หน้าที่ของไขมัน ในแต่ละส่วนของร่างหาย มีทั้งคุณและโทษ

เผยแพร่ครั้งแรก 28 มี.ค. 2017 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 5 นาที
หน้าที่ของไขมัน ในแต่ละส่วนของร่างหาย มีทั้งคุณและโทษ

ความอ้วนเป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญ หลายโรคมากับความอ้วน คนอ้วนจึงมักมีอายุสั้นกว่าคนผอมหรือคนที่มีน้ำหนักเหมาะสม มักมีปัญหาเกี่ยวกับความดันโลหิตสูง คอเลสเตอรอลในเลือดสูง เป็นโรคเบาหวานและโรคหัวใจ ทั้งยังมีอัตราเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งเพิ่มขึ้น ตัวอย่างเช่น การตายด้วยโรคมะเร็งที่ลำไส้ใหญ่ ทวารหนัก และต่อมลูกหากในผู้ชายอ้วน มีอัตราสูงกว่าในผู้ชายผอม ในทำนองเดียวกันการตายด้วยโรคมะเร็งที่ถุงน้ำดี ท่อน้ำดี เต้านม รังไข่ และมดลูกในผู้หญิงอ้วน อัตราสูงกว่าในผู้หญิงที่ผอม ยิ่งอ้วนมากก็ยิ่งมีปัญหามาก นอกจากนั้น อ้วนตรงไหนที่สำคัญ เพราะไขมันที่เพิ่มพูนขึ้นตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายไม่เหมือนกัน

ที่จริงไขมันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิต หากร่างกายปราศจากไขมัน ก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ สำหรับผู้ชายต้องมีไขมันอย่างน้อยร้อยละ 3 ของน้ำหนักตัว ส่วนผู้หญิงจะต้องมีไขมันไม่น้อยกว่าร้อยละ 12 คนปกติจะมีไขมันมากกว่านั้นประมาณร้อยละ 15-30 ของน้ำหนักตัว แล้วแต่อ้วนมากน้อยเพียงใด ผู้หญิงส่วนใหญ่จะมีปริมาณไขมันในตัวมากกว่าผู้ชาย เมื่ออายุมากขึ้นก็จะมีไขมันเพิ่มขึ้น ประมาณว่าตั้งแต่อายุสามสิบขึ้นไปจะมีไขมันเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 0.5-1 ต่อปี ในขณะเดียวกันร่างกายจะค่อย ๆ สูญเสียกล้ามเนื้อประมาณร้อยละ 1-2 ต่อปี อาจมากหรือน้อยกว่านี้แล้วแต่เจ้าตัวจะขยันออกกำลังกายเพียงใดและกินอาหารมากน้อยเพียงใด


ไขมันมาจากอาหาร

หลังจากอาหารถูกย่อยและดูดซึมส่วนที่เหลือใช้ไม่ว่าจะเป็นคาร์โบไฮเดรต ไขมันหรือโปรตีน ร่างกายจะเปลี่ยนเป็นไขมันเก็บสะสมไว้สำหรับวันหน้า วันที่ร่างกายต้องใช้พลังงานแต่ได้รับจากอาหารไม่เพียงพอ คลังไขมันในร่างกายมีประสิทธิสูง อาศัยเอนไซม์ชื่อ ไลโปโปรตีน ไลเปส ช่วยลำเลียงไขมันจากอาหารไปเก็บไว้ในเซลล์ไขมันอย่างว่องไว เมื่อใดที่ต้องการก็สามารถดึงออกมาใช้ได้ทันที คลังไขมันในร่างกายไม่มีขีดจำกัด เซลล์ไขมันเป็นเซลล์อย่างง่าย มีแค่ผนังเซลล์หุ้มไขมันไว้ สามารถขยายใหญ่ขึ้นถึงสิบเท่าของขนาดแรกเริ่มคล้ายลูกโป่ง หากมีไขมันมากจนเซลล์เหล่านี้เก็บไว้ไม่หมด ร่างกายจะสร้างเซลล์ไขมันเพิ่มขั้นอีกได้ เซลล์ไขมันที่ร่างกายสร้างขึ้นมาแล้วไม่มีวันตายเมื่อลดน้ำหนัก ไขมันถูกดึงไปใช้เป็นพลังงาน เซลล์ไขมันจะเล็กลง แต่ไม่หายไปไหน อยู่กับที่ รอเวลาที่จะได้ไขมันมาสะสมใหม่

เซลล์ไขมันมีอยู่ทั่วร่างกาย ครึ่งหนึ่งอยู่ใต้ผิวหนัง ทำหน้าที่เป็นฉนวนช่วยคบคุมอุณหภูมิภายในร่างกายให้คงที่ ที่เหลือพอกพูนรวมกันมากเป็นพิเศษที่บริเวณอกโดยเฉพาะในเพศหญิงที่ต้นแขน ต้นขา บริเวณก้น หน้าท้อง และด้านหลังของลำคอ ไขมันตามส่วนเหล่านี้มีหน้าที่ต่างกัน
 

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

ไขมันที่ต้นแขน

a8.gif เป็นไขมันที่สะสมเอาไว้ใช้เป็นพลังงานในระยะสั้น เปรียบเสมือนเงินในธนาคารที่ฝากไว้ในบัญชีเผื่อเรียก มีความจำเป็นต้องใช้บ่อย ๆ ต้นแขนของมนุษย์เหมือนขาหน้าของสัตว์ต้องเคลื่อนไหวไปมาเสมอ เก็บไขมันไว้เพียงไม่นานก็ถูกใช้หมดไป ต้องมีไขมันส่งเข้ามาเก็บใหม่เรื่อย ๆ

ไขมันที่ต้นขาและสะโพก

a8.gif เปรียบเสมือนเงินในบัญชีสะสมเป็นไขมันที่เก็บไว้ใช้ในระยะยาว ผู้หญิงสะสมไขมันไว้ที่สองส่วนนี้มากเป็นพิเศษ สำหรับใช้ระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตร เป็นไขมันที่มีฮอร์โมนเพศกำกับผู้ชายจึงไม่อ้วนหรือไม่มีไขมันที่สะโพกและต้นต้นขายังกำจัดได้ยาก เวลาลดความอ้วนต้องออกกำลังกายอย่างจงใจบริหารส่วนนี้เป็นพิเศษจึงจะกำจัดได้

ไขมันที่หน้าท้องหรือพุง

a8.gif มีในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง สันนิษฐานว่ามีติดตัวมาแต่ครั้งดึกดำบรรพ์ สมัยที่ผู้ชายต้องออกล่าสัตว์เป็นอาหาร ต้องใช้พลังงานสูง วิ่งตามเหยื่อหรือวิ่งหนีศัตรู เมื่อถึงเวลาคับขัน ฮอร์โมนหลายตัวช่วยกันกำกับให้ร่างกายได้พลังงานที่ต้องการใช้อย่างรีบด่วน หัวใจเต้นแรงและเร็ว กล้ามเนื้อเตรียมพร้อมที่จะทำงาน ไขมันหลั่งออกจากเซลล์ไขมันเข้าสู่กระแสเลือดไปยังอวัยวะที่จะต้องทำงานหนักเพื่อความอยู่รอด นั่นคือวิ่งตามสัตว์เพื่อให้ได้มาเป็นอาหาร หรือวิ่งหนีสัตว์ร้ายเพื่อรักษาชีวิต


ความอ้วนแบ่งตามรูปร่างหรือส่วนที่มีไขมันมากได้สองประเภท

  • อ้วนประเภทแรกอ้วนส่วนบน หรือตรงพุง ฝรั่งเปรียบเทียบว่าอ้วนคล้ายลูกแอปเปิ้ลคือตัวกลม
  • อ้วนส่วนล่างที่สะโพกและต้นขา ไม่น่าดูก็จริง แต่ไม่ใช่ปัญหาสุขภาพที่สำคัญเท่าอ้นประเภทแรก


คนที่มีไขมันที่หน้าท้อง มีอัตราเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจสูงเพราะมักมีคอเลสเตอรอลในเลือดสูง ทั้งอาจมีความดันโลหิตสูงจนอาจทำให้เส้นเลือดในสมองแตก
 


a8.gif ฉะนั้นในปัจจุบัน การชั่งน้ำหนักเพื่อให้รู้ว่าอ้วนมากน้อยเพียงไร ไม่เพียงพอเสียแล้วสำหรับการประเมินความอ้วน จำเป็นต้องรู้ว่าไขมันที่ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นนั้นอยู่ที่ส่วนใด จึงต้องวัดตัวประกอบ วัดรอบเอและรอบสะโพก เอวไม่ควรใหญ่กว่าสะโพก

a8.gif หากหารรอบเอวด้วยรอบสะโพกได้เกิน 0.9 สำหรับผู้ชายและ 0.8 สำหรับผู้หญิง จัดว่าอ้วนถึงขีดอันตราย จำเป็นต้องลดความอ้วนอย่างรีบด่วน เป็นต้นเหตุว่าหากเอว 30 นิ้ว สะโพก 38 นิ้ว อาจยังใจเย็นอยู่ได้ แต่ถ้าเอว 38 นิ้ว สะโพก 40 นิ้ว ควรรีบตั้งต้นออกกำลังและลดอาหารเพื่อลดคามอ้วนตั้งแต่บัดนี้


10 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Guide for Older Adults on Using the Nutrition Facts Label. U.S. Food and Drug Administration (FDA). (https://www.fda.gov/food/nutrition-education-resources-materials/guide-older-adults-using-nutrition-facts-label)
Fat: the facts. NHS (National Health Service). (https://www.nhs.uk/live-well/eat-well/different-fats-nutrition/)
The truth about fats: the good, the bad, and the in-between. Harvard Health. (https://www.health.harvard.edu/staying-healthy/the-truth-about-fats-bad-and-good)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป