กองบรรณาธิการ HonestDocs
เขียนโดย
กองบรรณาธิการ HonestDocs

Growth Retardation (ภาวะทารกเจริญเติบโตช้าในครรภ์)

เผยแพร่ครั้งแรก 15 มิ.ย. 2019 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 3 นาที

ภาวะทารกโตช้าในครรภ์ (Growth Retardation หรือ Intrauterine Growth Restriction: IUGR) คือภาวะที่ตัวอ่อนในครรภ์ไม่ได้พัฒนาขึ้นอย่างที่ควรเป็น โดยตัวอ่อนที่มีภาวะโตช้าในครรภ์ จะมีขนาดเล็กกว่าตัวอ่อนที่มีอายุเท่ากัน คำนิยามนี้สามารถนำไปใช้กับทารกที่มีน้ำหนักแรกคลอดน้อยกว่าเกณฑ์ได้ด้วย

ภาวะทารกโตช้าในครรภ์มีอยู่ 2 รูปแบบ คือ แบบสมมาตร (Symmetrical) และแบบไม่สมมาตร (Asymmetrical) ภาวะทารกโตช้าในครรภ์แบบสมมาตรจะมีสัดส่วนร่างกายตามปกติ แต่มีขนาดร่างกายเล็กกว่าเด็กที่มีอายุครรภ์เท่ากัน ส่วนภาวะทารกในครรภ์โตช้าแบบไม่สมมาตร ทารกจะมีขนาดศีรษะปกติ แต่มีร่างกายเล็กกว่าที่ควรเป็น โดยเมื่อตรวจสอบภาพทารกในครรภ์ด้วยการอัลตราซาวด์ จะเห็นได้ว่าศีรษะของเด็กมีขนาดใหญ่กว่าร่างกายมาก

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง

ความเสี่ยงของภาวะทารกโตช้าในครรภ์

ภาวะทารกโตช้าในครรภ์ จะมีความเสี่ยงทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ได้สูง ดังนี้

  • มีระดับออกซิเจนต่ำ
  • มีระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ
  • มีเซลล์เม็ดเลือดแดงมากเกินไป
  • ไม่สามารถคงอุณหภูมิปกติของร่างกายได้
  • มีคะแนนที่ใช้วัดสุขภาพเด็กแรกเกิด (Apgar score) น้อย
  • มีปัญหาการให้อาหาร
  • มีปัญหาทางประสาทวิทยา

ภาวะทารกโตช้าในครรภ์ชนิดรุนแรง อาจทำให้ทารกเสียชีวิตในครรภ์หรือระหว่างคลอดได้ หากทารกรอดชีวิตก็มีโอกาสที่จะทำให้เกิดความพิการทางการเรียนรู้ มีพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวและสังคมล่าช้า รวมทั้งเสี่ยงต่อการติดเชื้อสูงขึ้น

สาเหตุของภาวะทารกโตช้าในครรภ์

ภาวะทารกโตช้าในครรภ์เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ความผิดปกติในเซลล์หรือเนื้อเยื่อชนิดที่สืบทอดมาจากพ่อแม่ตั้งแต่แรกจนทำให้ทารกมีภาวะทุพโภชนาการ มีปริมาณการนำเข้าออกซิเจนต่ำ หรืออาจจะเกิดจากปัญหาสุขภาพของมารดา 

ภาวะทารกโตช้าในครรภ์ สามารถเริ่มขึ้นช่วงเวลาใดของครรภ์ก็ได้ และมีปัจจัยมากมายที่เพิ่มความเสี่ยงให้ทารกเกิดภาวะนี้ขึ้น โดยปัจจัยต่างๆ สามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่

ปัจจัยจากครรภ์ ซึ่งเกิดจากสุขภาพของมารดา 

ปัจจัยของตัวอ่อน ซึ่งเกิดจากสุขภาพของตัวอ่อนเอง 

  • การติดเชื้อ
  • ความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด
  • ความผิดปกติทางโครโมโซม
  • การตั้งครรภ์แฝด

ปัจจัยภายในมดลูก 

  • การลดลงของการไหลเวียนโลหิตที่มดลูก
  • การลดลงของการไหลเวียนโลหิตภายในรก
  • การติดเชื้อที่เนื้อเยื่อโดยรอบตัวอ่อน
  • ภาวะรกเกาะต่ำ (Placenta Previa)

การวินิจฉัยภาวะทารกโตช้าในครรภ์

ภาวะทารกโตช้าในครรภ์ มักตรวจพบระหว่างการตรวจคัดกรองแม่และเด็กด้วยการอัลตราซาวด์ ซึ่งเป็นกระบวนการถ่ายภาพร่างกายด้วยคลื่นเสียงเพื่อตรวจพัฒนาการของตัวอ่อนและมดลูก หากพบว่าตัวอ่อนมีขนาดเล็กกว่าปกติ แพทย์จะคาดการณ์ว่าตัวอ่อนนั้นอาจมีภาวะโตช้าในครรภ์

เมื่อแพทย์คาดว่าทารกมีภาวะโตช้าในช่วงครรภ์อ่อน แพทย์จะคอยเฝ้าติดตามการเจริญเติบโตของตัวอ่อนด้วยการอัลตราซาวด์เป็นประจำ และหากพบว่าทารกมีการเติบโตที่ช้ากว่าปกติจริง แพทย์อาจจะทดสอบด้วยการเจาะน้ำคร่ำ (Amniocentesis Test) เพื่อตรวจหาสัญญาณของความผิดปกติต่างๆ

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง

การรักษาภาวะทารกโตช้าในครรภ์

ภาวะทารกโตช้าในครรภ์สามารถรักษาให้หายได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่เกิดขึ้น โดยก่อนจะเริ่มการรักษา แพทย์จะต้องตรวจสอบตัวอ่อน ดังนี้

  • ตรวจอัลตราซาวด์ดูอวัยวะของทารกว่าพัฒนาขึ้นอย่างไร และตรวจสอบหาความเคลื่อนไหวตามปกติต่างๆ
  • ตรวจสอบการเต้นของหัวใจ เพื่อให้มั่นใจว่าตัวอ่อนมีการสูบฉีดเลือดตามปกติ
  • ตรวจสอบ Doppler Flow Studies เพื่อให้มั่นใจว่าเลือดของตัวอ่อนไหลเวียนปกติหรือไม่

หลังจากนั้นจะเป็นขั้นตอนการรักษาตามสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะทารกโตช้าในครรภ์ขึ้น โดยอาจมีตัวเลือกการรักษา ดังนี้

  • การเพิ่มปริมาณสารอาหารที่ได้รับ เพื่อให้ตัวอ่อนได้รับสารอาหารต่างๆ ที่จำเป็นมากขึ้น ในกรณีที่มารดาไม่ได้รับประทานอาหารเพียงพอ 
  • การพักผ่อนบนเตียง เพื่อเพิ่มการไหลเวียนโลหิตของตัวอ่อนให้มากขึ้น
  • การกระตุ้นให้คลอด ในกรณีรุนแรงอาจต้องมีการเร่งให้คลอดก่อนกำหนด เพื่อไม่ให้ภาวะโตช้าของทารกทรุดหนักกว่าที่เป็นอยู่ แพทย์จะจำเป็นต้องใช้วิธีนี้หากการเจริญเติบโตของตัวอ่อนชะงักลงอย่างสมบูรณ์ หรือมีภาวะทางการแพทย์ชนิดร้ายแรง ซึ่งแพทย์อาจปล่อยให้ตัวอ่อนเติบโตให้ถึงที่สุดก่อนจะบังคับคลอดก็ได้

การป้องกันภาวะทารกโตช้าในครรภ์ของทารก

ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการป้องกันภาวะทารกโตช้าในครรภ์ แต่ก็มีหลายวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะนี้ของทารกลง เช่น

  • การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
  • การรับประทานวิตามินร่วมกับกรดโฟลิคอย่างเพียงพอขณะตั้งครรภ์
  • การหลีกเลี่ยงวิถีชีวิตที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น การเสพยา การดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่หรือยาสูบต่าง ๆ

8 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Intrauterine growth restriction. MedlinePlus. (https://medlineplus.gov/ency/article/001500.htm)
Definition of Intrauterine growth retardation. MedicineNet. (https://www.medicinenet.com/script/main/art.asp?articlekey=6458)
IUGR Causes, Diagnosis, Complications, Treatment, and More. WebMD. (https://www.webmd.com/baby/iugr-intrauterine-growth-restriction)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

ดูคำถามและคำตอบอื่นๆ ที่เกี่ยวกับอาการนี้
อายุ 51 ปี มีอาการชาริมฝีปากล่างบ่อย ๆ อาการคือชายิบ ๆ เจ็บเล็กน้อยค่ะ มีอาการเป็นบางวันค่ะ ไม่มีโรคประจำตัว แต่ค่า LDL สูง 144 ค่ะ ไม่ทราบเกิดจากอะไรคะ ต้องพบแพทย์แผนกไหนคะ
คำถามนี้ได้การตอบจากแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา)
ตอนนี้มีอาการปัสสาวะบ่อย ออกมาแบบกระปริบกระปรอย และรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นท้องน้อย มีเลือดจางๆปนออกมาแค่ครั้งเดียว
คำถามนี้ได้การตอบจากแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา)
คือหนูทานไข้มุขแล้วเหมือนมันจะติดคอทำยังไงถึงจะให้มันไหลลงท้องปกติค่ะกลัวเป็นอันตราย
คำถามนี้ได้การตอบจากแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา)