กองบรรณาธิการ HD
เขียนโดย
กองบรรณาธิการ HD

Dabigatran (ดาบิกาแทรน)

เผยแพร่ครั้งแรก 21 ก.พ. 2019 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 7 นาที

สรรพคุณของยา Dabigatran

ยา Dabigatran เป็นยาสำหรับป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง และป้องกันการเกิดลิ่มเลือดอุดตันที่เป็นอันตรายต่อร่างกายในผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิดหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว (Atrial fibrillation) เช่น ลิ่มเลือดอุดตันที่ขา หรือที่ปอด

ยา Dabigatran เป็นยาสำหรับรักษาอาการลิ่มเลือดอุดตันที่หลอดเลือดดำที่ขา (Deep vein thrombosis) หรือที่ปอด (Pulmonary embolism) และช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดซ้ำ

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

นอกจากนี้อาจใช้สำหรับป้องกันลิ่มเลือดอุดตันภายหลังการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียม (Hip replacement surgery)

ยา Dabigatran เป็นยาต้านการแข็งตัวของเลือด (Anticoagulant) ทำหน้าที่ยับยั้งการทำงานของโปรตีนช่วยในการแข็งตัวของเลือด (Clotting protein) ที่เรียกว่า ทรอมบิน (Thrombin) ซึ่งจะช่วยให้เลือดไหลเวียนในร่างกายได้ดีขึ้น

ไม่ควรใช้ยา Dabigatran เพื่อป้องกันลิ่มเลือดอุดตันภายหลังการผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจเทียม (Artificial heart valve replacement) ถ้าคุณเคยผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจเทียมมาแล้ว ให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับยาที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด ห้ามหยุดยาใดๆ รวมถึงยา Dabigatran โดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์

วิธีใช้ยา Dabigatran

อ่านคำแนะนำในการใช้ยาที่ได้รับจากเภสัชกรก่อนใช้ยานี้ และในทุกครั้งที่มารับยาซ้ำ หากมีคำถามใดๆ ให้สอบถามจากแพทย์หรือเภสัชกร

รับประทานยานี้ตามแพทย์สั่ง ก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ โดยทั่วไปจะรับประทานวันละ 2 ครั้ง

หากใช้ยานี้เพื่อป้องกันลิ่มเลือดอุดตันหลังการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกหรือข้อเข่า ให้รับประทานยานี้ตามแพทย์สั่ง ซึ่งมักรับประทานวันละ 1 ครั้ง และให้หลีกเลี่ยงการรับประทานยาลดกรดในเวลา 24 ชั่วโมงแรกภายหลังการผ่าตัด เพราะอาจทำให้ยา Dabigatran ออกฤทธิ์ไม่ดี

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

การรับประทานยานี้ต้องกลืนยาทั้งแคปซูลพร้อมกับน้ำ 1 แก้ว (240 มิลลิลิตร) ห้ามบดยา เคี้ยวยา หรือเปิดเปลือกแคปซูลออก เพราะจะทำให้ยาถูกปลดปล่อยออกมาทั้งหมด และจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอาการข้างเคียง

ให้เก็บยานี้ในภาชนะเดิมที่ได้มา เช่นในขวดยาปิดสนิท หรือในแผงยา เพื่อป้องกันความชื้น โดยห้ามนำเม็ดยาใส่ไว้ในกล่องยาสำหรับพกพา หรือกล่องยาสำหรับเตือนความจำ

ขนาดยาที่คุณได้รับจะขึ้นกับสภาวะโรค การทำงานของไต การตอบสนองต่อการรักษา และยาอื่นที่คุณอาจใช้อยู่ในขณะนั้น ดังนั้นต้องแจ้งแพทย์และเภสัชกรทราบเกี่ยวกับรายการยา อาหารเสริม และสมุนไพรทุกชนิดที่กำลังใช้อยู่

ให้ใช้ยานี้เป็นประจำจึงจะได้ประโยชน์จากยาเต็มที่ เพื่อไม่ให้ลืมรับประทานยา แนะนำให้รับประทานยาในเวลาเดียวกันของทุกวัน

คุณต้องรับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด ห้ามปรับเพิ่มขนาดยา หรือใช้ยาบ่อยครั้งกว่าที่แพทย์สั่ง และห้ามหยุดยาเองโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์

ผลข้างเคียงของยา Dabigatran

อาการข้างเคียงที่อาจเกิดจากการใช้ยา Dabigatran ได้แก่ มีรอยช้ำง่าย หรือมีเลือดออกระดับไม่รุนแรง เช่น เลือดกำเดาไหล เลือดออกจากแผล ถ้าอาการเหล่านี้ไม่ดีขึ้น หรือมีอาการแย่ลง ให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทันที

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

โปรดจำไว้ว่า การที่แพทย์สั่งยานี้ให้กับคุณ เพราะว่าแพทย์ได้ประเมินแล้วว่าคุณจะได้รับประโยชน์จากยานี้มากกว่าความเสี่ยงต่อการเกิดอาการข้างเคียง ผู้ป่วยหลายรายที่ใช้ยานี้ไม่เกิดอาการข้างเคียงร้ายแรงจากยา

ยา Dabigatran อาจเป็นสาเหตุของการเกิดเลือดออกอย่างร้ายแรงถ้ายาส่งผลต่อโปรตีนช่วยในการแข็งตัวของเลือดมากเกินไป ดังนั้นให้แจ้งแพทย์ทันทีถ้ามีอาการเลือดออกอย่างร้ายแรง ได้แก่

  • มีอาการปวด บวม ไม่สบายตัวอย่างผิดปกติ
  • มีรอยช้ำง่าย มีรอยช้ำผิดปกติ
  • เลือดออกเป็นเวลานานจากแผลหรือเหงือก
  • เลือดกำเดาไหลไม่หยุด หรือไหลบ่อยครั้ง
  • ประจำเดือนมามาก ประจำเดือนมานานผิดปกติ
  • ปัสสาวะมีสีชมพู ปัสสาวะมีสีเข้ม
  • ไอเป็นเลือด
  • อาเจียนเป็นเลือด หรืออาเจียนคล้ายกากกาแฟ
  • ปวดศีรษะอย่างรุนแรง
  • เวียนศีรษะ หน้ามืด
  • อ่อนเพลีย อ่อนแรงผิดปกติ หรือเป็นเรื้อรัง
  • อุจจาระมีเลือดปน อุจจาระมีสีดำ อุจจาระเหมือนน้ำมันดิน

ให้แจ้งแพทย์ทันทีถ้าคุณมีอาการข้างเคียงที่ร้ายแรง ได้แก่

ปฏิกิริยาการแพ้ยานี้ เป็นเรื่องที่พบได้น้อย อย่างไรก็ตามถ้าเกิดอาการใดๆ ของการแพ้ยาให้รีบไปพบแพทย์ทันที ได้แก่ ผื่น คัน/บวม (โดยเฉพาะที่หน้า ลิ้น คอ) เวียนศีรษะรุนแรง หายใจลำบาก

อาการข้างเคียงที่กล่าวไว้ข้างต้นไม่ใช่อาการข้างเคียงทั้งหมดที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้นถ้าคุณมีอาการผิดปกติใดๆ ที่ไม่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร

ข้อควรระวังในการใช้ยา Dabigatran

ถ้าคุณแพ้ยา Dabigatran หรือแพ้สิ่งอื่นๆ ให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบก่อนได้รับยานี้ ผลิตภัณฑ์ยานี้อาจประกอบด้วยสารไม่ออกฤทธิ์อื่นซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการแพ้หรือปัญหาอื่นได้ ให้ปรึกษาเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ก่อนการใช้ยา Dabigatran ให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบเกี่ยวกับประวัติทางการแพทย์ของคุณ โดยเฉพาะถ้าคุณ

  • ได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจเทียม
  • เป็นโรคไต
  • มีอาการเลือดออก เช่น เลือดออกที่กระเพาะอาหาร ลำไส้ เลือดออกในสมอง
  • เป็นโรคเลือด เช่น โลหิตจาง เลือดออกหยุดยากฮีโมฟีเลีย (Hemophilia) มีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ (Thrombocytopenia)
  • เป็นโรคตับ
  • เพิ่งได้รับการผ่าตัดใหญ่ หรือได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง
  • เป็นโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)
  • หกล้มบ่อยครั้ง ได้รับบาดเจ็บบ่อย

คุณต้องแจ้งแพทย์และทันตแพทย์ทราบเสมอว่าคุณกำลังใช้ยา Dabigatran

ก่อนเข้ารับการผ่าตัด หรือการรักษาทางการแพทย์ หรือการทำฟัน ให้แจ้งแพทย์หรือทันตแพทย์ทราบเกี่ยวกับรายการยา อาหารเสริม และสมุนไพรทุกชนิดที่กำลังใช้อยู่ เพราะแพทย์อาจแจ้งให้คุณหยุดใช้ยา Dabigatran ก่อนเข้ารับการผ่าตัด โดยให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

ระหว่างใช้ยา Dabigatran ให้หลีกเลี่ยงการฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อ ถ้าจำเป็นต้องฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อ เช่น วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ให้ฉีดเข้ากล้ามเนื้อบริเวณแขน เพราะเป็นบริเวณที่สังเกตได้ง่ายว่ามีเลือดออกหรือไม่ และ/หรือ สามารถใช้ผ้าพันเพื่อห้ามเลือดได้ง่ายอีกด้วย

ยา Dabigatran อาจทำให้เกิดเลือดออกในกระเพาะอาหาร การดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำขณะใช้ยา Dabigatran อาจยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อเลือดออกในกระเพาะอาหาร จึงให้จำกัดการดื่มแอลกอฮอล์ และให้สอบถามแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับปริมาณแอลกอฮอล์ที่อาจดื่มได้อย่างปลอดภัย

ยา Dabigatran อาจทำให้เกิดเลือดออกอย่างมากได้ เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดบาดแผล รอยช้ำ หรือการบาดเจ็บ ให้ระวังการใช้ของมีคม เช่น มีดโกนหนวด กรรไกรตัดเล็บ และหลีกเลี่ยงกิจกรรมเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ เช่น กีฬาที่มีการกระทบกระทั่งกัน นอกจากนี้แนะนำให้ใช้มีดโกนหนวดไฟฟ้าขณะโกนหนวด และใช้แปรงสีฟันขนนุ่มแปรงฟันแทน ถ้าคุณหกล้มหรือได้รับบาดเจ็บ โดยเฉพาะที่บริเวณศีรษะ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที ซึ่งแพทย์อาจจำเป็นต้องตรวจอาการให้กับคุณ

ผู้สูงอายุอาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดเลือดออกขณะใช้ยา Dabigatran มากกว่าปกติ

ระหว่างการตั้งครรภ์ ยานี้ควรใช้เฉพาะในกรณีที่ประเมินแล้วว่ามีความจำเป็นจริงๆ โดยให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความเสี่ยงและประโยชน์ที่จะได้รับจากยานี้ขณะตั้งครรภ์

ยังไม่ทราบว่ายา Dabigatran ผ่านไปยังน้ำนมหรือไม่ จึงให้ปรึกษาแพทย์ก่อนการให้นมบุตร

คำเตือนในการใช้ยา Dabigatran

ห้ามหยุดใช้ยา Dabigatran ยกเว้นแพทย์สั่ง ถ้าคุณหยุดยาเร็วกว่ากำหนด จะทำให้คุณมีความเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดอุดตันอย่างร้ายแรง เช่น เกิดโรคหลอดเลือดสมอง, มีลิ่มเลือดอุดตันที่ขา ที่ปอด แพทย์อาจให้คุณรับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด หรือยาต้านเกล็ดเลือดชนิดอื่นเพื่อลดความเสี่ยงดังกล่าว

คุณต้องไปพบแพทย์ทันทีถ้ามีอาการดังต่อไปนี้

  • อ่อนแรงที่ด้านใดด้านหนึ่งของร่างกาย
  • มีอาการพูดลำบาก
  • การมองเห็นผิดปกติอย่างเฉียบพลัน
  • มีอาการสับสน
  • เจ็บหน้าอก
  • หายใจลำบาก
  • ปวด ร้อน บวม ที่ขา

ผู้ที่ใช้ยา Dabigatran อาจเกิดเลือดออกที่บริเวณใกล้กับไขสันหลังภายหลังได้รับการรักษาทางการแพทย์ที่บริเวณไขสันหลัง (Spinal Procedures) อาการเลือดออกที่เกิดที่บริเวณนี้จะทำให้มีอาการอัมพาตเป็นเวลานาน หรือเป็นเรื้อรังได้ จึงต้องปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการรักษาทางการแพทย์ที่บริเวณไขสันหลัง และความเสี่ยงของการเกิดเลือดออกอาจเพิ่มมากขึ้นถ้าคุณมีโครงสร้างกระดูกสันหลังผิดปกติ หรือเคยได้รับการรักษาที่บริเวณไขสันหลัง หรือได้รับการผ่าตัดที่บริเวณนี้มาก่อน หรือกำลังใช้ยาอื่นที่เป็นสาเหตุของการเกิดเลือดออก/มีรอยช้ำ ได้แก่ ยาต้านเกล็ดเลือด เช่น Clopidogrel, ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น Warfarin/Enoxaparin, ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เช่น Ibuprofen โดยให้แจ้งแพทย์ทันทีถ้ามีอาการ เช่น ปวดหลัง ชา/เสียวซ่า/อ่อนแรงที่ขา ไม่สามารถควบคุมการทำงานของลำไส้ หรือกระเพาะปัสสาวะได้ (กลั้นไม่อยู่)

ใครบ้างที่ไม่ควรใช้ยา Dabigatran

สภาวะต่อไปนี้ถือเป็นข้อห้ามในการใช้ยา Dabigatran ดังนั้นต้องแจ้งแพทย์ทราบหากคุณมีสภาวะดังต่อไปนี้

  • ได้รับการผ่าตัดที่กระดูกสันหลัง
  • เป็นผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดเลือดออก
  • ได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจเทียม
  • มีภาวะเลือดออก
  • เป็นโรคไตบกพร่องอย่างรุนแรง

การใช้ยา Dabigatran ร่วมกับยาอื่น

การเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา (Drug interactions) อาจเปลี่ยนแปลงการออกฤทธิ์ของยาหรือเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงร้ายแรง ข้อมูลที่ระบุนี้ไม่ได้ครอบคลุมการเกิดปฏิกิริยาระหว่างยาที่อาจเกิดขึ้นได้ทั้งหมด ดังนั้นคุณต้องแจ้งแพทย์และเภสัชกรทราบทุกครั้งว่าคุณกำลังรับประทานยา อาหารเสริม สมุนไพร ใดอยู่ในขณะนี้ อย่าเริ่มยา หยุดยา หรือเปลี่ยนแปลงขนาดยาต่างๆ เอง โดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์

รายการยาที่อาจเกิดปฏิกิริยากับยา Dabigatran เช่น:

ยาอื่นๆ ที่ส่งผลต่อการกำจัดยา Dabigatran ออกจากร่างกาย อาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา Dabigatran ได้ เช่น Cobicistat, Cyclosporine, Dronedarone, Ketoconazole, Rifampin และสมุนไพร St. John's Wort

ยา Aspirin, ยาที่คล้ายกับ Aspirin (Salicylates) และยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เช่น Ibuprofen, Naproxen, Celecoxib อาจส่งผลต่อร่างกายคล้ายกับยา Dabigatran โดยยาเหล่านี้อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดเลือดออกถ้าใช้ร่วมกับยา Dabigatran ดังนั้นต้องอ่านฉลากยาทุกชนิดอย่างละเอียด รวมถึงยาครีมทาผิวหนังด้วย เช่น ยาทาแก้ปวด เพราะยาเหล่านี้อาจมีส่วนประกอบของยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) หรือ Salicylates

ให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการใช้ยาอื่นๆ เพื่อบรรเทาอาการปวด ลดไข้ เช่น ยา Paracetamol

ถ้าแพทย์สั่งให้คุณรับประทานยา Aspirin ขนาดต่ำ หรือยาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น Clopidogrel, Ticlopidine เพื่อใช้สำหรับเหตุผลทางการแพทย์บางอย่าง เช่น ใช้สำหรับป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง หรือใช้สำหรับป้องกันกล้ามเนื้อหัวใจตายจากการขาดเลือด กรณีนี้ให้สอบถามแพทย์ว่าคุณควรรับประทานยาต่อ หรือต้องเปลี่ยนชนิดยา โดยให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

การได้รับยา Dabigatran เกินขนาด

หากมีใครก็ตามที่ได้รับยา Dabigatran เกินขนาด จนทำให้เกิดอาการที่ร้ายแรง เช่น หมดสติ หรือหายใจลำบาก ให้รีบเรียกรถพยาบาลทันที โทร 1669

อาการของการได้รับยาเกินขนาด อาจได้แก่ อุจจาระมีเลือด อุจจาระมีสีดำ อุจจาระคล้ายน้ำมันดิน ปัสสาวะมีสีชมพู ปัสสาวะมีสีเข้ม เลือดออกผิดปกติ เลือดออกหยุดยาก

หมายเหตุ

ห้ามแบ่งยานี้ให้ผู้อื่นใช้

อาจต้องมีการตรวจทางห้องปฏิบัติการ และ/หรือ การตรวจทางการแพทย์ เพื่อติดตามอาการและผลข้างเคียงจากยา เช่น การทำงานของไต การทำงานของตับ ระยะเวลาในการแข็งตัวของเลือด (Clotting times) โดยให้ปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

หากลืมรับประทานยา Dabigatran

ถ้าคุณลืมรับประทานยานี้ ให้รับประทานทันทีที่นึกได้ หากนึกได้เมื่อใกล้กับเวลาของมื้อถัดไป (น้อยกว่า 6 ชั่วโมง) ให้ข้ามมื้อที่ลืมไป และรับประทานมื้อถัดไปตามปกติ โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เท่า

การเก็บรักษายา Dabigatran

เก็บรักษายาที่อุณหภูมิห้อง ห่างจากแสงแดดและความชื้น ไม่เก็บยาในห้องน้ำ ให้เก็บยานี้ในภาชนะเดิมที่ได้รับมา ห้ามนำเม็ดยาไปใส่ไว้ในกล่องยาสำหรับพกพา หรือกล่องเตือนความจำ โดยให้เปิดยาใช้ทีละ 1 ขวด เมื่อขวดยาถูกเปิดแล้ว จะต้องทิ้งยาหลังพ้นระยะเวลา 4 เดือน นับจากวันที่เปิดขวดยา

แต่ถ้ายาถูกบรรจุในแผงบรรจุยา ห้ามแกะยาออกจากแผงจนกว่าจะรับประทานยา

เก็บยาทุกชนิดให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง

ไม่เทยานี้ทิ้งในห้องน้ำหรือในท่อระบายน้ำ ให้ทิ้งผลิตภัณฑ์ยานี้อย่างเหมาะสมเมื่อยาหมดอายุหรือเมื่อไม่จำเป็นต้องใช้ยานี้อีก


4 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
netdoctor, Pradaxa (dabigatran) (https://www.netdoctor.co.uk/medicines/heart-blood/a8679/pradaxa-dabigatran/), 15 July 2014.
pubchem.ncbi.nlm.nih, Pradaxa (https://pubchem.ncbi.nlm.nih.gov/compound/PRADAXA)
gov, Dabigatran (Pradaxa▼): risk of serious haemorrhage (https://www.gov.uk/drug-safety-update/dabigatran-pradaxa-risk-of-serious-haemorrhage), 11 December 2014.

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน ผู้อ่านไม่ควรเลือกใช้ยาเองจากการอ่านบทความ ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาทุกครั้ง เพราะแต่ละท่านอาจมีสาเหตุของโรค โรคประจำตัว และประวัติการรักษาที่ต่างกัน ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)