อาการแข็งทื่อไม่เคลื่อนไหวคืออะไร
อาการแข็งทื่อไม่เคลื่อนไหว เป็นอาการที่ผู้ป่วยจะไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ตามปกติ และจะมีอาการร่วมด้วยหลายอาการ เช่น อาการมึนงง หรือเงียบงัน (Stupor) เมื่อเกิดอาการนี้ผู้ป่วยจะไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกาย ไม่พูด หรือไม่ตอบสนองต่อสิ่งใดๆ
อาการแข็งทื่อไม่เคลื่อนไหวสามารถเกิดขึ้นที่ใดก็ได้ โดยจะมีอาการเป็นชั่วโมงและอาจนานจนถึง 10 วัน ผู้ป่วยจะมีอาการกลับมาเป็นซ้ำได้หลายครั้ง ภายในระยะเวลาหลายสัปดาห์จนถึงหลายปี ภายหลังจากมีอาการครั้งแรก ผู้หญิงจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดอาการแข็งทื่อไม่เคลื่อนไหวมากกว่าผู้ชาย และความเสี่ยงจะสูงขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ชนิดของอาการแข็งทื่อไม่เคลื่อนไหว
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคจิตเวชได้จำแนกอาการแข็งทื่อไม่เคลื่อนไหวออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
- Retarded Catatonia : เป็นอาการแข็งทื่อไม่เคลื่อนไหวชนิดที่พบบ่อยที่สุด ผู้ป่วยจะมีอาการเคลื่อนไหวช้า นั่งนิ่งไม่เคลื่อนไหว และมักไม่พูด
- Malignant Catatonia : ผู้ป่วยจะมีอาการเพ้อ มักมีไข้ และอาจมีอาการหัวใจเต้นเร็วและความดันโลหิตสูงร่วมด้วย
- Excited Catatonia : ผู้ป่วยจะมีอาการกระสับกระส่าย กระวนกระวายใจ และบางครั้งอาจมีพฤติกรรมก้าวร้าว
อาการแข็งทื่อไม่เคลื่อนไหว มีอะไรบ้าง
อาการแข็งทื่อไม่เคลื่อนไหว อาจมีอาการร่วมได้หลายอาการ เช่น
- มึนงงและเงียบ : ผู้ป่วยไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกาย ไม่พูด จ้องออกไปในอากาศตลอดเวลา
- อาการ Waxy Flexibility : เมื่อจับให้อยู่ในท่าใดท่าหนึ่งก็อยู่ในท่านั้นนานผิดปกติคล้ายหุ่นขี้ผึ้ง
- ไม่รับประทานอาหารหรือดื่มน้ำ : เป็นสาเหตุของการขาดสารอาหารและการขาดน้ำ
- ผู้ป่วยอาจมีอาการพูดเลียนแบบผู้ที่อยู่ใกล้เคียง คือ พูดเลียนแบบเฉพาะสิ่งที่ได้ยิน
อาการแข็งทื่อไม่เคลื่อนไหวอาจบ่งบอกว่าผู้ป่วยกำลังเป็นโรคอื่น ได้แก่
- โรคจิตอย่างเฉียบพลัน (Acute Psychosis)
- สมองอักเสบ (Encephalitis)
- กลุ่มอาการเอ็นเอ็มเอส (Neuroleptic Malignant Syndrome (NMS))
- ภาวะชักต่อเนื่องโดยที่ไม่มีอาการเกร็งกระตุก (Nonconvulsive Status Epilepticus)
สาเหตุของอาการแข็งทื่อไม่เคลื่อนไหว
สาเหตุที่พบบ่อยของอาการแข็งทื่อไม่เคลื่อนไหว ได้แก่
- ความผิดปกติทางจิตและอารมณ์ (Mental Disorders)
- ความเจ็บป่วยทางจิตจากเหตุการณ์ที่รุนแรง (Post-Traumatic Stress Disorder)
- โรคพาร์กินสัน (Parkinson’s Disease)
นอกจากนี้อาจพบสาเหตุที่พบได้ไม่บ่อยของอาการแข็งทื่อไม่เคลื่อนไหว ได้แก่
- การใช้ยารักษาโรคทางจิตเวชบางชนิด
- การหยุดใช้ยาบางชนิด เช่น ยา Clozapine
- ความผิดปกติที่สมอง โดยเฉพาะที่บริเวณสมองกลีบหน้า (Frontal Lobes) หรือสมองส่วนทาลามัส (Thalamus)
- การใช้ยาเสพติด เช่น โคเคน (Cocaine)
- มีภาวะซึมเศร้าหลังคลอด (Postpartum Depression) ในผู้หญิง
การวินิจฉัยอาการแข็งทื่อไม่เคลื่อนไหว
ก่อนการวินิจฉัยอาการแข็งทื่อไม่เคลื่อนไหว ผู้ป่วยจะต้องมีอาการแข็งทื่อไม่เคลื่อนไหวอย่างน้อย 24 ชั่วโมง และมีอาการเด่น 2 อาการขึ้นไป แพทย์จึงจะวินิจฉัยว่ามีอาการแข็งทื่อไม่เคลื่อนไหว
อย่างไรก็ตาม ยังไมมีวิธีการทดสอบที่จำเพาะเจาะจงสำหรับวินิจฉัยอาการแข็งทื่อไม่เคลื่อนไหว ดังนั้น แพทย์จะทำการตรวจร่างกายและส่งตรวจต่างๆ เพื่อวินิจฉัยแยกโรคอื่นๆ ออกไปก่อน เช่น
- การทำแบบทดสอบ The Bush-Francis Catatonia Rating Scale (BFCRS) : นิยมใช้วินิจฉัยอาการแข็งทื่อไม่เคลื่อนไหว โดยจะมีทั้งหมด 23 ข้อ คะแนนตั้งแต่ 0-3 โดย 0 คะแนน หมายถึง ไม่มีอาการ ส่วน 3 คะแนน หมายถึง มีอาการมาก ผู้ป่วยที่มีคะแนนจากแบบทดสอบ BFCRS สูง มักตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาในกลุ่ม Benzodiazepine เป็นอย่างดี
- การตรวจเลือด (Blood Test) : จะช่วยบอกได้ว่ามีสภาวะสมดุลเกลือแร่ผิดปกติหรือไม่ เพราะสมดุลเกลือแร่ผิดปกติเป็นสาเหตุของความผิดปกติทางอารมณ์ นอกจากนี้ยังสามารถตรวจหาโรคลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด (Pulmonary Embolism) โรคชนิดหนึ่งที่ก่อให้เกิดอาการแข็งทื่อไม่เคลื่อนไหวได้
- การตรวจซีทีสแกน (CT scan) หรือ การตรวจเอ็มอาร์ไอ (MRI) : เป็นการสแกนถ่ายภาพสมอง เพื่อช่วยให้แพทย์พิจารณาได้ว่ามีเนื้องอกในสมอง หรือมีภาวะสมองบวมหรือไม่
การรักษาอาการแข็งทื่อไม่เคลื่อนไหว
อาการแข็งทื่อไม่เคลื่อนไหว สามารถรักษาได้ด้วย 2 วิธี คือ
การรักษาด้วยการใช้ยา : การใช้ยามักเป็นการรักษาแรกที่ใช้สำหรับรักษาอาการแข็งทื่อไม่เคลื่อนไหว ยาที่แพทย์มักนำมาใช้ในการรักษาอาการนี้ ได้แก่
- Amobarbital
- Benzodiazepines เช่น Clonazepam, Lorazepam และ Midazolam
- Bromocriptine
- Carbamazepine
- Lithium Carbonate
- ยาคลายกล้ามเนื้อ (Muscle Relaxants)
- Reserpine
- ไทรอยด์ฮอร์โมน (Thyroid Hormone)
- ยาต้านเศร้ากลุ่ม Tricyclic Antidepressants
- Zolpidem
การรักษาทางเลือก : การรักษาด้วยไฟฟ้า (Electroconvulsive therapy (ECT)) : ทำการรักษาในโรงพยาบาลภายใต้การดูแลของแพทย์ เป็นการรักษาที่ไม่เจ็บปวด ถ้าผู้ป่วยไม่ตอบสนองต่อการใช้ยา หรืออาการแย่ลงหลังใช้ยา แพทย์อาจแนะนำให้ใช้วิธีนี้ในการรักษาแทน ซึ่งผู้ป่วยได้รับยาช่วยให้ผ่อนคลาย ก่อนจะได้รับกระแสไฟฟ้าผ่านเข้าไปยังสมอง สำหรับกระตุ้นให้ผู้ป่วยมีอาการชักเป็นเวลานาน 1-2 นาที เพื่อเปลี่ยนแปลงการไหลเวียนของสารสื่อประสาทในสมอง
การป้องกันอาการแข็งทื่อไม่เคลื่อนไหว
เนื่องจากสาเหตุของการเกิดโรคยังไม่แน่ชัด การป้องกันไม่ให้เกิดอาการแข็งทื่อไม่เคลื่อนไหว จึงเป็นไปได้ยาก อย่างไรก็ตามผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงการรับประทานยารักษาโรคทางจิตเวชในปริมาณที่มากเกินไป เช่น Thorazine เพราะการใช้ยาอย่างไม่ถูกต้อง อาจเป็นสาเหตุของอาการแข็งทื่อไม่เคลื่อนไหวได้
ที่มาของข้อมูล
Rachel Nall, What Causes Catatonia? (https://www.healthline.com/symptom/catatonia), November 26, 2013.