิจัยอื่นยังแสดงให้เห็นอีกว่า การรับประทานผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยสะระแหน่ ดอกคาโมมายล์สายพันธุ์เยอรมัน และแลคโตบาซิลลัส แอซิโดฟิลลัส (Lactobacillus acidophilus (ColiMil Plus by Milte Italia SPA)) กับเด็กทารกที่มีอาการโคลิก 2 ครั้งต่อ 4 สัปดาห์ สามารถลดระยะเวลาร้องไห้ได้ในความถี่เท่ากับการใช้โปรไบโอติก Lactobacillus reuteri DSM 17938 ต่อวัน นอกจากนี้ งานวิจัยอื่นยังแสดงผลของการให้ทารกดื่มชาที่ผสมดอกคาโมมายล์สายพันพันธุ์เยอรมัน, เวอร์บีนา หรือชื่อสามัญว่า เวอร์เวน (vervain), ชะเอมเทศ (licorice), เฟนเนล และสะระแหน่ (Calma-Bebi by Bonomelli) มากถึงสามครั้งต่อวันจะช่วยลดอาการโคลิกของเด็กทารกลงได้
  • สมองเสื่อม (Dementia) งานวิจัยบางชิ้นแสดงให้เห็นว่าการรับประทานสะระแหน่ทุกวันนาน 4 เดือนจะลดความอยู่ไม่สุขและลดอาการของโรคอัลไซเมอร์ชนิดเบาถึงปานกลางได้ อีกทั้งยังมีการศึกษาในประเทศอังกฤษว่าการทาโลชั่นที่ประกอบด้วยน้ำมันสะระแหน่ที่ใบหน้าและมือของผู้ป่วยสมองเสื่อมสามารถลดความอยู่ไม่สุขของพวกเขาได้ 35% แม้ว่าข้อมูลจากการศึกษาชิ้นเก่าจะไม่พบว่าสะระแหน่มีสรรพคุณเช่นนี้ก็ตาม
  • ปวดท้องอาหารไม่ย่อย (dyspepsia) การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยสะระแหน่ ใบเปปเปอร์มิ้นท์ ดอกคาโมมายล์สายพันธุ์เยอรมัน ยี่หร่า (caraway) ชะเอมเทศ คลาวน์ส มัสตาร์ด (clown's mustard) เซแลนดีน (celandine) ตังกุย (angelica) และ milk thistle (Iberogast by Steigerwald Arzneimittelwerk GmbH) อาจช่วยลดอาการกรดไหลย้อน (GERD) อาการปวดท้อง ปวดบิด คลื่นไส้ และอาเจียนได้ อีกทั้งการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยใบเปปเปอร์มิ้นท์ คลาวน์ส มัสตาร์ด ดอกคาโมมายล์สายพันพันธุ์เยอรมัน ยี่หร่า รากชะเอมเทศ และสะระแหน่ (STW 5-II by Steigerwald Arzneimittelwerk GmbH) อาจช่วยลดอาการจากโรคทางกระเพาะและลำไส้ของผู้ที่มีอาการปวดท้องอาหารไม่ย่อยได้เช่นกัน
  • การติดเชื้อไวรัส Herpes simplex การทาลิปมันที่ประกอบด้วยสะระแหน่ (LomaHerpan by Infectopharm) ณ บริเวณที่ติดเชื้ออาจช่วยเร่งระยะเวลาฟื้นตัวและลดอาการของการติดเชื้อซ้ำซากได้หากใช้ในระยะแรกของการติดเชื้อ
  • นอนไม่หลับ (Insomnia) การรับประทานสะระแหน่ (Cyracos by Naturex SA) 2 ครั้งต่อวันนาน 15 วันจะช่วยลดอาการนอนไม่หลับลงได้ อีกทั้งการรับประทานสะระแหน่ร่วมกับส่วนผสมอื่นช่วยเพิ่มคุณภาพการนอนหลับของผู้ที่มีปัญหาการนอนได้อีกด้วย โดยมีการศึกษาในปี 2006 ในเด็กที่ได้รับสะระแหน่และสารสกัดจากรากวาเลเรียนพบว่า อาการนอนไม่หลับดีขึ้น 70-80%
  • ความเครียด งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการรับประทานสะระแหน่เพียงโดสเดียวสามารถเพิ่มความตื่นตัวและความสงบใจในช่วงการสอบครั้งใหญ่ได้ โดยงานวิจัยบางชิ้นกล่าวเสริมว่าการเติมสะระแหน่ในอาหารหรือเครื่องดื่มจะช่วยลดความกังวล กระตุ้นความจำและความตื่นตัวช่วงประสบภาวะเครียด การใช้สะระแหน่ยังช่วยลดความกังวลของเด็กก่อนเข้ารับการทำฟันได้ด้วย แต่การใช้สะระแหน่ในปริมาณมากกลับทำให้ความเครียดที่เกิดจากภาวะวิตกกังวลมีมากขึ้น

ภาวะที่ยังคงขาดหลักฐานว่าใช้สะระแหน่รักษาได้หรือไม่

  • ความสามารถทางจิต งานวิจัยกล่าวว่าการรับประทานสะระแหน่ 1,600 mg จะช่วยเพิ่มความสามารถทางจิตขึ้นได้
  • โรคลำไส้อักเสบ (Colitis) งานวิจัยกล่าวว่าการรับประทานส่วนผสมของแดนดิไลออน (dandelion) เซนต์จอห์นเวิร์ต(St. John’s wort) สะระแหน่ ดอกดาวเรือง และเฟนเนลเป็นเวลา 15 วัน จะช่วยลดอาการเจ็บปวดและเพิ่มการทำงานของลำไส้ในผู้ป่วยโรคลำไส้อักเสบได้
  • ภาวะซึมเศร้า (Depression) งานวิจัยกล่าวว่าการรับประทานสะระแหน่ร่วมกับผงไข่ที่ผสมแล้วไม่อาจช่วยลดอาการของภาวะซึมเศร้าได้แม้จะเทียบกับการใช้ผงไข่ที่ผสมแล้วเพียงอย่างเดียว
  • ภาวะนอนหลับผิดปกติ (dyssomnia) มีหลักฐานกล่าวว่าการรับประทานยาเม็ดที่มีส่วนประกอบของสารสกัดจากใบสะระแหน่ 80 mg และสารสกัดจากรากวาเลเรียน 160 mg (Euvegal forte, Schwabe Pharmaceuticals) 1-2 เม็ดอาจลดอาการของเด็กที่อายุต่ำกว่า 12 ปีที่มีอาการกระสับกระส่ายตอนนอนรุนแรงจนต้องพึ่งยา
  • กลุ่มอาการลำไส้แปรปรวน (Irritable bowel syndrome (IBS)) มีหลักฐานกล่าวว่าการหยดผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยสะระแหน่ สเปียร์มินท์ (spearmint) และผักชี (coriander) 30 หยด 3 ครั้งต่อวันหลังอาหารแต่ละมื้อ นาน 8 สัปดาห์ ร่วมกับการรักษาตามปกติจะช่วยลดอาการปวดท้องของผู้ป่วย IBS ได้
  • อาการป่วยทางจิตที่ทำให้เกิดความเจ็บปวดทางร่างกาย (somatization disorder) การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยวาเลเรียน ดอกเสาวรส และสะระแหน่อาจช่วยลดอาการซึมเศร้าและวิตกกังวลในผู้ป่วยทางจิตที่มีอาการเจ็บปวดทางร่างกายได้
  • ไม่อยากอาหาร
  • ไม่สบายท้องและลำไส้จากอาการท้องอืดและแก๊ส
  • ชักกระตุก (Spasms)
  • ภาวะไทรอยด์ที่เรียกว่า Graves' disease
  • เร่งการไหลของประจำเดือน
  • ปวดในผู้หญิง
  • ปวดบิด
  • ปวดศีรษะ
  • ปวดฟัน
  • ปวดเมื่อย
  • เนื้องอก
  • แมลงกัดต่อย
  • เครียดลงกระเพาะ
  • ฮิสเทเรีย (Hysteria)
  • โรคสมาธิสั้น (Attention deficit-hyperactivity disorder (ADHD))
  • ภาวะสุขภาพอื่น

จำเป็นต้องรวบรวมหลักฐานให้มากขึ้นเพื่อให้ข้อมูลด้านประสิทธิผลของสะระแหน่เพิ่มเติม

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

ผลข้างเคียงและความปลอดภัยของสะระแหน่

สะระแหน่ค่อนข้างปลอดภัยเมื่อรับประทานในปริมาณเดียวกับที่บริโภคอาหาร อีกทั้งปลอดภัยเมื่อรับประทานหรือทาบนผิวหนังของผู้ใหญ่ในปริมาณเดียวกับที่ทางการแพทย์ใช้ในช่วงสั้นๆ นอกจากนี้ยังพบว่า สะระแหน่สามารถใช้ในงานวิจัยได้อย่างปลอดภัยนานถึง 4 เดือน แต่ ณ ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลเรื่องความปลอดภัยในการใช้สะระแหน่ในระยะยาว

เมื่อรับประทานสะระแหน่อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงบ้างเล็กน้อย อย่างเช่น ความอยากอาหารเพิ่มขึ้น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง วิงเวียน และหายใจหวีด

เมื่อทาบนผิวหนังสะระแหน่อาจทำให้ผิวหนังระคายเคืองได้บ้างและยังอาจช่วยลดอาการของโรคเริมได้ด้วย

คำเตือนและข้อควรระวังเป็นพิเศษ

สตรีมีครรภ์และแม่ที่ต้องให้นมบุตร ณ ขณะนี้ยังคงขาดแคลนข้อมูลที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความปลอดภัยจากการใช้สะระแหน่ ในกลุ่มผู้หญิงที่ต้องให้นมบุตรกับผู้ตั้งครรภ์ ดังนั้นคนในกลุ่มดังกล่าวควรเลี่ยงใช้สะระแหน่เพื่อความปลอดภัย

ทารกและเด็ก สะระแหน่จัดว่าปลอดภัยเมื่อรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมนาน 1 เดือน

เบาหวาน สะระแหน่อาจลดระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานได้ ดังนั้นควรเฝ้าระวังสัญญาณของภาวะน้ำตาลในเลือด (hypoglycemia) และระวังระดับน้ำตาลในเลือดของตนเองอย่างใกล้ชิดหากตนเองเป็นผู้ป่วยเบาหวานและต้องการใช้สะระแหน่

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง

การผ่าตัด สะระแหน่อาจทำให้เกิดอาการง่วงนอนได้หากใช้ร่วมกับยาที่ใช้ระหว่างและหลังการผ่าตัด ดังนั้นควรหยุดใช้สะระแหน่ก่อนเข้ารับการผ่าตัด 2 สัปดาห์

โรคไทรอยด์ ไม่ควรใช้สะระแหน่หากคุณเป็นโรคกลุ่มนี้เนื่องจากมีข้อกังวลว่าสะระแหน่อาจเปลี่ยนแปลงการทำงานของไทรอยด์ ลดระดับฮอร์โมนไทรอยด์ และรบกวนการบำบัดชดเชยฮอร์โมนไทรอยด์ได้

การใช้สะระแหน่ร่วมกับยาชนิดอื่น

ใช้สะระแหน่ร่วมกับยาเหล่านี้ด้วยความระมัดระวัง

  • ยากล่อมประสาท (CNS depressants) กับสะระแหน่

สะระแหน่อาจทำให้เกิดอาการง่วงนอนได้ ดังนั้นยาที่ทำให้เกิดอาการง่วงนอนที่เรียกว่ากลุ่มยากล่อมประสาท (sedatives) อาจทำให้ผู้ใช้มีอาการง่วงนอนมากเกินไป โดยกลุ่มยากล่อมประสาทมีทั้ง clonazepam (Klonopin), lorazepam (Ativan), phenobarbital (Donnatal), zolpidem (Ambien), และอื่นๆ

ปริมาณยาที่ใช้

ปริมาณหรือขนาดยาที่ใช้ดังต่อไปนี้ได้รับการศึกษาจากงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์

ผู้ใหญ่

รับประทาน

  • สำหรับภาวะวิตกกังวล การใช้สารสกัดสะระแหน่ 300 mg (Cyracos by Naturex SA) 2 ครั้งต่อวัน นาน 15 วัน อีกทั้งสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยส่วนผสม 13 ชนิดที่มีสะระแหน่รวมอยู่ด้วย 0.23 mL/น้ำหนักร่างกาย (kg) (Klosterfrau Melissengeist, Klosterfrau) 3 ครั้งต่อวันนาน 8 สัปดาห์
  • สำหรับโรคสมองเสื่อม สารสกัดจากสะระแหน่ 60 หยดนาน 4 เดือน
  • สำหรับอาการปวดท้องอาหารไม่ย่อย ผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยสะระแหน่ ใบเปปเปอร์มิ้นท์ คลาวน์ส มัสตาร์ด ดอกคาโมมายล์สายพันธุ์เยอรมัน เซแลนดีน ตังกุย และมิลค์ ทิสเซิล (milk thistle (Iberogast by Steigerwald Arzneimittelwerk GmbH)) 1 mL 3 ครั้งต่อวันนาน 4 สัปดาห์ อีกทั้งยังใช้ยาสมุนไพรที่ประกอบด้วยสะระแหน่ คลาวน์ส มัสตาร์ด ดอกคาโมมายล์สายพันธุ์เยอรมัน ใบเปปเปอร์มิ้นท์ ยี่หร่า และรากชะเอมเทศ (STW 5-II by Steigerwald Arzneimittelwerk GmbH) 1 mL 3 ครั้งต่อวันนาน 8 สัปดาห์
  • สำหรับภาวะนอนไม่หลับ สารสกัดจากสะระแหน่ 300 mg (Cyracos by Naturex SA) 2 ครั้งต่อวันนาน 15 วัน อีกทั้งใช้ผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยสารสกัดสะระแหน่ 80 mg และสารสกัดจากรากวาเลเรียน (Euvegal forte, Dr. Willmar Schwabe Pharmaceuticals) 2-3 ครั้งต่อวันนาน 30 วัน และยาเม็ดที่ประกอบด้วยรากวาเลเรียน 170 mg, ฮ็อบส์ 50 mg, สะระแหน่ 50 mg และ motherwort 50 mg 
  • สำหรับภาวะเครียด มีการศึกษาเรื่องปริมาณยาสำหรับภาวะนี้มากมาย โดยมีการใช้สารสกัดสะระแหน่ 600 mg ระหว่างการทดสอบความเครียด, ใช้สารสกัดสะระแหน่ 300 mg (Bluenesse by Vital Solutions) ในอาหารหรือเครื่องดื่มระหว่างการทดสอบทางจิต, และยาเม็ดที่ประกอบด้วยสารสกัดสะระแหน่ 80 mg และสารสกัดจากรากวาเลเรียน 120 mg (Songha Night by Pharmaton Natural Health Products) สำหรับการทดสอบความเครียด

ทาบนผิวหนัง

  • สำหรับโรคเริม (herpes simplex virus) ครีมที่ประกอบด้วยสารสกัดจากสะระแหน่ 1% (LomaHerpan by Infectopharm) 2-4 ครั้งต่อวัน โดยเริ่มทาตั้งแต่เห็นสัญญาณแรกของอาการไปจนถึงไม่กี่วันหลังร่องรอยของโรคเริมหายไป

สูดดมด้วยสุคนธบำบัด

  • สำหรับโรคสมองเสื่อม โลชั่นที่ประกอบด้วยสะระแหน่ 10% นวดบนมือและต้นแขนเป็นเวลา 1-2 นาที 2 ครั้งต่อวันนาน 4 สัปดาห์

เด็ก

รับประทาน

  • สำหรับภาวะโคลิก สำหรับเด็กทารกให้ใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรรวมที่ประกอบด้วยเฟนเนล 164 mg, สะระแหน่ 97 mg, และดอกคาโมมายล์สายพันธุ์เยอรมัน 178 mg (ColiMil by Milte Italia SPA) 2 ครั้งต่อวันนาน 1 สัปดาห์ หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยสะระแหน่ 65 mg, ดอกคาโมมายล์สายพันธุ์เยอรมัน 9 mg, และ Lactobacillus acidophilus ที่ถูกฆ่าด้วยความร้อน 1 พันล้านตัว (ColiMil Plus by Milte Italia SPA) 2 ครั้งต่อวันนาน 4 สัปดาห์ และชาสมุนไพรที่ประกอบด้วยดอกคาโมมายล์สายพันธุ์เยอรมัน เวอร์เวน ชะเอมเทศ เฟนเนล และสะระแหน่ 150 mL (Calma-Bebi by Bonomelli) 3 ครั้งต่อวันนาน 7 วัน
  • สำหรับคุณภาพการนอนหลับต่ำ ยาเม็ดที่ประกอบด้วยสารสกัดใบสะระแหน่ 80 mg และสารสกัดจากรากวาเลเรียน 160 mg (Euvegal forte, Dr. Willmar Schwabe Pharmaceuticals) 1 หรือ 2 ครั้งต่อวัน (สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี)

2 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Debra Rose Wilson, 10 Benefits of Lemon Balm and How to Use It (https://www.healthline.com/health/lemon-balm-uses), 10 August 2017.

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน ผู้อ่านไม่ควรเลือกใช้ยาเองจากการอ่านบทความ ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาทุกครั้ง เพราะแต่ละท่านอาจมีสาเหตุของโรค โรคประจำตัว และประวัติการรักษาที่ต่างกัน ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)