ความแตกต่างระหว่างการแพทย์เสริมและการแพทย์ทางเลือก

เผยแพร่ครั้งแรก 14 ม.ค. 2017 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 3 นาที
ความแตกต่างระหว่างการแพทย์เสริมและการแพทย์ทางเลือก

ถึงแม้ว่าคำศัพท์ "การแพทย์เสริม" และ "การแพทย์ทางเลือก" จะถูกใช้แทนกันในบางครั้ง แต่การแยกความแตกต่างระหว่างการแพทย์สองชนิดนี้ก็เป็นสิ่งสำคัญ

โดยทั่วไปแล้ว การแพทย์เสริม หมายถึง การแพทย์หรือวิธีการรักษาที่ไม่ใช่การรักษาหลัก ที่ใช้ร่วมกับการรักษาหลักในการรักษาโรคหรือภาวะบางอย่าง ในทางกลับกัน การแพทย์ทางเลือก หมายถึง การแพทย์และวิธีการรักษาที่ไม่ใช่ทางหลักในการนำมาใช้แทนการรักษาหลัก

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

แม้ว่าการรักษาจะได้ผล แต่หายากที่ผู้ป่วยจะไม่ใช้การรักษาหลักเลย และเลือกใช้การแพทย์ทางเลือกเพียงอย่างเดียว ทั้งนี้ การรักษาหลายชนิดที่แพทย์ทางเลือกใช้ก็ถูกใช้ในการแพทย์เสริมเช่นกัน เพื่อวัตถุประสงค์นี้แล้ว แพทย์ทางเลือกส่วนใหญ่จึงมุ่งสร้างความสัมพันธ์ทางวิชาชีพกับแพทย์แผนปัจจุบันของผู้ป่วย โดยมีวัตถุประสงค์ร่วมกันคือคำนึงถึงสุขภาพของผู้ป่วยเป็นสำคัญ

การแพทย์ทางเลือก การแพทย์เสริม และการแพทย์ผสมผสาน

ในทศวรรษนี้ การแพทย์ผสมผสานถูกเลือกใช้มากขึ้นในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ การแพทย์แบบผสมผสานจะรวมทั้งการรักษาจากการแพทย์แผนปัจจุบัน และการรักษาจากการแพทย์เสริมและการแพทย์ทางเลือกที่มีหลักฐานสนับสนุนเรื่องความปลอดภัยในการใช้รักษาแล้ว

ตามที่ NCCIH (National Center for Complementary and Integrative Health) ชี้ให้เห็น คือนักวิทยาศาสตร์กำลังหาประโยชน์ที่น่าจะได้จากการแพทย์ผสมผสานในบางสถานการณ์เช่น การระงับความเจ็บปวด ทั้งในด้านการทหาร และในผู้ป่วยโรคมะเร็ง

ทำไมคนจึงเลือกรักษาด้วยการแพทย์เสริมและการแพทย์ทางเลือก

อ้างอิงจาก NICCH กว่า 30% ของผู้ใหญ่ และ 12%ของเด็กในสหรัฐอเมริการักษาด้วยการแพทย์เสริมและการแพทย์ทางเลือก มีงานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน Oshsner Journal ในปี 2012 ที่นักวิจัยวิเคราะห์งานวิจัยที่ตีพิมพ์ก่อนหน้านี้ 16 ฉบับ ที่ทำเกี่ยวกับเรื่องการแพทย์เสริมและการแพทย์ทางเลือก ซึ่งพบว่าอาการปวดหลัง ซึมเศร้า นอนไม่หลับ ปวดศีรษะ ไมเกรน และอาการทางกระเพาะ เหล่านี้เป็นภาวะที่ถูกรักษาด้วยการแพทย์แผนดังกล่าวมากที่สุด

ในบางกรณี การรักษาแบบการแพทย์เสริมและการแพทย์ทางเลือกจะถูกใช้เพื่อรักษาผลข้างเคียงจากการรักษาแบบแผนปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น มีหลักฐานว่าการฝังเข็มและการนวดอาจมีประโยชน์ต่อผู้ที่กำลังได้รับยาเคมีบำบัดหรือผู้ที่กำลังฉายแสงเพื่อรักษาโรคมะเร็ง

ประเภทของการรักษาแบบการแพทย์เสริมและการแพทย์ทางเลือก

จากการสำรวจของ NHIS (National Health Interview Survey ซึ่งเป็นรายงานที่จัดทำขึ้นโดยศูนย์ควบคุมโรค-Centers for Disease control และ Prevention’s National Center for Health Statistics) ในปี 2012 ผู้ทำการสำรวจได้กำหนดรูปแบบการรักษาของการแพทย์ทางเสริมและการแพทย์เลือกที่ใช้กันมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา ซึ่งต่อไปนี้จะเป็นสิ่งที่พวกเขาค้นพบ

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง

1. ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ

อ้างอิงตาม NHIS ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติเป็นสิ่งที่ใช้กันมากที่สุดสำหรับการแพทย์เสริมและการแพทย์ทางเลือกในคนอเมริกัน ที่จริงแล้วการสำรวจยังพบว่า 17.7% ของผู้ใหญ่ในอเมริกาใช้อาหารเสริม (ที่นอกเหนือไปจากวิตามินและเกลือแร่) ในปีที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์เหล่านี้อาจประกอบไปด้วยสมุนไพร โพรไบโอติก (Probiotics-แบคทีเรียที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งพบในลำไส้ใหญ่) กรดไขมันโอเมก้า 3 และอาหารเสริมชนิดอื่น ๆ

2. การรักษาด้วยการเคลื่อนไหว

เทคนิคการรักษาด้วยการเคลื่อนไหวร่างกายที่สัมพันธ์กับจิต เช่น โยคะ ไทชี่ และจี้กง เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการรักษาแบบการแพทย์เสริมและการแพทย์ทางเลือกที่ใช้กันบ่อย งานวิจัยบางชิ้นยังระบุว่าเทคนิคดังกล่าวอาจช่วยในการรักษาภาวะที่ทำให้เกิดความเจ็บปวดเช่นข้อเสื่อมด้วย

3. ศาสตร์การจัดกระดูก (chiropractic หรือ osteopathic manipulation)

8.4% ของผู้ที่ได้รับการสำรวจโดย NHIS เลือกรักษาด้วยศาสตร์การจัดกระดูก โดยพบว่าการรักษานี้สามารถบรรเทาภาวะต่างๆ ได้ เช่น อาการปวดหลัง

4. ยา

8% ของผู้ที่ได้รับการสำรวจโดย NHIS ใช้ยา ซึ่งใช้รักษาบางภาวะเช่นโรคนอนไม่หลับ และโรควิตกกังวลในงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์บางชิ้นด้วย

5. การนวด

การนวดมักใช้เพื่อคลายความเครียด ซึ่งน่าจะช่วยในการรักษาภาวะบางอย่างเช่นภาวะซึมเศร้าและความดันโลหิตสูงได้ด้วย

การรักษาด้วยการแพทย์เสริมและการแพทย์ทางเลือก

การใช้การรักษาในแนวทางดังกล่าวอาจมีประโยชน์หลายอย่าง แต่ก็ควรพูดคุยกับแพทย์และผู้ให้การรักษาแก่คุณทุกคนเกี่ยวกับการรักษาชนิดต่าง ๆ ที่คุณได้รับอยู่ ทั้งนี้ก็เพื่อประโยชน์สูงสุดทางสุขภาพของคุณเอง


2 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Academic Consortium for Integrative Medicine and Health. https://www.imconsortium.org/members/members.cfm.
Complementary, alternative, or integrative health: What's in a name? National Center for Complementary and Integrative Health. National Institutes of Health. https://nccih.nih.gov/health/integrative-health.

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป
คุยกับแพทย์ของคุณเรื่องการแพทย์ทางเลือก
คุยกับแพทย์ของคุณเรื่องการแพทย์ทางเลือก

ถึงเวลาแล้วสำหรับความซื่อสัตย์และการแบ่งปันข้อมูล

อ่านเพิ่ม