สารคัดหลั่งจากสะดือ

เผยแพร่ครั้งแรก 6 ต.ค. 2018 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 3 นาที
สารคัดหลั่งจากสะดือ

ข้อมูลทั่วไป

ฝุ่น แบคทีเรีย เชื้อรา และเชื้อโรคอื่นๆ นั้นล้วนแต่สามารถเกาะติดอยู่ในสะดือของคุณก่อนจะเพิ่มจำนวนขึ้นได้และทำให้เกิดการติดเชื้อ คุณอาจจะสังเกตว่ามีสารคัดหลั่งทั้งสีใส สีเหลือง สีน้ำตาล หรือเป็นเลือดออกจากสะดือของคุณและมักจะมีกลิ่นเหม็น ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างของสาเหตุที่ทำให้เกิดสารคัดหลั่งดังกล่าวและวิธีการรักษา

สาเหตุ

สาเหตุของการเกิดสารคัดหลั่งที่สะดือนั้นประกอบด้วยการติดเชื้อ การผ่าตัด และถุงน้ำ

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

การติดเชื้อแบคทีเรีย

โดยเฉลี่ย สะดือนั้นเป็นที่อยู่ของเชื้อแบคทีเรียเกือบ 70 สายพันธุ์ หากคุณไม่ทำความสะอาดให้ดี แบคทีเรียเหล่านี้ก็จะทำให้เกิดการติดเชื้อได้ การเจาะสะดือนั้นก็สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อได้เช่นกัน

การติดเชื้อแบคทีเรียนั้นจะทำให้เกิดสารคัดหลั่งสีเหลืองหรือเขียวที่มีกลิ่นเหม็น นอกจากนั้นยังอาจจะมีอาการปวด บวม และเป็นสะเก็ดรอบสะดือได้

การติดเชื้อรา

Candida นั้นเป็นเชื้อราที่มักพบในบริเวณที่ชื้น และมืดๆ เช่นตามข้อพับ ขาหนีบ และรักแร้ เชื้อราชนิดนี้สามารถพบในสะดือได้เช่นกันโดยเฉพาะหากคุณไม่ทำความสะอาดและไม่เช็ดให้แห้ง

การติดเชื้อราที่สะดือนั้นอาจจะทำให้เกิดผื่นแดงคันที่สะดือและอาจจะทำให้เกิดสารคัดหลั่งสีขาวข้น

โรคเบาหวาน

ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานนั้นจะมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อรามากขึ้น เนื่องจากเชื้อรานั้นทานน้ำตาลเป็ฯอาหารและการมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงก็เป็นอาการของโรคเบาหวานที่คุมได้ไม่ดี งานวิจัยหนึ่งพบว่าผู้หญิงที่เป็นโรคเบาหวานนั้นจะมีแนวโน้มที่จะติดเชื้อราในช่องคลอดได้มากกว่าผู้ที่ไมได้เป็น

งานวิจัยอื่นยังกล่าวว่าการติดเชื้อราที่บริเวณอื่นเช่นสะดือนั้นก็อาจจะพบได้บ่อยในผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

การผ่าตัด

หากคุณเพิ่งเข้ารับการผ่าตัดที่ช่องท้องเช่นการผ่าตัดไส้เลื่อน คุณอาจจะพบหนองออกมาจากสะดือได้ หากพบให้รีบไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจจะเป็นสัญญาณที่แสดงว่ามีการติดเชื้อและต้องรักษา

Urachal cyst

ในช่วงที่คุณยังเป็นทารกอยู่ในครรภ์มารดานั้น กระเพาะปัสสาวะของคุณจะเชื่อมกับสะดือผ่านทางท่อขนาดเล็กที่เรียกว่า urachus ซึ่งเป็นวิธีที่ร่างกายใช้กำจัดปัสสาวะ โดยปกติแล้วท่อนี้จะปิดก่อนคลอด แต่ในบางคนก็อาจจะปิดไม่สนิทได้

และทำให้เกิดถุงน้ำในท่อนี้ ถุงน้ำนี้สามารถเกิดการติดเชื้อได้ อาการหนึ่งของการติดเชื้อนี้ก็คือการมีสารคัดหลั่งสีขุ่นหรือเป็นเลือดออกจากสะดือ

อาการอื่นๆ ของภาวะนี้ประกอบด้วย

  • ปวดท้อง
  • มีไข้
  • คลำได้ก้อนในท้อง
  • ปวดเวลาปัสสาวะ
  • ถุงไขมัน

ถุงไขมันนั้นอาจจะคลำพบเป็นก้อนอยู่ในสะดือได้ และสามารถพบที่ส่วนอื่นๆ ในร่างกายได้เช่นกัน มันเกิดจากต่อมที่ทำหน้าที่สร้างไขมันที่ผิวหนัง

ตรงกลางถุงนี้อาจจะมีลักษณะเป็นจุดสีดำๆ หากมีการติดเชื้อที่ถุงอาจทำให้เกิดสารคัดหลั่งสีข้น เหลืองและมีกลิ่นเหม็นออกจากจุดดังกล่าว และตุ่มนั้นก็อาจจะแดงและบวม

เมื่อไหร่ที่ต้องไปพบแพทย์

คุณควรไปพบแพทย์หากคุณมีสารคัดหลั่งออกมาจากสะดือ เพราะมันอาจจะเป็นอาการของการติดเชื้อได้ โดยเฉพาะหากคุณเพิ่งเข้ารับการผ่าตัด อาการอื่นๆ ของการติดเชื้อประกอบด้วย

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง

  • มีไข้
  • แดง
  • ปวดรอบๆ ท้อง
  • ปวดเวลาปัสสาวะ

การวินิจฉัย

แพทย์จะทำการตรวจบริเวณสะดือและรอบๆ เพื่อวินิจฉัยสาเหตุ และอาจจะมีการเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งหรือเซลล์นั้นเพื่อไปตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อดูว่ามีการติดเชื้อหรือไม่

การรักษา

วิธีการรักษานั้นจะขึ้นกับสาเหตุที่ทำให้เกิดสารคัดหลั่ง

ในการรักษาการติดเชื้อ คุณจะต้องดูแลสะดือให้สะอาดและแห้ง

ใช้ผงหรือครีมฆ่าเชื้อราในการกำจัดเชื้อรา และจำกัดการรับประทานน้ำตาลจากอาหารเพราะเชื้อรานั้นทานน้ำตาลเป็นอาหาร

ในกรณีที่ติดเชื้อแบคทีเรีย แพทย์มักจะสั่งจ่ายยาปฏิชีวนะแบบทา หากคุณเป็นโรคเบาหวาน ควรคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์

การรักษา Urachal cyst

แพทย์จะเริ่มจากการรักษาการติดเชื้อด้วยยาปฏิชีวนะ และอาจจะต้องมีการเจาะน้ำออกจากถุงน้ำนั้น เมื่อสามารถกำจัดการติดเชื้อได้แล้ว อาจจะต้องมีการผ่าตัดนำถุงน้ำออกด้วยการส่องกล้อง

การรักษาถุงไขมัน

แพทย์จะทำการฉีดยาเข้าไปในถุงเพื่อลดอาการบวม หรืออาจจะกรีดเปิดเพื่อนำสารน้ำที่อยู่ภายในออกมา อีกวิธีหนึ่งก็คือการผ่าตัดหรือใช้เลเซอร์เพื่อนำถุงน้ำออก

ผลลัพธ์

ผลลัพธ์ในการรักษานั้นจะขึ้นกับสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการและความสามารถในการดูแลสะดือของคุณ คุณควรไปพบแพทย์หากมีอาการติดเชื้อเช่นบวมแดง หรือมีสารคัดหลั่งกลิ่นเหม็น และรักษาด้วยการใช้ยาปฏิชีวนะหรือยาฆ่าเชื้อรา

การป้องกัน

ในการดูแลสะดือและป้องกันการติดเชื้อ

  • ให้ทำความสะอาดทุกวันด้วยสบู่กำจัดแบคทีเรียแบบอ่อนและน้ำ ให้ใช้ผ้าหรือฟองน้ำเข้าไปเช็ดในสะดือเพื่อทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่อยู่ภายใน คุณอาจจะใช้น้ำเกลือในการทำความสะดือก็ได้
  • หลังจากอาบน้ำให้เช็ดสะดือให้แห้ง
  • อย่าทาครีมใดๆ ลงไปที่สะดือเพราะครีมเหล่านั้นจะทำให้เกิดการอุดตันและทำให้เชื้อราและแบคทีเรียเจริญเติบโตได้
  • หลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่รัด ซึ่งอาจจะทำให้สะดือเกิดการระคายเคือง แต่ให้ใส่เสื้อผ้าที่ใส่สบาย และทำจากเส้นใยธรรมชาติเช่นคอตตอน และผ้าไหม หลีกเลี่ยงการเจาะสะดือ หากคุณเจาะสะดือให้ดูแลความสะอาดบริเวณดังกล่าวเพื่อป้องกันการติดเชื้อ

18 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Belly button discharge: Causes and treatment. Medical News Today. (https://www.medicalnewstoday.com/articles/319864)
Belly Button Discharge: Causes, Treatment, and More. Healthline. (https://www.healthline.com/health/belly-button-discharge)
13 Belly Button Problems and What To Do About Them. WebMD. (https://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/ss/slideshow-belly-button-problems)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)