ถ้าคุณกำลังเป็นหูดข้าวสุก แพทย์สามารถกำจัดรอยโรคที่ผิวหนังได้โดยการจี้เย็น การขูดรอยโรค หรือการใส่เลเซอร์ในการกำจัด แพทย์อาจสั่งจ่ายยาทาชนิดครีมให้คุณกลับมาทารอยโรคที่บ้านก็ได้
แอบให้ดูก่อนใคร! ดีลสุขภาพและความงาม ลดสูงสุด 50%
เริ่มซื้อจริง 24 กุมภานี้ จำกัดแค่ดีลละ 20 ดีล รีบมาจองก่อน คลิก

การรักษาหูดข้าวสุกจะคล้ายกับการรักษาหูด โรคหูดข้าวสุกมักหายได้เองเมื่อเวลาผ่านไป ดังนั้นผู้ป่วยบางรายอาจตัดสินใจไม่รักษาและไม่กำจัดรอยโรคก็ได้ แต่ถ้าคุณไม่ทำการรักษาจะใช้เวลานาน 6 ถึง 12 เดือน กว่าที่โรคจะหายไปเอง ซึ่งระหว่างช่วงเวลานี้คุณยังสามารถแพร่เชื้อหูดข้าวสุกให้คนอื่นได้
เมื่อรอยโรคหูดข้าวสุกหายไปจากร่างกายจนหมด นั่นหมายถึงเชื้อไวรัสหูดข้าวสุกก็ถูกกำจัดจากร่างกายไปจนหมดด้วย และจะไม่กลับมาเป็นซ้ำอีก แต่อย่างไรก็ตามหากคุณได้รับเชื้อนี้จากคนอื่นอีก ก็จะทำให้เกิดหูดข้าวสุกซ้ำได้อีก
ควรปฏิบัติตนอย่างไรหลังรักษาหูดข้าวสุก
ถ้าคุณเข้ารับการรักษาหูดข้าวสุกด้วยยาทา หรือกำจัดรอยโรคด้วยแพทย์ สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องดูแลสุขภาพผิวหนังเป็นอย่างดี
- รักษาความสะอาดที่บริเวณรอยโรค หลังอาบน้ำให้ใช้ผ้าเช็ดตัวคนละผืนสำหรับเช็ดที่บริเวณอื่นของร่างกาย
- ไม่เกาบริเวณที่ทำการรักษา
- ล้างมือหลังสัมผัสกับรอยโรคที่ทำการรักษา
- ถ้ายังรู้สึกไม่สบายดี ให้งดการมีเพศสัมพันธ์
แผ่นเจลความเย็น และการรับประทานยาแก้ปวด เช่น แอสไพริน (aspirin), ibuprofen-nsaid' target='_blank'>ไอบูโพรเฟน (ibuprofen) หรือพาราเซตามอล (paracetamol) จะช่วยบรรเทาอาการปวด ได้