กองบรรณาธิการ HD
เขียนโดย
กองบรรณาธิการ HD

การทานอาหารแบบ Ketogenic ต่างกับ Paleo และแบบ Atkins อย่างไรบ้าง

เผยแพร่ครั้งแรก 17 ม.ค. 2018 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 3 นาที
การทานอาหารแบบ Ketogenic ต่างกับ Paleo และแบบ Atkins อย่างไรบ้าง

การทานอาหารแบบ Ketogenic ต่างกับ Paleo และแบบ Atkins อย่างไรบ้าง

การดูแลรูปร่างด้วยการลดสัดส่วนเพื่อให้หุ่นฟิตแอนด์เฟิร์มนั้นสามารถทำได้หลายวิธี การทานอาหารแบบ Ketogenic คือทางเลือกหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยม เพราะเป็นการลดน้ำหนักโดยไม่ต้องอดอาหาร เพียงแค่ทานอาหารประเภทแป้งและน้ำตาลที่จัดอยู่ในหมู่คาร์โบไฮเดรตให้น้อยที่สุด นอกจากนั้นการทานอาหารแบบ Paleo และแบบ Atkins ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของคนที่ต้องการลดน้ำหนัก

การทานอาหารแบบ Paleo คืออะไร

การทานอาหารแบบ Paleo ก็คือการทานอาหารที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งหมายถึงมีการปรุงแต่งน้อยที่สุด เน้นการทานพืชผักผลไม้และเนื้อสัตว์ที่เลี้ยงด้วยวิธีธรรมชาติ ปราศจากสารเร่งการเจริญเติบโต เป็นพืชผักจากการทำเกษตรอินทรีย์หรือผลิตภัณฑ์ออแกนิค ส่วนไขมันก็จะเป็นไขมันดีที่ได้จากเมล็ดพืชหรือธัญพืช

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ขนมปัง "ไร้แป้ง ไร้น้ำตาล อิ่มนาน ไปรตีนสูง" อยากคุมน้ำหนัก แบบไม่อด ต้องลอง พร้อมโปร 5 ฟรี 1

ซื้อผ่าน HD ประหยัดกว่า / ราคาพิเศษสำหรับ นศ. / ผ่อน 0% / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

ข้อดีของการลดน้ำหนักแบบ Paleo

  1. การทานอาหารแบบ Paleo เป็นการลดน้ำหนักที่ไม่ต้องอดอาหารหรือไม่ต้องควบคุมปริมาณแคลอรี เพราะการควบคุมแคลอรีในแต่ละมื้อหรือแต่ละวันเป็นเรื่องที่ทำได้ยากอยู่แล้ว
  2. ไม่ต้องทนหิว เพราะสามารถทานอาหารได้ตามที่ร่างกายต้องการ
  3. การทานอาหารที่เป็นธรรมชาติและมีการปรุงแต่งน้อย จะช่วยให้ระบบเผาผลาญพลังงานทำงานได้ดีขึ้น
  4. ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานดีขึ้น
  5. ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ ไม่สูงหรือต่ำเกินไป
  6. สร้างความสมดุลของพลังงานภายในร่างกายของเราตลอดวัน
  7. ทำให้ฟัน กระดูก และเซลล์ผิวหนังแข็งแรง
  8. ช่วยให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น และยังควบคุมหรือลดน้ำหนักได้อย่างเห็นผล

ข้อควรระวังในการลดน้ำหนักแบบ Paleo

แม้ว่าการลดน้ำหนักด้วยการทานอาหารแบบ Paleo จะส่งผลดีต่อสุขภาพ แต่ในสิ่งที่ดีก็ย่อมมีข้อด้อย เพราะการงดเว้นหรือหลีกเลี่ยงอาหารบางอย่างอาจทำให้ร่างกายขาดสารอาหารได้ ส่วนการทานอาหารบางชนิดโดยไม่มีการควบคุมปริมาณ อย่างเช่นปลาหมึกหรือหอยนางรม ซึ่งเป็นอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง ก็อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้เช่นกัน ดังนั้นประเด็นสำคัญของการลดน้ำหนักแบบ Paleo จึงจำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับอาหารทดแทน และเลือกทานอาหารในปริมาณที่พอเหมาะ ก็จะสามารถลดน้ำหนักได้อย่างเห็นผลและมีสุขภาพที่ดีด้วย

อาหารที่ต้องหลีกเลี่ยงเมื่อลดน้ำหนักแบบ Paleo

  1. น้ำตาลและสารให้ความหวานแทนน้ำตาล
  2. อาหารหรือผลิตภัณฑ์แปรรูป หรืออาหารกึ่งสำเร็จรูป
  3. ไม่ทานผลิตภัณฑ์ใดๆ ที่มีส่วนผสมของนมวัว และผลิตภัณฑ์จากนม
  4. เครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์

การทานอาหารแบบ Paleo คือการทานอาหารที่มีการปรุงแต่งน้อยที่สุด เป็นอาหารที่ได้จากพืชผักและเนื้อสัตว์ที่ปลูกหรือเลี้ยงด้วยวิธีธรรมชาติ รวมถึงผลิตภัณฑ์ประเภทออแกนิคด้วย การทานอาหารประเภทนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก และสามารถลดน้ำหนักลงได้อย่างเห็นผล แต่การทานอาหารแบบ Paleo ก็มีทั้งข้อดีและข้อควรระวัง ก่อนลดน้ำหนักด้วยวิธีนี้จึงต้องศึกษาทั้งข้อดีข้อด้อยและอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงอย่างเข้าใจ

การทานอาหารแบบ Atkins คืออะไร

การทานอาหารแบบ Atkins หมายถึง วิธีจำกัดการทานอาหารพวกแป้งและน้ำตาล โดยการทานอาหารจำพวกโปรตีนและไขมันทดแทน ถือเป็นหนึ่งในสูตรอาหารสำหรับการควบคุมน้ำหนัก เพราะตามหลักการเชื่อว่าแป้งและน้ำตาลเป็นสาเหตุทำให้ร่างกายของคนเราต้องการอาหาร หากลดน้ำตาลลงได้ร่างกายก็จะลดปริมาณความต้องการอาหารลง และสามารถลดน้ำหนักลงได้ในที่สุด

ข้อดีของการลดน้ำหนักแบบ Atkins

  1. การลดน้ำหนักแบบ Atkins คือสูตรลดน้ำหนักที่มีถึง 4 ระยะ ทำให้ลดน้ำหนักอย่างเป็นระบบ และเมื่อร่างกายเกิดความเคยชินจนสามารถลดน้ำหนักได้แล้ว ยังช่วยให้ไม่กลับมาอ้วนอีก
  2. ไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ เพราะไม่ทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย เนื่องจากไม่ได้มีการอดอาหาร
  3. ไม่ต้องทนหิว เพราะสามารถทานเนื้อสัตว์และไขมันทดแทนพลังงานที่ได้จากคาร์โบไฮเดรต ทำให้รู้สึกอิ่มโดยไม่ต้องทนหิว
  4. ลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็ว เพราะจำกัดปริมาณอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญทำให้เกิดโรคอ้วน

ข้อควรระวังในการลดน้ำหนักแบบ Atkins

การทานอาหารแบบ Atkins แม้จะเป็นวิธีลดความอ้วนที่ได้ผลอย่างรวดเร็ว แต่ก็อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวได้

  1. เสียงต่อการเป็นโรคหัวใจ เนื่องจากร่างกายได้รับไขมันในปริมาณที่สูง เพื่อไปทดแทนคาร์โบไฮเดรต ทำให้เกิดการอุดตันที่เส้นเลือดได้ เพราะผนังหลอดเลือดแดงจะหนาขึ้น
  2. เสี่ยงต่อการเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตที่เกิดจากหลอดเลือดสมองเกิดการตีบตันหรือแตก
  3. มีปัญหาต่อบุคลิกภาพ เช่น ทำให้เกิดกลิ่นปากเพราะการกินอาหารที่มีไขมันสูงร่างกายจะผลิตโมเลกุลที่เรียกว่า ketones ขึ้นมาและขับออกทางปัสสาวะและลมหายใจ

การทานอาหารแบบ Atkins ก็คือการลดน้ำหนัก ด้วยวิธีจำกัดการทานอาหารประเภทแป้งและน้ำตาล โดยทานโปรตีนและไขมันทดแทนตามสูตรที่แบ่งออกเป็น 4 ระยะ ทำให้การลดน้ำหนักเห็นผลได้อย่างรวดเร็ว

การทานอาหารแบบ Ketogenic ต่างกับ Paleo และแบบ Atkins อย่างไรบ้าง

สำหรับการทานอาหารทั้ง 3 รูปแบบ คือการทานอาหารเพื่อลดน้ำหนักเช่นเดียวกัน แต่แตกต่างกันที่วิธีการและรูปแบบ การทานอาหารแบบ Ketogenic จะเน้นเป็นการลดน้ำหนักโดยไม่ต้องอดอาหาร เพียงทานอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตให้น้อยที่สุด และการทานอาหารแบบ Paleo คือการทานอาหารแบบธรรมชาติไม่ปรุงแต่งหรือมีการปรุงแต่งรสชาติน้อยที่สุด เน้นพืชผักออแกนิค หากเป็นเนื้อสัตว์ก็ต้องเลี้ยงด้วยวิธีธรรมชาติไม่เร่งการเจริญเติบโต ส่วนการทานอาหารแบบ Atkins คือสูตรการทานอาหารเพื่อจำกัดการทานแป้งและน้ำตาลเพราะแป้งและน้ำตาลเป็นสาเหตุทำให้เป็นโรคอ้วน โดยเน้นทานอาหารจำพวกโปรตีนและไขมันทดแทน

วิธีลดน้ำหนักด้วยการทานอาหารทั้ง 3 รูปแบบ แม้จะมีข้อดีที่สามารถลดน้ำหนักลงได้อย่างเห็นผล แต่ก็มีข้อควรระวังที่แตกต่างกัน หากการลดน้ำหนักทั้ง 3 วิธีไม่ได้อยู่ในการดูแลของแพทย์ จำเป็นที่จะต้องเรียนรู้และศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนเริ่มลดน้ำหนัก เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวเรานั่นเอง


3 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
10 Low-Carb Diets: Keto, Low-Carb Paleo, Atkins, and More. Everyday Health. (https://www.everydayhealth.com/diet-nutrition/diet/low-carb-diets-keto-low-carb-paleo-atkins-more/)
Keto, Paleo, or Atkins: Which Low-Carb Diet Is Best for Diabetes?. Everyday Health. (https://www.everydayhealth.com/type-2-diabetes/diet/keto-paleo-atkins-which-low-carb-diet-best-diabetes/)
Atkins vs. Keto: What’s the Difference?. Healthline. (https://www.healthline.com/nutrition/atkins-vs-keto)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป