ความสำคัญของการเดิน รู้แล้วลุกขึ้นมาเดินโดยด่วน

เผยแพร่ครั้งแรก 28 มี.ค. 2017 อัปเดตล่าสุด 11 ก.พ. 2020 เวลาอ่านประมาณ 2 นาที

การเดิน เป็นกิจกรรมทางกายง่ายๆ ที่ให้อะไรมากกว่าที่คิด โดยเฉพาะในด้านสุขภาพ ถือว่าเป็นยาขนานเอกสำหรับร่างกายที่หลายคนอาจจะมองข้ามไป การเดิน เป็นกิจกรรมทางกายประเภทหนักปานกลาง ทำให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพหลายอย่าง เช่น มีสุขภาพจิตดี ลดความวิตกกังวล และลดอาการซึมเศร้าได้ อีกทั้งยังช่วยลดน้ำหนักตัวได้โดยเพิ่มการเผาผลาญน้ำตาล ลดระดับไขมันในเลือด และลดความดันโลหิต อีกทั้งยังช่วยลดภาวะกระดูกบางหรือผุกร่อนได้

เหตุผลที่ควรจะลุกขึ้นมาเดิน

  1. สามารถทำได้ด้วยตัวเอง
  2. ทำร่างกายแข็งแรงได้ โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์
  3. มีสุขภาพดี แบบไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม
  4. ใช้แรงไม่มาก แต่ได้การเผาผลาญที่ดี
  5. จะได้สามแข็ง คือ ร่างกายแข็งแรง กระดูกแข็งแรง และมีกล้ามเนื้อแข็งแรง
  6. สะดวกปลอดภัยไร้กังวล
  7. จะมีสามดี คือ ควบคุมน้ำหนักได้ดี หุ่นดี และผิวพรรณที่ดี
  8. สามารถลดความเครียดได้ อีกทั้งยังช่วยเสริมอารมณ์ให้เบิกบาน
  9. สามารถทำได้ทุกที่ และทุกเวลาไม่กะเกณฑ์

เราควรเริ่มเดินอย่างไรดี

ควรเดินแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยเริ่มจากเดินช้าๆ ประมาณ 3-5 นาที และเมื่อรู้สึกชิน ก็ค่อยเพิ่มความเร็วในระดับที่พอรู้สึกว่าเหนื่อย แล้วเดินอีก 25-30 นาที จากนั้นชะลอความเร็วลงในช่วงท้าย แล้วเดินอีก 3-5 นาที จึงหยุด หากรู้สึกเหนื่อยหอบ ควรชะลอความเร็วในการเดินลง ถ้าหากมีอาการเป็นมากให้หาที่นั่งพักก่อน

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง

การเดินอย่างถูกวิธี

  1. ขณะเดินตาต้องมองตรงไปข้างหน้า ศีรษะและลำตัวต้องตั้งตรง ไหล่ทั้งสองข้างควรอยู่ในระดับตรง
  2. ให้แกว่งแขนซ้ายขวาสลับหน้าหลังขนานลำตัว มือทั้งสองข้างควรกำหลวมๆ โดยให้มือแกว่งอยู่ในระดับอก ในลักษณะที่ผ่อนคลาย งอศอกเล็กน้อย ทำมุมประมาณ 90 องศา ระหว่างแขนท่อนบนกับแขนท่อนล่าง
  3. จังหวะการเดินควรก้าวเท้าอย่างสม่ำเสมอ
  4. เวลาเดิน ควรก้าวเท้าออกไปประมาณครึ่งก้าวโดยให้ส้นเท้าแตะพื้น แล้วถ่ายน้ำหนักไปที่ฝ่าเท้า สำหรับขาอีกข้างให้ยกส้นเท้าแล้วถ่ายน้ำหนักตัวลงที่ปลายเท้า ซึ่งการเดินเช่นนี้จะช่วยบริหารกล้ามเนื้อหน้าแข้งและ เป็นการเดินเพื่อสุขภาพที่ถูกต้อง อีกทั้งยังส่งเสริมบุคลิกภาพอีกด้วย
  5. ความยาวของช่วงก้าวจะขึ้นอยู่กับการเดิน แต่ที่สำคัญไม่ควรก้าวยาวมากเกินไป เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อต้นขาและสะโพกรู้สึกเมื่อยล้าได้
  6. ในการเดินขึ้นเนินควรเดินช้าลง และควรเอนตัวไปด้านหน้าเล็กน้อย เมื่อเดินลงเนินให้พยายามควบคุมความเร็วด้วยก้าวสั้นๆ และวางเท้าให้เบากว่าเดิม

ควรเดินที่ไหน และเดินมากแค่ไหนจึงจะพอ

  • ไม่ควรเดินในจุดที่ใกล้กับถนน เพราะจะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ สำหรับสถานที่เดินควรจะมีอากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่ร้อนอบอ้าวจนเกินไป เพราะร่างกายจะเกิดอาการอ่อนเพลีย อีกทั้งไม่เดินในที่สูง ลาดชัน หรือลื่น จะทำให้เสี่ยงต่อการหกล้มหรือได้รับอันตรายได้
  • โดยปกติคนเราควรเดินให้ได้ในระยะ 2.5-3.5 กิโลเมตรต่อวัน วันละ 10,000 ก้าว แต่ถ้าหากรู้สึกว่าการนับก้าวยากเกินไปก็ควรเดินนาน 30 นาที
  • เดินเพื่อออกกำลังกายจาก 3 วันต่อสัปดาห์ และเพิ่มไปถึง 5-6 วัน

แม้การเดิน จะเป็นวิธีการออกกำลังที่ปลอดภัยและดีที่สุด แต่การระมัดระวังเพื่อลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุและลดการบาดเจ็บเป็นเรื่องสำคัญ จึงควรใส่ใจกับสัญญาณเตือนของร่างกายที่เกิดขึ้นหากออกกำลังหนักเกินไป และควรรีบปรึกษาแพทย์หากเกิดปัญหาสุขภาพ
เมื่อรู้แบบนี้แล้ว ลองก้าวเท้าเดินหรือชวนเพื่อน หรือคนในครอบครัวมาเดินด้วยกัน ก็ยิ่งจะทำให้การเดินไม่น่าเบื่อ และสุขภาพแข็งแรงไปด้วยกัน


5 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
11 Tricks for Waking Up Early in the Morning. Everyday Health. (https://www.everydayhealth.com/sleep-pictures/tricks-to-waking-up-in-the-morning.aspx)
Should My Blood Pressure Be 120/80 Even After Exercise?. Verywell Health. (https://www.verywellhealth.com/should-my-blood-pressure-be-12080-even-after-exercise-1764088)
Overview of Recovery After C-Section. Verywell Family. (https://www.verywellfamily.com/c-section-recovery-2752642)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป
พอกันทีกับการซิทอัพ ถึงเวลาเล่นโยคะและพีลาทีสเพื่อกล้ามเนื้อหน้าท้อง
พอกันทีกับการซิทอัพ ถึงเวลาเล่นโยคะและพีลาทีสเพื่อกล้ามเนื้อหน้าท้อง

หลากหลายวิธีเพื่อช่วยสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อหน้าท้อง

อ่านเพิ่ม
6 วิธีเดินเผาผลาญพลังงาน
6 วิธีเดินเผาผลาญพลังงาน

ใช้เทคนิคต่อไปนี้มาช่วยเผาผลาญพลังงานระหว่างการเดินกันเถอะ

อ่านเพิ่ม