ปรึกษาแพทย์ฟรี! จองคิวกับแอดมินเพื่อรับแคชแบ็ก 7% ไม่มีขั้นต่ำ ถ้าตัดสินใจรับบริการ
แพ็กเกจนี้จำเป็นต้องให้แพทย์ตรวจประเมินก่อนรับบริการ และอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากที่ระบุไว้บนเว็บไซต์
ซิลิโคน Mentor เป็นแบรนด์ซิลิโคนเสริมหน้าอกจากสหรัฐอเมริกา และได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐ (FDA)
ประกาศ❗ผู้ใช้บัตรเครดิต Citi และ UOB จะไม่สามารถผ่อนชำระได้ตั้งแต่วันที่ 18-21 เม.ย. 67 (ผ่อนได้ 22 เม.ย. 67) แต่ยังสามารถใช้บัตรชำระเต็มจำนวนได้ผ่านแอดมิน
รายละเอียด
รายละเอียด
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- เสริมหน้าอกทรงกลมด้วยซิลิโคน แบรนด์ Mentor ขนาดไม่เกิน 400 ซีซี สำหรับเคสเสริมครั้งแรก
- ค่าตรวจเลือดและคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
- ค่าวางยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์
หมายเหตุ
- สามารถปรึกษาแพทย์ก่อนทำได้ ฟรี ไม่ว่าจะจัดสินใจทำหรือไม่ทำ
- หากต้องการเสริมมากกว่า 400 ซีซี จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเริ่มต้น 5,000 บาท (เสริมได้สูงสุด 800 ซีซี)
- หากต้องการการดูและเป็นพิเศษ หรือแพทย์พิจารณาว่าต้องบางอย่างนอกเหนือจากแพ็กเกจ จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มดังนี้
- ค่ายานอนหลับ 300-2,000 บาท
- ค่าห้องพักฟื้นพร้อมพยาบาลดูแล 3,000 บาท
- ค่ายาและเวชภัณฑ์เพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับแพทย์ประเมิน
- ค่าชุดซัพพอร์ต ขึ้นอยู่กับแพทย์ประเมิน
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
- แพ็กเกจนี้จำกัดเฉพาะผู้ที่เสริมครั้งแรกเท่านั้น
- ต้องนัดหมายล่วงหน้าก่อนรับบริการ เพื่อปรึกษาแพทย์ก่อนทำ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
- เจ้าหน้าที่จะอธิบายขั้นตอนการปฏิบัติตัวก่อนและหลังการผ่าตัด พร้อมมี Beauty Advisor ให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด รวมถึงนัดหมายตรวจสุขภาพที่คลินิก เพื่อเตรียมความพร้อมร่างกายก่อนผ่าตัด หากผลไม่มีปัญหาก็สามารถนัดหมายวันผ่าตัดได้ พร้อมให้ผู้รับบริการเซ็นใบยินยอมการผ่าตัด
- ดูแลโดย ผศ. นพ. รนชัย โคมทอง (หมอรน) หัวหน้าทีมศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง พร้อมทีมแพทย์และพยาบาลผู้ชำนาญการดูแลใกล้ชิด
- ระยะเวลาเสริมซิลิโคนประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ถึง 2 ชั่วโมง
- วิสัญญีแพทย์จะเริ่มกระบวนการดมยาสลบก่อนเริ่มผ่าตัด
- ศัลยแพทย์จะเริ่มผ่าตัดตามแผนที่วางไว้กับผู้รับบริการ โดยใช้เทคนิคเสริมใต้กล้ามเนื้อ โดยจะเลาะช่องบริเวณหน้าอก เปิดแผลเล็กใต้ราวนม ใส่ซิลิโคน และเย็บปิดแผล เทคนิคนี้จะช่วยลดโอกาสเกิดพังผืดลงได้ ดูเป็นธรรมชาติมากกว่าเทคนิคอื่นๆ แต่จะใช้ระยะเวลาพักฟื้นนานกว่า
- เจ้าหน้าที่จะคอยติดตามอาการตั้งแต่หลังผ่าตัดจนผู้รับบริการฟื้น เมื่อมีอาการคงที่แล้วจึงจะอนุญาตให้กลับบ้านได้
- ไม่ต้องค้างคืน ควรมีญาติมารับกลับ
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- ควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ประมาณ 6-8 ชั่วโมง
- ห้ามรับประทานยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบางชนิด 1 อาทิตย์ก่อนทำ เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน ไดโคลฟีแนค พอนสแตน วิตามินอี น้ำมันปลา ใบแปะก๊วย โสม St. John's wort น้ำมันกระเทียม เพราะมีผลต่อยาต้านการแข็งตัวของเลือด (ควรปรึกษาแพทย์ที่รักษาก่อนหยุดยา)
- งดทายาที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว เช่น Tretinoin (Retin-A) Retinols Retinoids Glycolic Acid หรือครีมในกลุ่ม Anti-Aging อย่างน้อย 3 วันก่อนทำ
- หากมีโรคประจำตัว ยาที่ทานประจำ หรือแพ้ยา ควรแจ้งแพทย์ก่อนทำ
- งดดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ 24 ชั่วโมงก่อนทำ
- งดกิจกรรมที่ส่งผลให้มีการสูบฉีดไหลเวียนของเลือดมากขึ้น เช่น การออกกำลังกาย ซาวนา ในช่วง 24 ชั่วโมงก่อนทำ
- ต้องตรวจเลือดก่อนศัลยกรรม โดยทางคลินิกจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการ
- งดน้ำงดอาหาร 8 ชั่วโมงก่อนดมยาสลบ
การดูแลหลังรับบริการ
- ภายใน 24 ชั่วโมงหลังการผ่าตัด บางรายอาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียน เนื่องจากผลข้างเคียงของการดมยาสลบ แต่หากไม่มีอาการสามารถทานอาหารอ่อนได้
- ไม่ควรนอนราบหลังการผ่าตัด ควรนอนให้ลำตัวส่วนบนสูง ประมาณ 30-45 องศา ควรนอนโดยใช้หมอนสูง 2-3 ใบหนุนดันหลัง
- ไม่ควรขยับตัวมากในช่วง 2-3 วันแรกหลังผ่าตัด
- ไม่ควรให้แผลถูกน้ำใน 5-7 วันแรก
- กรณีที่พลาสเตอร์หรืออุปกรณ์ที่ติดแผลลอกหลุดหรือแผลลอกหลุดหรือบาดแผลถูกน้ำ ให้กลับมาทำแผลปิดพลาสเตอร์กันน้ำใหม่ที่คลินิก ไม่ควรทำแผลเอง
- ควรนอนพักผ่อนให้เพียงพอในช่วง 5-7 วันหลังผ่าตัด
- แพทย์จะนัดตัดไหมและตรวจเต้านมหลังผ่าตัด 5-7 วัน
- หากมีอาการอักเสบ บวม แดง มีเลือดหรือหนอง มีอาการปวดแผลมากขึ้น หรือมีไข้ขึ้นก่อนวันนัด ควรรีบกลับมาพบแพทย์ทันที
- ในช่วง 5-7 วันหลังตัดไหม หากอาการปวดทุเลาลง ให้เริ่มนวดหน้าอกเบาๆ ตามที่แพทย์แนะนำ เพิ่อป้องกันการเกิดพังผืดยึดเกาะเต้านม จนทำให้หน้าอกแข็ง แต่ไม่ควรนวดก่อนตัดไหม
- ควรนวดคลึงเต้านมบ่อยๆ อย่างน้อย 6 เดือน เพื่อป้องกันปัญหา โพรงที่ใส่ถุงนมมีการหดรัด รอบถุง ทำให้เต้านมแข็ง หด เป็นก้อน
- ไม่ควรยกของหนักหรือออกกำลังกายที่ใช้กล้ามเนื้อหน้าอก อย่างน้อย 6 สัปดาห์หลังผ่าตัด
- อาการบวมจะมีอยู่ประมาณ 4 สัปดาห์หลังผ่าตัด โดยจะบวมอยู่ประมาณ 2 สัปดาห์แรก และจะลดลงเรื่อยๆ จนปกติประมาณ 6 สัปดาห์หลังผ่าตัด
- ควรสวมเสื้อชั้นในชนิดไม่มีโครง เช่น สปอร์ตบรา หรือซัพพอร์ตบราประมาณ 6 สัปดาห์ หลังจากนั้นสามารถสวมเสื้อชั้นในได้ตามปกติ
- สามารถขับรถพวงมาลัยพาวเวอร์ได้หากอาการปวดทุเลาลงประมาณ 5-7 วันหลังการผ่าตัด
- รับประทานยาตามแพทย์สั่งและมาตรวจตามนัดอย่างเคร่งครัด
- งดยา แอสไพริน บรูเฟน วิตามินอี น้ำมันตับปลา หรือสมุนไพรต่างๆ ต่ออีก 2 สัปดาห์หลังผ่าตัด เนื่องจากส่งผลให้เลือดออกง่าย ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งหากต้องทานยาอื่นๆ เพิ่มในช่วง 2 สัปดาห์หลังผ่าตัด
- ควรเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์หากยังมีอาการบวมและปวดแผล
- อาจมีอาการเสียวแปลบที่หัวนมหรือเต้านมด้านข้าง แต่จะหายไปภายในเวลาประมาณ 3 เดือน
- หากมีภาวะแทรกซ้อนหลังเสริมหน้าอก เช่น เลือดออกภายใน ติดเชื้ออักเสบ เต้านมแข็งตึง อาการปวดที่รุนแรงทันทีทันใด ซึ่งเกิดขึ้นได้น้อย แต่ก็ควรรีบปรึกษาแพทย์โดยด่วน
ก่อนตัดสินใจ
ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
- รู้สึกเจ็บบริเวณหน้าอกที่ทำการผ่าตัด
- ความรู้สึกบริเวณเต้านมหรือหัวนมอาจเปลี่ยนไปชั่วคราว
- เกิดการติดเชื้อ
- เกิดแผลเป็นบริเวณที่ผ่าตัด
- เกิดพังผืดภายในเต้านมทำให้เต้านมแข็ง
- มีเลือดออก เกิดลิ่มเลือด หรือของเหลวคั่งเป็นก้อน
- ซิลิโคนมีรอยแยกหรือรั่ว
- อาจต้องมีการผ่าตัดแก้ไขเพิ่มในภายหลัง
- หลังการผ่าตัดเสริมหน้าอกอาจทำให้มีปัญหาการให้นมบุตร หรือมีการปนเปื้อนสารพิษผ่านไปยังทารก
ข้อห้ามใช้
- สตรีตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
- ผู้ที่มีการติดเชื้อ หรือเป็นมะเร็งเต้านม
- ผู้ที่กำลังรักษาด้วยรังสีบำบัด
- ผู้ที่มีประวัติเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง
- ผู้ที่มีประวัติแพ้ซิลิโคน
- ซิลิโคนเสริมหน้าอก ได้รับอนุญาตให้ใช้ในคนอายุ 22 ปีขึ้นไปเท่านั้น
- หากมีโรคประจำตัวหรือมีประวัติเป็นโรคทางจิตเวช ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ
ข้อมูลทั่วไป
การเสริมหน้าอก เป็นการผ่าตัดเพื่อเพิ่มขนาดหน้าอก โดยวัสดุสำหรับเสริมหน้าอกที่นิยมในปัจจุบันทำมาจากซิลิโคนเจล
ข้อดีของซิลิโคนเจลเสริมหน้าอก คือ ให้ความรู้สึกคล้ายหน้าอกจริง ดูเป็นธรรมชาติ และเกิดผลแทรกซ้อนน้อย โดยซิลิโคนเจลที่นำมาใช้ต้องผ่านการได้รับอนุญาตจาก อ.ย. เท่านั้น
ซิลิโคนเสริมหน้าอกแต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร?
ก่อนผ่าตัดเสริมหน้าอก สามารถพิจารณาเลือกชนิดของซิลิโคนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่พอใจที่สุด ซึ่งข้อแตกต่างของแต่ละแบบมีดังนี้
- ขนาด ก่อนอื่นแพทย์จะตรวจวัดร่างกายโดยละเอียดด้วยหลักทางการแพทย์ เพื่อพิจารณาว่าควรเสริมด้วยซิลิโคนขนาดใด ให้เหมาะกับขนาดสรีระของร่างกาย ใส่ได้พอดี ไม่รู้สึกอึดอัด และดูเป็นธรรมชาติ
- รูปทรง มี 2 แบบ ได้แก่ ทรงกลม และทรงหยดน้ำ ทรงกลมจะทำให้เห็นเนินอกชัดเจนกว่า แต่ทรงหยดน้ำจะดูเป็นธรรมชาติมากกว่า ทั้งนี้ขึ้นกับโครงสร้างร่างกายของแต่ละคนด้วย
- ผิว มี 2 แบบ ได้แก่ ผิวทราย และผิวเรียบ ผิวทรายทำให้เกิดพังผืดหลังการผ่าตัดน้อยกว่าผิวเรียบ จึงไม่ค่อยทำให้หน้าอกแข็งหลังทำ แต่ราคาค่อนข้างสูงกว่า
หมายเหตุ
- แพทย์อาจเลือกผ่าตัดบริเวณรักแร้ ปานนม หรือใต้ราวนม ซึ่งมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน
- ตำแหน่งที่วางซิลิโคนอาจเป็น เหนือกล้ามเนื้อ ใต้กล้ามเนื้อ หรือผสมกัน (วางซิลิโคนด้านบนใต้กล้ามเนื้อและวางซิลิโคนด้านล่างเหนือกล้ามเนื้อ) ขึ้นกับความเห็นและความเชี่ยวชาญของแพทย์
- การผ่าตัดที่ใส่ท่อระบายหรือท่อเดรน จะช่วยระบายน้ำเหลืองจากการผ่าตัด ทำให้การบวมช้ำน้อยลง พักฟื้นเร็วขึ้น
แพ็กเกจนี้ใช้ซิลิโคน Mentor®
ซิลิโคน Mentor® ให้ความรู้สึกนุ่ม เป็นธรรมชาติ คล้ายกับหน้าอกจริง มีให้เลือกหลายขนาดและหลายแบบเพื่อให้พอดีกับร่างกาย
วิธีชำระและใช้งาน
วิธีซื้อแพ็กเกจของ Naravee Clinic (ณรวีคลินิก) ผ่าน HDmall
นัดคิวเข้าไปให้คุณหมอตรวจประเมิน แล้วกลับมาจ่ายเงินที่ HDmall.co.th รับส่วนลดทันที
- กด 'จองเลย' แล้วกรอกข้อมูลให้ครบ
- นัดคิวเข้าไปให้คุณหมอตรวจประเมินก่อนรับบริการ (อาจมีค่าใช้จ่าย ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก)
- นำยอดค่าใช้จ่ายที่คุณหมอสรุปให้ มาแจ้งกับแอดมิน HDmall โดยเข้าไลน์ @hdcoth แล้วพิมพ์ 'hdexpress' เพื่อดำเนินการชำระเงินพร้อมรับส่วนลด สามารถเลือกวิธีโอน จ่ายบัตรเดบิต หรือบัตรเครดิต โดยจ่ายบัตรเครดิตได้เมื่อมียอดชำระ 300 บาทขึ้นไป ผ่อนได้เมื่อมียอดชำระตั้งแต่ 3,000 บาท
- รอรับคูปองทางอีเมล (จะออกภายใน 15 นาทีหลังแอดมินตรวจสอบการชำระเงินเรียบร้อยแล้ว) คูปองมีอายุ 60 วัน
- นำคูปองไปยื่นที่คลินิกเพื่อรับบริการ
*ระยะเวลาผ่อนชำระขึ้นอยู่กับราคาแพ็กเกจ
จองแพ็กเกจผ่าน HDmall.co.th ให้คุณหมอตรวจประเมิน แล้วไปจ่ายเงินที่คลินิก รับแคชแบ็กหลังรับบริการ
- กด 'จองเลย' และกรอกข้อมูลให้ครบ
- รับคูปองทางอีเมล คูปองมีอายุ 30 วัน
- นำคูปองไปยื่นที่คลินิกเพื่อรับการตรวจประเมินจากแพทย์ก่อนทำ เมื่อแพทย์พิจารณาว่ารับบริการได้ สามารถนัดหมายวันรับบริการและจ่ายเงินราคาเต็มที่คลินิกได้เลย
- ภายใน 30 วันนับจากชำระเงิน กรุณาส่งหลักฐานดังนี้ให้แอดมินทางไลน์ @hdcoth เพื่อรับแคชแบ็ก
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาใบเสร็จของคลินิก
- สำเนาหน้าสมุดบัญชี
- หน้าคูปอง
- รอรับแคชแบ็กภายใน 7-14 วัน (ตัดรอบโอนเงินทุกวันจันทร์ เวลา 15.00 น. เงินจะเข้าบัญชีของคุณภายในวันศุกร์)
*ผู้ที่ใช้สิทธิ์ประกันสังคม ประกันสุขภาพ หรือประกันชีวิต จะไม่สามารถรับสิทธิ์พิเศษต่างๆ รวมถึงไม่สามารถเบิก Cashback จาก HDmall.co.th ได้
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ (คูปองมีอายุ 30-60 วัน ตามที่ระบุในคูปอง)
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ ทางคลินิกจะสรุปค่าใช้จ่ายให้ทราบหลังแพทย์ตรวจประเมิน
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ Naravee Clinic (ณรวีคลินิก) อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th