กองบรรณาธิการ HD
เขียนโดย
กองบรรณาธิการ HD

Lisinopril (ลิซิโนพริล)

เผยแพร่ครั้งแรก 10 ก.พ. 2019 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 6 นาที

สรรพคุณของยา Lisinopril

ยา Lisinopril เป็นยาสำหรับรักษาโรคความดันโลหิตสูง เมื่อความดันโลหิตลดลงจะช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง (Strokes) โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายจากการขาดเลือด (Heart attacks) และโรคไต นอกจากนี้ยายังใช้รักษาโรคหัวใจล้มเหลว (Heart failure) และช่วยยืดระยะเวลาการมีชีวิตรอดภายหลังมีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายจากการขาดเลือด

ยา Lisinopril เป็นยาในกลุ่ม ACE inhibitors โดยจะออกฤทธิ์ขยายหลอดเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนได้ง่ายขึ้น 

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

วิธีใช้ยา Lisinopril

รับประทานยานี้ตามแพทย์สั่ง ก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ โดยทั่วไปจะรับประทานวันละ 1 ครั้ง

ถ้าคุณใช้ยานี้ในรูปแบบยาน้ำแขวนตะกอน (Suspension) คุณจะต้องเขย่าขวดก่อนใช้ยาทุกครั้ง และให้ตวงยาโดยใช้ช้อนตวงตา/อุปกรณ์ตวงยาโดยเฉพาะ อย่าใช้ช้อนรับประทานอาหารตวงยาเพราะอาจทำให้ได้รับขนาดยาไม่ถูกต้อง

ขนาดยาที่คุณได้รับจะขึ้นกับสภาวะโรคและการตอบสนองต่อการรักษาของคุณ ถ้าเป็นผู้ป่วยเด็กขนาดยาจะคำนวณตามน้ำหนักตัว

เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงจากยา แพทย์อาจให้คุณเริ่มยาที่ขนาดต่ำก่อนและค่อยๆ ปรับเพิ่มขนาดยาขึ้น โปรดปฏิบัติตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด

คุณต้องใช้ยานี้เป็นประจำทุกวันเพื่อให้ได้ประโยชน์จากยาเต็มที่ แนะนำให้รับประทานยาในเวลาเดียวกันของทุกวันเพื่อป้องกันการลืมรับประทานยา และให้รับประทานยานี้อย่างต่อเนื่องแม้จะรู้สึกอาการดีขึ้นแล้วก็ตาม เพราะผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตสูงส่วนใหญ่จะไม่มีอาการใดๆ 

ในการรักษาโรคความดันโลหิตสูง อาจต้องใช้เวลานาน 2-4 สัปดาห์ จึงจะได้ประโยชน์จากยาเต็มที่ แต่ถ้าใช้สำหรับรักษาโรคหัวใจล้มเหลวอาจใช้เวลานานหลายสัปดาห์จนถึงหลายเดือนก่อนจะได้ประโยชน์จากยาเต็มที่ ให้แจ้งแพทย์หากใช้ยาไปแล้วอาการไม่ดีขึ้นหรือมีอาการแย่ลง เช่น ความดันโลหิตยังสูงอยู่ หรือสูงมากกว่าเดิม 

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

ผลข้างเคียงของยา Lisinopril

อาการข้างเคียงที่อาจเกิดจากการใช้ยา Lisinopril คือ เวียนศีรษะ หน้ามืด อ่อนเพลีย หรือปวดศีรษะ ซึ่งเกิดขึ้นเพราะร่างกายอยู่ระหว่างปรับตัวกับการใช้ยา และอาจเกิดอาการไอแห้งๆ ระหว่างใช้ยาได้ หากอาการข้างเคียงเหล่านี้ไม่ดีขึ้นหรือมีอาการแย่ลง ให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทันที

เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการวิงเวียน และหน้ามืด ให้ค่อยๆ ลุกขึ้นช้าๆ เมื่อเปลี่ยนจากท่านั่งหรือจากท่านอน 

โปรดจำไว้ว่า การที่แพทย์สั่งยานี้ให้กับคุณ เพราะว่าแพทย์ได้ประเมินแล้วว่าคุณจะได้รับประโยชน์จากยานี้มากกว่าความเสี่ยงต่อการเกิดอาการข้างเคียง ผู้ป่วยหลายรายที่ใช้ยานี้ไม่เกิดอาการข้างเคียงร้ายแรงจากยา

แจ้งแพทย์ทันทีถ้าคุณมีอาการข้างเคียงที่ร้ายแรง ได้แก่ 

แม้ว่ายา Lisinopril อาจช่วยป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้นกับไต หรือใช้รักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาที่ไตอยู่ก่อนแล้ว แต่มีความเป็นไปได้ที่ยาจะทำให้เกิดโรคไตอย่างร้ายแรง หรือทำให้อาการของโรคไตแย่ลงได้เช่นกัน ดังนั้นแพทย์จะให้คุณตรวจการทำงานของไตระหว่างใช้ยา Lisinopril และให้แจ้งแพทย์ทันทีถ้าคุณมีอาการที่บ่งบอกว่ามีปัญหาที่ไตเกิดขึ้น เช่น มีการเปลี่ยนแปลงปริมาณปัสสาวะ 

ยา Lisinopril อาจทำให้เกิดปัญหาที่ตับอย่างร้ายแรงได้ (อาจถึงแก่ชีวิต) แม้ว่าจะพบได้น้อย แต่ถ้ามีอาการใดๆ ที่บ่งบอกถึงภาวะตับถูกทำลาย ให้รีบไปพบแพทย์ทันที ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียนที่ไม่ดีขึ้น เบื่ออาหาร ปวดท้อง ตัวเหลือง ตาเหลือง ปัสสาวะมีสีเข้ม

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

ปฏิกิริยาการแพ้ยานี้ เป็นเรื่องที่พบได้น้อย อย่างไรก็ตามถ้าเกิดอาการใดๆ ของการแพ้ยาให้รีบไปพบแพทย์ทันที ได้แก่ ผื่น คัน/บวม (โดยเฉพาะที่หน้า ลิ้น คอ) เวียนศีรษะรุนแรง หายใจลำบาก

อาการข้างเคียงที่กล่าวไว้ข้างต้นไม่ใช่อาการข้างเคียงทั้งหมดที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้นถ้าคุณมีอาการผิดปกติใดๆ ที่ไม่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร

ข้อควรระวังในการใช้ยา Lisinopril

ถ้าคุณแพ้ยา Lisinopril หรือแพ้ยาอื่นในกลุ่ม ACE inhibitors เช่น Benazepril หรือแพ้สิ่งอื่นๆ ให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบก่อนได้รับยานี้ ผลิตภัณฑ์ยานี้อาจประกอบด้วยสารไม่ออกฤทธิ์อื่นซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการแพ้หรือปัญหาอื่นได้ ให้ปรึกษาเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ก่อนการใช้ยา Lisinopril ให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบเกี่ยวกับประวัติทางการแพทย์ของคุณ โดยเฉพาะถ้าคุณ

  • มีประวัติการแพ้ ที่มีอาการบวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น ลำคอ (Angioedema)
  • กำลังฟอกเลือด เช่น ฟอกไต 
  • มีระดับโพแทสเซียมในเลือดสูง

ยา Lisinopril อาจทำให้วิงเวียนศีรษะ โดยแอลกอฮอล์จะทำให้อาการวิงเวียนศีรษะเป็นมากขึ้น ห้ามขับรถ ทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร หรือทำกิจกรรมใดๆ ที่ต้องอาศัยการตื่นตัว จนกว่าคุณจะทำกิจกรรมดังกล่าวได้อย่างปลอดภัย และแนะนำให้จำกัดการดื่มแอลกอฮอล์

การเสียเหงื่อ ท้องเสีย หรืออาเจียนมากกว่าปกติ อาจทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำเป็นจำนวนมาก ทำให้มีภาวะขาดน้ำ (Dehydration) และจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอาการวิงเวียน หน้ามืด ให้แจ้งแพทย์ทราบถ้ามีอาการท้องเสียหรืออาเจียนเป็นเวลานาน เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำแนะนำให้ดื่มน้ำให้เพียงพอตลอดทั้งวัน ยกเว้นแพทย์สั่งเป็นอย่างอื่น

ก่อนเข้ารับการผ่าตัด ให้แจ้งแพทย์หรือทันตแพทย์ทราบเกี่ยวกับรายการยา อาหารเสริม และสมุนไพรที่กำลังใช้อยู่

ยา Lisinopril อาจเพิ่มระดับโพแทสเซียมในเลือดได้ ดังนั้นก่อนใช้ยา/อาหารเสริมโพแทสเซียม ให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อน

ผู้สูงอายุอาจเกิดอาการข้างเคียงจากยาได้มากกว่าปกติ โดยเฉพาะอาการวิงเวียนศีรษะและการมีระดับโพแทสเซียมในเลือดสูง

ไม่แนะนำให้ใช้ยา Lisinopril ระหว่างตั้งครรภ์ เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้ ปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ายานี้ผ่านไปยังน้ำนมหรือไม่ ดังนั้นให้ปรึกษาแพทย์ก่อนให้นมบุตร

คำเตือนในการใช้ยา Lisinopril

การใช้ยา Lisinopril ระหว่างตั้งครรภ์ อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้ (อาจถึงแก่ชีวิต) ดังนั้นต้องคุมกำเนิดระหว่างใช้ยานี้ โดยให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับข้อมูลเพิ่มเติมและวิธีในการคุมกำเนิดที่เชื่อถือได้ระหว่างใช้ยานี้ หากคุณวางแผนจะตั้งครรภ์ กำลังตั้งครรภ์ หรือคิดว่าตนเองอาจจะตั้งครรภ์ ให้รีบแจ้งแพทย์ทันที

ใครบ้างที่ไม่ควรใช้ยา Lisinopril

สภาวะต่อไปนี้ถือเป็นข้อห้ามในการใช้ยา Lisinopril ดังนั้นต้องแจ้งแพทย์ทราบหากคุณมีสภาวะดังต่อไปนี้

  • เป็นกลุ่มอาการของการหลั่งฮอร์โมนต้านการขับปัสสาวะไม่เหมาะสม (Syndrome of Inappropriate Antidiuretic Hormone Secretion)
  • มีโซเดียมในเลือดต่ำ
  • มีโพแทสเซียมในเลือดสูง
  • มีเม็ดเลือดขาวนิวโทรฟิล (Neutrophils) ต่ำ 
  • กำลังได้รับการฟอกเลือดเพื่อกำจัดของเสีย หรือสารพิษ
  • ลิ้นหัวใจ Aortic ตีบ
  • โรคกล้ามเนื้อหัวใจหนาชนิด Hypertrophic cardiomyopathy
  • หลอดเลือดแดงที่ไตตีบแคบ (Renal artery stenosis)
  • ความดันโลหิตต่ำผิดปกติ
  • ไตวายเฉียบพลัน
  • มีค่าการทำงานของตับผิดปกติ
  • มีผื่นลมพิษชนิด giant hives
  • กำลังตั้งครรภ์
  • มีปัญหาการไหลเวียนเลือดที่สมอง
  • มีปริมาณเลือดในร่างกายลดลง
  • เป็นโรคไตที่มีการทำงานของไตลดลง
  • แพ้ยา Lisinopril
  • แพ้ยาอื่นในกลุ่ม ACE inhibitors

การใช้ยา Lisinopril ร่วมกับยาอื่น 

การเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา (Drug interactions) อาจเปลี่ยนแปลงการออกฤทธิ์ของยาหรือเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงร้ายแรง ข้อมูลที่ระบุนี้ไม่ได้ครอบคลุมการเกิดปฏิกิริยาระหว่างยาที่อาจเกิดขึ้นทั้งหมด ดังนั้นคุณต้องแจ้งแพทย์และเภสัชกรทราบทุกครั้งว่าคุณกำลังรับประทานยา อาหารเสริม สมุนไพร ใดอยู่ในขณะนี้ อย่าเริ่มยา หยุดยา หรือเปลี่ยนแปลงขนาดยาต่างๆ เอง โดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์

รายการยาที่อาจเกิดปฏิกิริยากับยา Lisinopril:

  • Sacubitril
  • Lithium
  • Trimethoprim
  • ยาในกลุ่ม mTOR Inhibitors
  • Aliskiren
  • ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs)
  • ยาขับปัสสาวะกลุ่ม Potassium sparing diuretics 
  • ยาขับปัสสาวะกลุ่ม Loop diuretics
  • อาหารเสริมโพแทสเซียม หรือยาเสริมโพแทสเซียม
  • ยา Aspirin ขนาดสูง
  • Dapagliflozin, Ertugliflozin, Canagliflozin
  • Tizanidine
  • ยาในกลุ่ม MAOIs บางรายการ
  • Drospirenone
  • Azathioprine

การได้รับยา Lisinopril เกินขนาด 

หากมีใครก็ตามที่ได้รับยา Lisinopril เกินขนาด จนทำให้เกิดอาการที่ร้ายแรง เช่น หมดสติ หรือหายใจลำบาก ให้รีบเรียกรถพยาบาลทันที โทร 1669 

การได้รับยาเกินขนาดอาจมีอาการดังนี้ เวียนศีรษะอย่างรุนแรง เป็นลม

หมายเหตุ

ห้ามแบ่งยานี้ให้ผู้อื่นใช้

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอาจช่วยให้ยาออกฤทธิ์ได้ดีขึ้น ได้แก่ การออกกำลังกาย หยุดสูบบุหรี่ การรับประทานอาหารที่มีคอเลสเตอรอลต่ำ ไขมันต่ำ ปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ควรมีการตรวจติดตามทางห้องปฏิบัติการ และ/หรือการตรวจทางการแพทย์อื่นๆ ระหว่างใช้ยานี้ เช่น ตรวจการทำงานของไต, ตรวจระดับโพแทสเซียมในเลือด ดังนั้นให้ไปพบแพทย์ตามนัดเป็นประจำ และปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

คุณต้องวัดความดันโลหิตและวัดอัตราการเต้นของหัวใจเป็นประจำระหว่างใช้ยานี้ โดยให้เรียนรู้วิธีการวัดความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจด้วยตนเอง และนำผลการวัดนั้นมาให้แพทย์ดูด้วย

หากลืมรับประทานยา Lisinopril

ถ้าคุณลืมรับประทานยานี้ ให้รับประทานทันทีที่นึกได้ หากนึกได้เมื่อใกล้กับเวลาของมื้อถัดไป ให้ข้ามมื้อที่ลืมไป และรับประทานมื้อถัดไปตามปกติ โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เท่า

การเก็บรักษายา Lisinopril

เก็บรักษายาเม็ดและยาน้ำแขวนตะกอนที่อุณหภูมิห้อง ห่างจากแสงแดดและความชื้น ไม่เก็บยาในห้องน้ำ ยา Lisinopril รูปแบบยาน้ำแขวนตะกอน เมื่อเปิดแล้วมีอายุ 1 เดือน หากเกิน 1 เดือนให้ทิ้งไป เก็บยาทุกชนิดให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง

ไม่เทยานี้ทิ้งในห้องน้ำหรือในท่อระบายน้ำ ให้ทิ้งผลิตภัณฑ์ยานี้อย่างเหมาะสมเมื่อยาหมดอายุหรือเมื่อไม่จำเป็นต้องใช้ยานี้อีก


5 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
University of Illinois-Chicago, Drug Information Group, Lisinopril, Oral Tablet (https://www.healthline.com/health/lisinopril-oral-tablet), 8 February 2018.
medlineplus, Lisinopril (https://medlineplus.gov/druginfo/meds/a692051.html), 15 July 2017.

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน ผู้อ่านไม่ควรเลือกใช้ยาเองจากการอ่านบทความ ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาทุกครั้ง เพราะแต่ละท่านอาจมีสาเหตุของโรค โรคประจำตัว และประวัติการรักษาที่ต่างกัน ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)