สัญญาณเริ่มต้นเมื่อติดเชื้อ HIV

ระยะเริ่มต้นของการติดเชื้อ HIV เป็นอย่างไร
เผยแพร่ครั้งแรก 21 ต.ค. 2018 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 2 นาที
สัญญาณเริ่มต้นเมื่อติดเชื้อ HIV

เรื่องควรรู้

ขยาย

ปิด

  • เชื้อ HIV สามารถติดต่อสู่ผู้อื่นได้ทางเลือด และการมีเพศสัมพันธ์
  • อาการเริ่มต้นของการติดเชื้อไวรัส HIV จะเกิดขึ้นภายใน 1-2 เดือนหลังได้รับเชื้อ หรืออาจตั้งแต่ 1-2 สัปดาห์แรกหลังได้รับเชื้อก็ได้ เช่น ปวดหัว ต่อมน้ำเหลืองโต มีผื่น มีแผลที่อวัยวะเพศ ปวดกล้ามเนื้อ
  • อาการจากการติดเชื้อ HIV สามารถลุกลามทำให้กลายเป็นโรคเอดส์ได้ เช่น มีผื่นขึ้น หนาวสั่นในช่วงกลางคืน น้ำหนักลดอย่างรุนแรง มีปัญหาเกี่ยวกับความจำ
  • ผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV หลายคนเมื่อมีอาการเริ่มต้นของการติดเชื้อแล้ว หลังจากนั้นอาการก็จะหายไป ทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่า เชื้อได้หายไปแล้ว ซึ่งความจริงแล้ว เชื้อไวรัสยังคงอยู่ในร่างกายผู้ป่วย แต่แค่ตื่นตัวน้อยลงเท่านั้น
  • การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ถูกสุขอนามัย คือ หนึ่งในสาเหตุที่มักทำให้มีการติดเชื้อ HIV ถึงกัน หากคุณอยู่ในกลุ่มผู้ที่เสี่ยงติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาเชื้อโดยเร็วที่สุด (ดูแพ็กเกจตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ที่นี่)

การสังเกตอาการที่อาจเป็นอาการของการติดเชื้อ HIV นั้นสำคัญมากในแง่ของการแพร่เชื้อ เพราะจะช่วยให้ผู้ติดเชื้อนั้นสามารถมารับการรักษาได้อย่างรวดเร็ว และทำให้เข้าสู่ระยะที่เป็นเอดส์ได้ช้าลง

อาการในระยะเริ่มต้นของการติดเชื้อ HIV

อาการที่เป็นมักมีลักษณะคล้ายเวลาที่เป็นไข้หวัดใหญ่ เช่น

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง

อาการเหล่านี้มักเกิดขึ้นภายใน 1-2 เดือนหลังจากที่ได้รับเชื้อ และอาจจะพบได้เร็วตั้งแต่ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกหลังได้รับเชื้อก็ได้ บางคนอาจจะไม่มีอาการเหล่านี้หลังได้รับเชื้อก็ได้เช่นกัน อย่าลืมว่าอาการเหล่านี้เป็นอาการที่พบได้ทั่วไปจากการเป็นโรคอื่นๆ ดังนั้นหากคุณสงสัยว่าจะติดเชื้อควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอตรวจ

หลังจากนั้นผู้ป่วยอาจจะไม่มีอาการอะไรเลยได้นานถึง 10 ปี แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเชื้อนั้นหายไป เพราะการดำเนินโรคนั้นสามารถทำให้เข้าสู่ระยะที่เป็นเอดส์ได้แม้ว่าจะไม่มีอาการก็ตาม ดังนั้นการตรวจโรคจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก

อาการที่แสดงว่าเชื้อไวรัสนั้นอาจจะทำให้เกิดภาวะเอดส์

เชื้อไวรัส HIV คือ สาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้ป่วยเป็นโรคเอดส์ในภายหลังได้ โดยจะมีอาการต่อไปนี้

  • มีไข้สูง
  • หนาวสั่นและเหงื่อออกในตอนกลางคืน
  • มีผื่นขึ้น
  • มีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจและไอเรื้อรัง
  • น้ำหนักลดอย่างรุนแรง
  • มีปื้นขาวในปาก
  • มีแผลที่อวัยวะเพศ
  • อ่อนเพลียเป็นประจำ
  • เป็นโรคปอดอักเสบ
  • มีปัญหาเกี่ยวกับความจำ

ระยะการดำเนินโรคของการติดเชื้อ HIV

อาการของการติดเชื้อนั้นจะขึ้นกับระยะของการดำเนินโรค ในระยะแรกมักจะมีอาการคล้ายกับไข้หวัดและยากที่จะแยกจากการติดเชื้อในทางเดินอาหารหรือทางเดินหายใจอื่นๆ

ระยะต่อมาเป็นระยะที่ไม่มีอาการ เชื้อไวรัสนั้นจะตื่นตัวลดลงแต่ยังคงอยู่ภายในร่างกาย ผู้ป่วยอาจจะไม่มีอาการเลยในขณะที่เชื้อไวรัสนั้นมีการพัฒนาขึ้น ระยะนี้สามารถเป็นได้นาน 10 ปีหรือนานกว่านั้น และมีหลายคนที่ไม่มีอาการอะไรเลยตลอดช่วงเวลาดังกล่าว

ระยะสุดท้ายคือระยะที่ 3 หรือระยะเอดส์ ซึ่งเป็นภาวะที่ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายนั้นถูกทำลายอย่างรุนแรงและเสี่ยงต่อการติดเชื้อฉวยโอกาส เมื่อเข้าสู่ระยะนี้ จะเริ่มมีอาการต่างๆ เช่นคลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย และมีไข้ได้

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง

การติดต่อระหว่างกันของผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV

การมีเชื้อ HIV ในร่างกายนั้นสามารถติดต่อสู่คนอื่นได้ผ่านทางเลือดและเพศสัมพันธ์

และเนื่องจากไม่ใช่ทุกคนที่มีอาการของการติดเชื้อ HIV ในระยะแรก การมาตรวจเลือดหาเชื้อนั้นจึงเป็นวิธีเดียวที่จะทราบว่ามีการติดเชื้อหรือไม่ การได้รับการวินิจฉัยตั้งแต่ระยะแรกๆ นั้นจะทำให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาและลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อสู่คู่นอน

ทำความรู้จัก "เชื้อฉวยโอกาส"

เชื้อฉวยโอกาส คือ เชื้อโรคที่สามารถลุกลามทำให้เกิดเป็นอาการเจ็บป่วยต่างๆ ได้ โดยจะไม่เกิดในคนปกติทั่วไป แต่จะเกิดในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส HIV

เพราะผู้ป่วยเชื้อไวรัส HIV ทุกคนจะมีระบบภูมิคุ้มกันที่บกพร่องลงกว่าเดิม จึงทำให้เชื้อโรคเหล่านี้โจมตีร่างกาย และเกิดเป็นโรคต่างๆ ตามมา เช่น โรคปอดอักเสบ โรคงูสวัด วัณโรค โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ โรคเริม

การตรวจหาเชื้อ HIV

การตรวจหาเชื้อไวรัส HIV ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะจะทำให้ผู้ป่วยรู้ว่า ตนเองมีเชื้อ และจะได้ระมัดระวังไม่ไปแพร่เชื้อให้กับคู่นอนของตนเองต่อไป

เพราะมีผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัส HIV จำนวนมากที่ไม่ยอมไปตรวจหาโรค และแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นผ่านสารคัดหลั่งของร่างกาย หรือการใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน จึงทำให้เชื้อไวรัส HIV แพร่หลายออกไปเป็นวงกว้างมากกว่าเดิม

ดังนั้นกลุ่มผู้ที่เสี่ยงติดเชื้อไวรัส HIV จึงควรรีบไปพบแพทย์เพื่อขอรับการตรวจตั้งแต่เนิ่นๆ และจะได้หาทางรักษาที่เหมาะสมต่อไป

ดูแพ็กเกจตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เปรียบเทียบราคา โปรโมชั่นล่าสุดจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำได้ที่นี่ หรือไม่พลาดทุกการอัปเดตแพ็กเกจต่างๆ เมื่อกดเป็นเพื่อนทางไลน์ @hdcoth และกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android


54 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
16 HIV Symptoms Every Woman Needs to Know. Health.com:. (https://www.health.com/condition/hiv/16-hiv-symptoms-every-woman-needs-to-know)
21 HIV Early Signs and Symptoms & 3 Stages. MedicineNet. (https://www.medicinenet.com/hiv-aids/symptoms)
7 Top Signs That You May Have HIV. Verywell Health. (https://www.verywellhealth.com/top-signs-you-may-have-hiv-49428)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป