การฝึกแบบเว้นช่วง - ค้นหาทุกอย่างที่คุณควรรู้เกี่ยวกับการฝึกแบบเว้นช่วง

เผยแพร่ครั้งแรก 21 ก.ค. 2017 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 3 นาที
การฝึกแบบเว้นช่วง - ค้นหาทุกอย่างที่คุณควรรู้เกี่ยวกับการฝึกแบบเว้นช่วง

การฝึกแบบเว้นช่วงเป็นหนึ่งในรูปแบบการออกกำลังกายที่มาแรงในหลายปีที่ผ่านมา เมื่อผู้เชี่ยวชาญค้นพบว่ามันเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและเพียงพอในการออกกำลังกาย มันเป็นวิธีที่ดีมากในการเผาผลาญไขมันส่วนเกิน สร้างความแข็งแรงได้อย่างรวดเร็ว และทำให้การออกกำลังกายนั้นเป็นเรื่องที่น่าสนใจเนื่องจากคุณจะได้ออกกำลังกายที่ต้องใช้พลังงานอย่างมากสลับกับมีช่วงเวลาพักผ่อน 

ข้อดีของการออกกำลังกายแบบเว้นช่วง 

การออกกำลังกายแบบเว้นช่วงนั้นมีแนวโน้มที่จะเป็นวิธีการฝึกฝนที่มีประสิทธิภาพมากกว่าการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอสม่ำเสมอ 

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
คอร์สลดน้ำหนักออกกำลังกาย วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 441 บาท ลดสูงสุด 59%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

การออกกำลังกายในระดับที่มากเกินไปแม้ว่าจะเป็นเวลาเพียงแค่ 30-60 วินาทีนั้นก็ทำให้ร่างกายของคุณเข้าสู่การเผาผลาญพลังงาน ดังนั้นคุณจะสามารถลดเวลาออกกำลังกายแต่กลับได้ประโยชน์มากขึ้น 

ข้อดีของการฝึกแบบนี้ ได้แก่

  • เผาผลาญพลังงานได้มากกว่า – ยิ่งคุณออกกำลังกายหนักขึ้นเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งเผาผลาญพลังงานได้มากขึ้นเท่านั้น ซึ่งเป็นข้อดีหากเป้าหมายของคุณคือการลดน้ำหนัก
  • เพิ่มความแข็งแรงได้เร็วขึ้น – การออกกำลังกายในระดับที่หนักกว่าแม้จะเป็นเวลาสั้น ๆ ก็สามารถเพิ่มความแข็งแรงให้กับคุณได้ คุณจะรู้สึกว่าการออกกำลังกายรูปแบบอื่นนั้นง่ายขึ้นหลังจากออกกำลังกายแบบนี้
  • เพิ่มการเผาผลาญหลังจากการออกกำลังกาย – ร่างกายคุณจะสามารถเผาผลาญพลังงานได้เพิ่มเติมในช่วงเวลาหนึ่งหลังจากการออกกำลังกาย ก่อนที่จะกลับสู่ระดับปกติ
  • เพิ่มความหลากหลายให้กับการออกกำลังกาย – หากคุณมักออกกำลังกายรูปแบบเดิม ๆ ตลอดเวลาแล้ว การออกกำลังกายแบบเว้นช่วงนี้จะช่วยเปลี่ยนบรรยากาศให้กับรูปแบบการออกกำลังของคุณ เพราะการออกกำลังกายรูปแบบนี้มีหลากหลายและคุณก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ทุกสัปดาห์หากต้องการ
  • คุ้มกับเวลาที่ใช้มากกว่า - ยิ่งคุณออกกำลังกายหนักขึ้นเท่าไหร่ คุณก็จะใช้เวลาในการออกกำลังกายน้อยลงเท่านั้น ดังนั้นคุณอาจจะใช้เวลาเพียง 20-30 นาทีในการออกกำลังกายแบบนี้ซึ่งเทียบเท่ากับการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอได้เป็นอย่างดี ทำให้คุณเหลือเวลามากขึ้นสำหรับสิ่งอื่นในชีวิตของคุณ

ประเภทของการออกกำลังกายแบบเว้นช่วง 

ช้อดีของการออกกำลังกายแบบเว้นช่วงนั้นคือ คุณสามารถเลือกรูปแบบการออกกำลังกายได้หลากหลายซึ่งจะให้ผลที่แตกต่างกัน 

ตัวอย่างเช่น 

  • การวัดช่วงเวลาทำงาน – ทางเลือกหนึ่งนั้นก็คือการวัดช่วงเวลาทำงาน ตามด้วยการวัดช่วงเวลาพัก ตัวอย่างเช่น การออกกำลังกายอย่างหนัก 1 นาที (เช่น การวิ่งเร็ว) ตามด้วยการออกกำลังกายแบบเบา 2 นาที (เช่น การเดิน) และสลับกันไปจนครบ 15-30 นาที
  • เพิ่มสัดส่วนในการออกกำลังกายต่อการพัก – ทางเลือกนี้จะทำให้คุณออกกำลังกายนานกว่าเวลาพัก เช่น ออกกำลังกาย 30 วินาทีตามด้วยการพัก 1นาที นี่เป็นทางเลือกที่ดีหากคุณเพิ่งเริ่มต้นหรือต้องการออกกำลังกายทีละช่วงสั้น ๆ
  • ลดสัดส่วนในการออกกำลังกายต่อการพัก – รูปแบบนี้จะเป็นการลดช่วงเวลาพักและเพิ่มเวลาออกกำลังกาย เหมาะกับผู้ที่ออกกำลังกายขั้นสูงหรือหากต้องการเผาผลาญพลังงานและสร้างความแข็งแรงมากขึ้น
  • ช่วงเวลาเผาผลาญแบบไม่ใช้ออกซิเจน – อีกทางเลือกหนึ่งคือการออกแบบช่วงเวลาต่าง ๆ ตามระดับความหนักของการออกกำลังกาย โดยการออกกำลังกายแบบที่เกิดการเผาผลาญโดยไม่ใช้ออกซิเจนนั้นเป็นช่วงที่หนักที่สุด หมายถึงช่วงที่คุณออกกำลังกายหนักมากจนกระทั่งไม่สามารถใช้ออกซิเจนได้ นี่อาจเทียบเท่ากับการออกกำลังกายระดับ 9 ในตาราง Perceived Exertion Chart การออกกำลังกายแบบนี้ไม่เหมาะกับผู้เริ่มต้น แต่ดีมากสำหรับผู้ที่เชี่ยวชาญและต้องการการออกกำลังกายที่หนักมากขึ้น
  • ช่วงเวลาเผาผลาญแบบใช้ออกซิเจน - เป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับข้อที่แล้ว มันเป็นการทำให้คุณออกกำลังกายอยู่ในระดับปานกลาง คุณสามารถออกกำลังกายแบบนี้ได้ในเวลาที่นานขึ้น จึงเป็นสิ่งที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่ยังไม่พร้อมกับการออกกำลังกายหนัก
  • ออกกำลังกายโดยไม่จับเวลา – คุณสามารถออกกำลังกายโดยไม่จับเวลา ตัวอย่างเช่น หากคุณอยู่ข้างนอก คุณอาจวิ่งหรือเดินเร็วในระยะทางหนึ่งก่อนที่จะวิ่งช้าลงเพื่อพักและกลับไปวิ่งเร็วอีกครั้งเมื่อคุณรู้สึกพร้อม นี่ทำให้คุณสามารถควบคุมความหนักและระยะเวลาในการออกกำลังกายได้

ข้อควรระวัง 

ควรระลึกไว้ว่าหากคุณออกกำลังกายในระดับที่หนัก คุณอาจจะใช้การออกกำลังกายรูปแบบนี้ได้เพียง 2-3 วันที่ไม่ติดต่อกันในแต่ละสัปดาห์ ร่างกายของคุณต้องการการพักผ่อนหลังจากออกกำลังกายอย่างหนัก  ดังนั้น อย่าให้การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพย้อนกลับมาทำร้ายตัวคุณเอง 

ในความจริงแล้วมันเป็นความคิดที่ดีในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการออกกำลังกายไปในแต่ละสัปดาห์ ตัวอย่างเช่น คุณอาจเริ่มต้นสัปดาห์ด้วยการออกกำลังกายแบบเว้นช่วงในระดับหนักก่อนที่จะเลือกออกกำลังกายระดับกลางในวันต่อไป การออกกำลังกายแบบหนักของคุณควรจะสั้นกว่าการออกกำลังกายแบบปานกลาง


3 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป
6 วิธีเดินเผาผลาญพลังงาน
6 วิธีเดินเผาผลาญพลังงาน

ใช้เทคนิคต่อไปนี้มาช่วยเผาผลาญพลังงานระหว่างการเดินกันเถอะ

อ่านเพิ่ม
เครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจเกี่ยวข้องกับอัตราการเต้นของหัวใจขณะออกกำลังกายอย่างไร?
เครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจเกี่ยวข้องกับอัตราการเต้นของหัวใจขณะออกกำลังกายอย่างไร?

ทำความรู้จักเครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจ หรือเครื่องวัดชีพจร และอัตราการเต้นของหัวใจในการออกกำลังกายแต่ละโซน

อ่านเพิ่ม
วิธีการวัดและพัฒนาสมรรถภาพของหัวใจและปอด
วิธีการวัดและพัฒนาสมรรถภาพของหัวใจและปอด

ความทนแทนแบบแอโรบิกของคุณคืออะไร

อ่านเพิ่ม