ประโยชน์ของเมล็ดฟักทอง

รวมประโยชน์ของเมล็ดฟักทอง ดีต่อร่างกายด้านไหนบ้าง ใครบ้างควรหลีกเลี่ยง
เผยแพร่ครั้งแรก 20 พ.ค. 2020 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 4 นาที
ประโยชน์ของเมล็ดฟักทอง

เรื่องควรรู้

ขยาย

ปิด

  • เมล็ดฟักทอง เป็นเมล็ดที่อยู่ในไส้ผลฟักทอง อุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุมากมายหลายชนิด
  • เมล็ดฟักทองยังประกอบไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งช่วยลดโอกาสการเกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือดได้
  • เมล็ดฟักทองดีต่อระบบสืบพันธุ์ทั้งเพศหญิง และเพศชาย โดยช่วยเพิ่มจำนวนตัวอสุจิได้ และช่วยป้องกันการติดเชื้อในมดลูก
  • เมล็ดฟักทองมีแร่ธาตุสังกะสี และธาตุเหล็กชั้นดีที่ช่วยบำรุงระบบภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรง
  • เด็กเล็ก ผู้ที่มีปัญหาความดันโลหิตต่ำ ผู้ที่มีปัญหาภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก ผู้ป่วยโรคไต ไม่ควรรับประทานเมล็ดฟักทอง เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงได้
  • เปรียบราคาและแพ็กเกจตรวจภูมิแพ้ ภาวะแพ้

เมล็ดฟักทอง เป็นอีกหนึ่งของขบเคี้ยวที่หลายคนชื่นชอบ นอกจากความเคี้ยวเพลินแล้ว เมล็ดเล็กๆ จากผลฟักทองยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย

เมล็ดฟักทองคืออะไร?

เมล็ดฟักทอง (Pumpkin seed) เป็นเมล็ดของผลฟักทอง ซึ่งเป็นพืชมีเถาชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพเช่นเดียวกัน

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ตรวจภูมิแพ้และภาวะแพ้วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 1,376 บาท ลดสูงสุด 69%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

เมล็ดฟักทองอยู่ภายในไส้ของผลฟักทอง มีลักษณะแบนรี มีเปลือกสีขาวนวล หรือขาวอมเหลือง ข้างในเมล็ดเป็นสีเขียว

ในเมล็ดฟักทอง 28 กรัมให้พลังงานประมาณ 151 แคลอรี โดยส่วนประกอบหลักมาจากโปรตีน และไขมัน

นอกจากนี้ ในเมล็ดฟักทองยังให้สารอาหารที่มีประโยชน์อื่นๆ อีก เช่น ไฟเบอร์ คาร์โบไฮเดรต วิตามินบี 2 วิตามินเค แมงกานีส แมกนีเซียม สังกะสี และสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด

สารสำคัญในเมล็ดฟักทอง

ในเมล็ดฟักทองมีสารสำคัญที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ดังนี้

1. สารต้านอนุมูลอิสระ

ในเมล็ดฟักทองประกอบไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระอย่างสารแคโรทีนอยด์ และวิตามินอี จึงซึ่งมีส่วนช่วยลดอาการอักเสบ ลดการเกิดโรคมะเร็ง และช่วยปกป้องเซลล์ของร่างกายจากสารอนุมูลอิสระที่ทำให้เกิดโรคต่างๆ ตามมา

2. แมกนีเซียม

แมกนีเซียมในเมล็ดฟักทอง คือ แร่ธาตุชั้นดีในการเสริมความแข็งแรงของมวลกระดูกให้ดียิ่งขึ้น ช่วยลดโอกาสเกิดโรคกระดูกพรุน (Osteoporosis) โดยเฉพาะในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนแล้ว

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ตรวจภูมิแพ้และภาวะแพ้วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 1,376 บาท ลดสูงสุด 69%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

นอกจากนี้ แร่ธาตุแมกนีเซียมยังมีส่วนช่วยปรับภาวะอารมณ์ของคุณให้คงที่ ทำให้ผู้ที่มีปัญหานอนหลับยากสามารถนอนหลับได้ง่ายขึ้น

3. กรดไขมันโอเมก้า 3

เมล็ดฟักทองอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 (Omega-3) ซึ่งช่วยลดโอกาสเกิดภาวะเส้นเลือดอุดตันและหัวใจเต้นผิดจังหวะ ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดภาวะหัวใจวาย (Heart attack) โรคหลอดเลือดสมอง ภาวะหลอดเลือดแข็ง และภาวะอื่นๆ เกี่ยวกับหัวใจที่อันตรายถึงชีวิตได้

นอกจากนี้ กรดไขมันโอเมก้า 3 ยังช่วยบำรุงระบบไหลเวียนเลือด ผ่านการเสริมระบบการทำงานของเซลล์เยื่อบุหลอดเลือด (Endothelial function)

ประโยชน์ของเมล็ดฟักทอง

จากที่กล่าวไปแล้วว่าเมล็ดฟักทองมีสารอาหารหลากหลาย ดังนั้นจึงช่วยลดโอกาสการเกิดโรคได้หลายโรค ตัวอย่างประโยชน์ของเมล็ดฟักทองต่อสุขภาพ ได้แก่

1. เมล็ดฟักทองช่วยเพิ่มจำนวนตัวอสุจิ

สำหรับคุณผู้ชายที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์ คุณควรลองหาเมล็ดฟักทองมารับประทาน เพราะมันอุดมไปด้วยแร่ธาตุสังกะสีที่ช่วยเพิ่มปริมาณตัวอสุจิที่แข็งแรงมากขึ้น และลดความเสี่ยงการเป็นหมันในเพศชายได้

อีกทั้งในเมล็ดฟักทองยังมีส่วนช่วยบำรุงระบบฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) ซึ่งเป็นฮอร์โมนสำคัญของผู้ชาย และน้ำมันเมล็ดฟักทองยังช่วยบำรุงการทำงานของต่อมลูกหมากได้ดีอีกด้วย

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ตรวจภูมิแพ้และภาวะแพ้วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 1,376 บาท ลดสูงสุด 69%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

2. เมล็ดฟักทองช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด

เมล็ดฟักทองประกอบไปด้วยโปรตีน และคาร์โบไฮเดรตชั้นดีที่ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ อีกทั้งช่วยบำรุงระบบการผลิตสารอินซูลินของร่างกาย ให้สามารถเปลี่ยนน้ำตาลกลูโคสไปเป็นพลังงานในร่างกายได้อย่างเพียงพอ

3. เมล็ดฟักทองบำรุงผิวพรรณ

แร่ธาตุสังกะสีในเมล็ดฟักทองมีประโยชน์ในการบำรุงผิวพรรณ ทั้งยังมีสารสควาเลน (Squalane) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระอีกชนิดที่ช่วยปกป้องผิวคุณจากแสงยูวี รวมถึงรังสีจากดวงอาทิตย์

อีกทั้งสารสควาเลนยังมีถือเป็นตัวบำรุงสำคัญในการเพิ่มปริมาณสารเรตินอล (Retinol) ซึ่งเป็นสารช่วยยับยั้งไม่ให้ผิวเกิดริ้วร้อย จุดด่างดำจากการเผชิญแสงแดด

4. เมล็ดฟักทองบำรุงระบบย่อยอาหาร

ไฟเบอร์ในเมล็ดฟักทองมีประโยชน์ต่อการบำรุงระบบย่อยอาหารของร่างกาย ทำให้คุณอิ่มท้องได้นาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก

และไฟเบอร์จากเมล็ดฟักทองยังช่วยควบคุมระดับไขมันคอเลสเตอรอลในเลือดได้ จึงช่วยลดโอกาสเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ด้วยเช่นกัน

อีกทั้งในเมล็ดฟักทองยังมีสารไฟโคสเตอรอล (Phytosterols) เป็นสารพฤษเคมีที่พบได้ในพืชซึ่งมีประโยชน์ในการลดระดับไขมันไม่ดี (Low-Density Lipoprotein: LDL) ในร่างกายไม่ให้สะสมมากเกินไป

5. เมล็ดฟักทองเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน

แร่ธาตุสังกะสีและธาตุเหล็กในเมล็ดฟักทองช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง ป้องกันการติดเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรียต่างๆ

นอกจากในตัวเมล็ดแล้ว น้ำมันจากเมล็ดฟักทองยังมีวิตามินอีและสารต้านอนุมูลอิสระอื่นๆ ที่ช่วยบำรุงระบบภูมิคุ้มกันและระบบเม็ดเลือดแดงอีกด้วย

6. เมล็ดฟักทองมีประโยชน์ต่อระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิง

แร่ธาตุสังกะสีในเมล็ดฟักทองถือเป็นแร่ธาตุสำคัญในการบำรุงสุขภาพของหญิงตั้งครรภ์ และช่วยป้องกันการติดเชื้อโรคในมดลูก หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อีกทั้งช่วยป้องกันการเกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะได้

เมนูสุขภาพจากเมล็ดฟักทอง

ผู้คนส่วนมากมักบริโภคเมล็ดฟักทองเป็นเมล็ดๆ แบบของกินเล่น แต่ความจริงแล้ว เมล็ดฟักทองยังสามารถนำมาดัดแปลงเป็นเมนูขนมอื่นๆ ได้อีก เช่น

  • คุกกี้ธัญพืชผสมเมล็ดฟักทอง
  • กราโนลาใส่เมล็ดฟักทอง
  • เค้กฟักทอง
  • แซนด์วิชสอดไส้แยมกับธัญพืชเมล็ดฟักทอง
  • เค้กกล้วยหอมอบเมล็กฟักทอง
  • นมเมล็ดฟักทอง

ข้อควรระวังในการรับประทานเมล็ดฟักทอง

เมล็ดฟักทองอาจทำให้คุณเกิดผลข้างเคียงจากวิธีรับประทานที่ไม่เหมาะสมได้ เช่น

  • ทำให้ปวดท้อง เพราะในเมล็ดฟักทองมีน้ำมันที่มีไขมันสูง ซึ่งสามารถส่งผลให้เกิดอาการปวดเกร็งท้องได้ คุณจึงไม่ควรรับประทานเมล็ดฟักทองขณะท้องว่าง แต่ควรรับประทานร่วมกับอาการชนิดอื่นๆ
  • ไม่ได้รับสารอาหารเท่าที่ควร หากคุณปรุงอาหารด้วยเมล็ดฟักทองอย่างผิดวิธี เช่น ใช้ความร้อนสูงเกินไป จะทำให้สารอาหารที่มีประโยชน์ เช่น วิตามินบี วิตามินซี ถูกทำลายออกไป
  • ส่งผลต่อระดับเกลือแร่ในร่างกาย โดยเฉพาะในผู้ที่ต้องใช้ยาขับปัสสาวะ (Diuretic Drugs) ผู้ป่วยโรคไต ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด เมล็ดฟักทองอาจทำให้ยาออกฤทธิ์ได้ไม่ดีพอจนคุณไม่สามารถปัสสาวะออกมาได้มากอย่างที่ควร
  • ไม่เหมาะสำหรับเด็กเล็ก เด็กเล็กในช่วงวัยอนุบาลยังไม่ควรรับประทานเมล็ดฟักทอง เพราอาจทำให้เด็กปวดท้อง อาเจียน หรือท้องเสียได้
  • เกิดอาการแพ้ เมล็ดฟักทองก็สามารถทำให้เกิดอาการแพ้อาหารได้เช่นกัน แต่มักเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก หากคุณรับประทานเมล็ดฟักทองแล้วมีอาการผื่นลมพิษ ปวดหัว ปากบวม คอบวม หายใจลำบาก ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
  • ไม่เหมาะกับผู้ที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ เมล็ดฟักทองอาจช่วยป้องกันโรคเบาหวานได้ แต่ในผู้ที่มีระดับน้ำตาลไม่เลือดคงไม่คงที่ เมล็ดฟักทองอาจเป็นปัจจัยทำให้น้ำตาลในเลือดของคุณต่ำลงไปอีก ทางที่ดี หากคุณควรปรึกษาแพทย์ก่อนว่า สามารถรับประทานเมล็ดฟักทองได้หรือไม่
  • ไม่เหมาะกับผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตต่ำ เมล็ดฟักทองมีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์มากมายก็จริง แต่มันก็เป็นตัวการที่สามารถเข้าไปปรับระดับความดันโลหิตให้ต่ำจนเป็นอันตรายได้ หากคุณเป็นผู้ป่วยโรคความดันโลหิต ให้ปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานเมล็ดฟักทองเพื่อความปลอดภัย
  • ไม่เหมาะกับผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก เมล็ดฟักทองเป็นอาหารว่างในบางครั้งบางคราวได้ แต่ในผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก หรือควบคุมน้ำหนักจริงจัง แม้มันจะขึ้นชื่อว่าเป็น ธัญพืชที่ดีชนิดหนึ่ง เมล็ดฟักทองก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนักที่จะรับประทานได้อย่างสม่ำเสมอ

    เพราะเมล็ดฟักทองมีไขมันสูงที่อาจเพิ่มน้ำหนักที่คุณไม่ต้องการเพิ่มมากขึ้น และยังเป็นอาหารที่ต้องระวังในผู้ป่วยโรคเบาหวานด้วย

เมล็ดฟักทองมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายด้าน แต่ก็มีข้อควรระวังในหลายอย่างที่คุณต้องศึกษาให้ดีก่อนรับประทาน เพื่อที่คุณจะได้รับสารอาหารจากธัญพืชชนิดที่มีประโยชน์ชนิดนี้ได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพด้านอื่นๆ จนเป็นอันตราย

เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจตรวจภูมิแพ้ ภาวะแพ้ ตรวจก่อนแต่งจากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android


5 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
สำโรงการแพทย์, ประโยชน์ของฟักทอง (http://www.samrong-hosp.com/ความรู้คู่สุขภาพ/ประโยชน์ของฟักทอง), 10 กรกฎาคม 2556.
Cynthia Sass, 6 Health Benefits of Pumpkin Seeds (https://chicagohealthonline.com/pumpkin-seeds/), 6 November 2019.
Nithya Shrikant, 9 Strange Side Effects Of Pumpkin Seeds (https://www.stylecraze.com/articles/strange-side-effects-of-pumpkin-seeds/), 21 August 2019.

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)