การเป็นโรคหัวใจของ Drew Carey

ปัจจัยอะไรที่ทำให้ต้องเข้ารับการผ่าตัดในปี 2001
เผยแพร่ครั้งแรก 5 ต.ค. 2017 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 2 นาที
การเป็นโรคหัวใจของ Drew Carey

Drew Carey เป็นนักแสดงตลกรูปร่างอ้วนที่สร้างเสียงหัวเราะให้กับแฟน ๆ มานานหลายปี แต่ต้องเผชิญกับปัญหาโรคหัวใจที่หัวเราะไม่ออก

เมื่อวันหนึ่งในเดือนสิงหาคม 2001 เขามีอาการเจ็บหน้าอกที่ร้าวไปยังแขนและไหล่ ก่อนจะมีอาการอีกครั้งขณะถ่ายทำรายการโทรทัศน์ของเขาที่ชื่อ “The Drew Carey Show” ทำให้ทีมแพทย์ฉุกเฉินต้องรีบนำเขาสู่โรงพยาบาล St. Joseph’s Medical Center ใน Burbank รัฐแคลิฟอร์เนีย

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง

ภาวะหัวใจวายเฉียบพลันรอที่จะเกิดขึ้นอยู่เสมอ

อาการที่ Carey เป็นนั้นไม่ใช่ภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน แต่เป็นอาการที่เกิดจากการที่เส้นเลือดเลี้ยงหัวใจเส้นหนึ่งเกิดการอุดตันไปแล้ว 95% นายแพทย์ Daniel Eisenberg ผู้เชี่ยวชาญเรื่องโรคหัวใจที่ให้การรักษา Carey กล่าวว่า Drew เป็นหนึ่งในคนที่สามารถเกิดหัวใจวายเฉียบพลันได้ตลอดเวลา  Carey มักทำให้เรื่องความอ้วนของเขาเป็นเรื่องขำขัน แต่การไม่ออกกำลังกายและรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงล้วนแต่ส่งผลให้เกิดโรคเกี่ยวกับหัวใจ

นายแพทย์ Eisenberg กล่าวต่อว่า Carey จัดเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงเหมือนชาวอเมริกันทั่วไป เพราะเขามีประวัติครอบครัวที่เป็นโรคหัวใจ และพ่อของเขาเสียชีวิตจากหัวใจวายเฉียบพลันเมื่ออายุได้ 40 ปี

ในกรณีของ Carey ซึ่งมีอาการเจ็บหน้าอกอย่างรุนแรงที่เกิดจากหัวใจได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ การรักษาที่ควรทำคือการขยายหลอดเลือด (angioplasty) โดยเป็นการใช้บอลลูนเข่าไปถ่างขยายเส้นเลือดที่ตีบ ก่อนจะใส่ขดลวดเข้าไปในเส้นเลือดเพื่อคงให้ถ่างขยายไว้หลังจากการขยายหลอดเลือด  ในผู้ป่วยบางคนอาจมีการใช้ยาเพื่อช่วยลดระดับ cholesterol ร่วมด้วย

การผ่าตัดของ Carey

โชคดีที่การผ่าตัดของ Carey ประสบผลสำเร็จ และเขาสามารถกลับมาทำงานได้ในไม่กี่สัปดาห์ต่อมา ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างใด Dick Cheney ซึ่งเข้ารับการผ่าตัดเดียวกันนี้ในเดือนมีนาคม 2001 สามารถกลับมาทำงานในตำแหน่งรองประธานาธิบดีได้ทันทีในวันรุ่งขึ้น  ภายหลังจากการผ่าตัด Carey ได้เริ่มปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิต เขาเริ่มออกกำลังกายสม่ำเสมอ และเปลี่ยนมารับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำ เช่น ข้าวกล้อง ผัก และเปลี่ยนเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมาเป็นน้ำเปล่า  เขาได้กล่าวว่า “เขายังคงสามารถกินชีสเบอร์เกอร์ได้หากต้องการ แต่แค่ไม่สามารถรับประทานได้ทุกวัน”

ลดน้ำหนักอย่างต่อเนื่อง

Carey สามารถลดน้ำหนักไปได้ 40 ปอนด์หลังจากการผ่าตัด แต่ก็ยังคงมีปัญหากับเรื่องน้ำหนัก เขาตัดสินใจที่จะหยุดลดน้ำหนักในเดือนมกราคม 2010 เมื่อมีน้ำหนัก 262 ปอนด์ หลังจากนั้นระหว่างเดือนมกราคมถึงกรกฎาคม เขายังสามารถลดน้ำหนักไปได้อีก 80 ปอนด์ ทำให้สามารถหยุดยาเบาหวานได้ และยังคงพยายามลดน้ำหนักเรื่อย ๆ ซึ่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาล


2 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Cardiovascular disease risk profiles. National Center for Biotechnology Information. (https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/1985385)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)