“ไอบูโปรเฟน” ไม่ใช่ “พาราเซตามอลเม็ดสีชมพู”

เผยแพร่ครั้งแรก 31 ธ.ค. 2017 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 5 นาที
“ไอบูโปรเฟน” ไม่ใช่ “พาราเซตามอลเม็ดสีชมพู”

ดิฉันเข้าใจนะคะว่าชื่อยาซึ่งไม่ใช่ภาษาบ้านเรามันก็จำยากจริง ๆ น่ะแหละ โดยเฉพาะถ้าไม่ได้เรียกหาจนคุ้นปากหรือชินหู คงอารมณ์ประมาณดิฉันที่จำชื่อดารานักร้องเกาหลีไม่ได้เหมือนกัน 

แต่การ “จำชื่อยาไม่ได้” ไม่อันตรายเท่า “จำชื่อยาผิด” นะคะ

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

ความแตกต่างระหว่างไอบูโปรเฟนและพาราเซตามอล

ไอบูโปรเฟน (Ibuprofen) ใช้สำหรับแก้ปวด ลดไข้ โดยกินครั้งละ 5-10 มิลลิกรัม ต่อครั้ง วันละไม่เกิน 1,200 มิลลิกรัมในผู้ใหญ่

พาราเซตามอล (Paracetamol) ใช้สำหรับแก้ปวด ลดไข้ โดยกินครั้งละ 10-15 มิลลิกรัม ต่อครั้ง วันละไม่เกิน 3,000 มิลลิกรัมในผู้ใหญ่

กรณีที่ใช้เองโดยไม่มีคำสั่งแพทย์ 

ดังนั้น ผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนักประมาณ 50 กิโลกรัม จะรับประทานยาไอบูโปรเฟนในขนาด 400 มิลลิกรัม ครั้งละ 1 เม็ด ได้ไม่เกินวันละ 3 เม็ด ในขณะที่รับประทานยาพาราเซตามอลขนาด 500 มิลลิกรัม ครั้งละ 1 เม็ด ได้ไม่เกินวันละ 6 เม็ด

หากผู้ใช้ยาเข้าใจผิดว่าไอบูโปรเฟนเป็นยา “พาราเซตามอลเม็ดสีชมพู” อาจรับประทานยาในขนาดของพาราเซตามอล ซึ่งมากกว่าขนาดที่แนะนำให้ใช้ของไอบูโปรเฟน แล้วเกิดอันตรายจากผลข้างเคียงจากยาได้มากขึ้นค่ะ  

หากจำผิดอาจรับประทานผิดเวลา

ผลข้างเคียงเด่น ๆ ของไอบูโปรเฟนคือการระคายเคืองกระเพาะอาหาร จึงควรรับประทานพร้อมอาหารหรือหลังอาหารทันที และดื่มน้ำตามมาก ๆ

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

ในขณะที่พาราเซตามอลไม่ระคายเคืองกระเพาะอาหาร จึงสามารถรับประทานเวลาไหนก็ได้ที่มีอาการปวดหรือมีไข้ ไม่จำเป็นต้องเป็นเวลาก่อนหรือหลังอาหาร และรับประทานซ้ำได้ทุก 4-6 ชั่วโมงหากยังมีอาการอยู่

 หากผู้ใช้ยาเข้าใจผิดว่าไอบูโปรเฟนเป็นยา “พาราเซตามอลเม็ดสีชมพู” อาจนำไปรับประทานตอนท้องว่าง ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดแผลในกระเพาะอาหารตามมาค่ะ

อาจเกิดอันตรายจากการใช้ไม่เหมาะกับสภาวะหรือโรคประจำตัวที่มีอยู่

    ด้วยข้อจำกัดบางอย่างอาจทำให้เกิดอันตรายจากการใช้ยาไอบูโปรเฟนและพาราเซตามอล แม้บางกรณีแพทย์จะให้ใช้ยาได้ แต่ต้องมีการปรับขนาดยา และ/หรือ ความถี่ในการใช้ รวมถึงเฝ้าระวังผลอันไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้น ดังนั้น ผู้ที่มีสภาวะหรือโรคประจำตัวดังต่อไปนี้ จึงไม่ควรหาซื้อไอบูโปรเฟนหรือพาราเซตามอลมาใช้เอง

ไอบูโปรเฟน (Ibuprofen)

สภาวะหรือโรคประจำตัวที่ไม่ควร หรือต้องระวังการใช้ไอบูโปรเฟน มีดังต่อไปนี้

  • แพ้ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs)
  • ผู้ป่วยไตวาย
  • ผู้ป่วยโรคตับ (ตับอักเสบ, ตับแข็ง)
  • ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
  • ผู้ป่วยหัวใจล้มเหลวเรื้อรัง
  • ผู้ป่วยไข้เลือดออก
  • ใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด
  • ก่อนผ่าตัดหรือหลังผ่าตัด
  • มีแผล/เลือดออกในทางเดินอาหาร
  • ผู้ป่วยความดันโลหิตสูง
  • ผู้ป่วยหอบหืด
  • ตั้งครรภ์ (สามเดือนสุดท้าย)
  • ผู้สูงอายุ

พาราเซตามอล (Paracetamol)

สภาวะหรือโรคประจำตัวที่ไม่ควร หรือต้องระวังการใช้พาราเซตามอล มีดังต่อไปนี้

  • แพ้ยาพาราเซตามอล
  • ผู้ป่วยไตวาย
  • ผู้ป่วยโรคตับ (ตับอักเสบ, ตับแข็ง)
  • ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ

 จะเห็นได้ว่าไอบูโปรเฟนมีข้อจำกัดการใช้มากกว่า หากผู้ที่มีสภาวะหรือโรคประจำตัวที่ต้องหลีกเลี่ยงการใช้ มีความเข้าใจผิด ๆ ว่าไอบูโปรเฟนเป็นยา “พาราเซตามอลเม็ดสีชมพู” ก็อาจนำไปรับประทานและเกิดอันตรายได้นั่นเอง 

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

หากเคยมีประวัติแพ้ยา อาจเกิดการแพ้ยาซ้ำได้อีก

ยาส่วนใหญ่ มักจะมีผู้ผลิตหลายแห่ง ทำให้มีรูปแบบ รูปร่าง ขนาด และสีสันที่แตกต่างกันไป นี่เป็นตัวอย่างส่วนหนึ่งของเม็ดยาไอบูโปรเฟนที่มีจำหน่ายในประเทศไทยนะคะ

 
 
 

(รูปภาพจาก http://www.mims.com) 

 หากเคยแพ้ยาตัวหนึ่งตัวใดแล้ว เมื่อมีการใช้ซ้ำ แม้จะต่างยี่ห้อ ต่างรูปแบบ ต่างรูปร่าง ต่างขนาด หรือต่างสี ก็จะทำให้เกิดการแพ้ได้อีกเช่นกันค่ะ

ยกตัวอย่างผู้ที่เคยแพ้ยาไอบูโปรเฟนที่เป็นเม็ดยาวสีเหลืองนะคะ หากเข้าใจผิดว่าไอบูโปรเฟนเม็ดกลมสีชมพูเป็นยา “พาราเซตามอลเม็ดสีชมพู” ก็อาจนำไปรับประทาน จนทำให้เกิดการแพ้ยาซ้ำได้อีกค่ะ   

ถ้าจำชื่อยาไม่ได้จริง ๆ บอกลักษณะของเม็ดยา เช่น รูปร่าง สี สัญลักษณ์/ตัวเลข/ตัวอักษรบนเม็ดยาที่ต้องการใช้ก็พอได้ค่ะ เภสัชกรจะเข้าฌานทำการระลึกชาติหาชื่อยาที่น่าจะเป็นไปได้ให้  แต่ก็ไม่แน่นอนเท่ากับทราบชื่อยาอยู่ดีนะคะ เพราะนอกจากยาที่มีใช้ทั้งหมดบนโลกใบนี้จะมีหลากหลายมาก แล้ว ยาที่มีลักษณะใกล้เคียงกันก็มีอยู่ไม่น้อยเลยค่ะ

สำหรับใครที่เคยเข้าใจผิดว่า “ไอบูโปรเฟนคือยาพาราเซตามอลเม็ดสีชมพู” หรือไม่เข้าใจว่า “เรียกชื่อยาผิดแค่นี้เอง จะสำคัญอะไรนักหนา” หวังว่าบทความนี้จะช่วยปรับความเข้าใจให้ถูกต้องได้นะคะ เพราะ “การจำชื่อยาผิด” มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ สิว ๆ ที่ควรมองข้ามเลยค่า  


32 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Acetaminophen vs ibuprofen: What is the difference?. Drugs.com. (https://www.drugs.com/medical-answers/difference-between-ibuprofen-acetaminophen-3016163/)
26 Acetaminophen and Ibuprofen Side Effects, Uses, Differences, Dosage. MedicineNet. (https://www.medicinenet.com/acetaminophen_vs_ibuprofen_side_effects/article.htm)
Acetaminophen and Ibuprofen: Can you Mix Tylenol and Advil?. Healthline. (https://www.healthline.com/health/acetaminophen-and-ibuprofen)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)