กองบรรณาธิการ HD
เขียนโดย
กองบรรณาธิการ HD

คาเฟอีน ผลกระทบจากเครื่องดื่ม และการสูญเสียแคลเซียม

เผยแพร่ครั้งแรก 28 มี.ค. 2017 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 2 นาที
คาเฟอีน ผลกระทบจากเครื่องดื่ม และการสูญเสียแคลเซียม

คาเฟอีน เป็นสารเคมีประเภทหนึ่งที่มีในอาหาร และเครื่องดื่มบางอย่างเท่านั้น และด้วยฤทธิ์ในการช่วยกระตุ้นให้เกิดความตื่นตัวของคาเฟอีนนี่เองที่ทำให้หลายคนเสพติดความรู้สึกดังกล่าว จนจำเป็นต้องได้รับทุกวัน ไม่เช่นนั้นแล้วจะไม่สามารถที่จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่อย่างไรก็ตามใช่ว่าคาเฟอีนจะให้ความสดชื่นกับเราอย่างเดียวเท่านั้น เพราะผลข้างเคียงของสารกระตุ้นอย่างคาเฟอีนก็มีไม่น้อยเหมือนกัน และในวันนี้เราจะมานำเสนอเรื่องราวของคาเฟอีนในมุมที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ให้ได้ทราบกัน

คาเฟอีนเป็นยาขับปัสสาวะอย่างอ่อน

ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมเมื่อเราดื่มกาแฟ หรือชาที่มีคาเฟอีนเข้าไป แล้วจะรู้สึกปวดปัสสาวะบ่อยมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามหากไม่ได้รับคาเฟอีนในปริมาณที่มากเกินไป ก็ไม่ได้ทำให้เสี่ยงกับการที่ร่างกายของเราจะขาดน้ำได้ และสำหรับนักกีฬา หรือคนที่อาจจะอยู่ในสถานการณ์ที่จะทำให้เกิดการเสียน้ำในร่างกายทางอื่นนอกจากปัสสาวะแล้ว แนะนำว่าให้งดคาเฟอีนในช่วงดังกล่าว เพื่อไม่ให้ร่างกายเกิดการสูญเสียน้ำมากเกินไปจะดีกว่า

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ผลิตภัณฑ์สำหรับเข่าและกระดูก สูตรเฉพาะ รวมสารสกัดที่ผ่านงานวิจัย คอลลาเจน UC-II ขมิ้นชัน งาดำ และวิตามิน

ซื้อผ่าน HD ประหยัดกว่า / ราคาพิเศษสำหรับ นศ. / ผ่อน 0% / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

คาเฟอีนเสี่ยงกับการสูญเสียแคลเซียม

การรับคาเฟอีนจะทำให้ร่างกายเสี่ยงกับการสูญเสียแคลเซียม สำหรับคนที่ไม่ชอบดื่มนม แต่รักในการดื่มกาแฟ หรือเครื่องดื่มประเภทอื่น ๆ ที่มีคาเฟอีน สิ่งที่คุณต้องรับรู้ก็คือ การได้รับคาเฟอีนติดต่อกันเป็นประจำ โดยเฉพาะในระยะเวลาที่นานๆ จะทำให้เกิดการสูญเสียแคลเซียมมากขึ้นเรื่อยๆ และยิ่งไปกว่านั้นคือ อาจจะทำให้เกิดการสูญเสียมวลกระดูก ซึ่งนำไปสู่ภาวะกระดูกพรุนได้ในที่สุด

ปริมาณคาเฟอีนที่เหมาะสม

สำหรับคนแต่ละช่วงอายุ แต่ละวัยนั้นย่อมไม่เหมือนกัน ซึ่งจากข้อมูลของผู้เชี่ยวชาญได้ทำการสรุปไว้อย่างน่าสนใจ ดังนี้

  • วัยผู้ใหญ่ ปริมาณของคาเฟอีนที่เหมาะสมในแต่ละวันคือ ไม่เกิน 200-300 มิลลิกรัม ขึ้นอยู่กับความไวของร่างกายในการตอบสนองต่อคาเฟอีนด้วย
  • วัยรุ่น การได้รับคาเฟอีนที่ 100 มิลลิกรัม ต่อคน ต่อวัน ก็ถือว่าเพียงพอแล้วสำหรับการกระตุ้นให้ระบบประสาทตื่นตัว

 

[caption id="" align="aligncenter" width="700"]

ผงกาแฟ[/caption]

สำหรับคนที่ติดคาเฟอีน เมื่อไม่ได้รับคาเฟอีนจากสิ่งที่เคยรับประทานอย่างเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่ม หรือ อาหาร อาจจะส่งผลทำให้เกิดอาการหงุดหงิด เหนื่อยง่าย และรู้สึกง่วงมากกว่าปกติ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถที่จะชดเชยได้ด้วยการพยายามพักผ่อนให้เพียงพอ และสร้างความกระฉับกระเฉงให้กับตนเองได้ด้วยวิธีการง่าย ๆ อย่างเช่น การออกกำลังกาย เป็นต้น

ถึงแม้จะเป็นเรื่องจริง กับการที่คาเฟอีนสามารถช่วยให้เราตื่นตัว เพื่อทำกิจกรรมต่างๆได้มากขึ้น แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า การได้รับคาเฟอีนเข้าสู่ร่างกายในบางครั้ง อาจจะทำให้ร่างกายของเราทำงานผิดปกติได้เหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนที่ต้องทานยา หรือวิตามินอื่น ๆ เป็นประจำด้วยแล้ว คาเฟอีนอาจจะทำปฏิกิริยากับสิ่งที่เราได้รับประทานเข้าไป จนทำให้หัวใจของเราทำงานมากกว่าปกติ  ซึ่งไม่ส่งผลดีเป็นแน่ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีแนวโน้มเป็นโรคต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบหัวใจ และการไหลเวียนโลหิตเป็นหลัก


3 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Sodas, Tea and Coffee: Which Can Make Your Bones Brittle?. Health Essentials from Cleveland Clinic. (https://health.clevelandclinic.org/sodas-tea-coffee-can-make-bones-brittle/)
Effects of caffeine on bone and the calcium economy. National Center for Biotechnology Information. (https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/12204390)
Osteoporosis Diet Dangers: Foods to Avoid. WebMD. (https://www.webmd.com/osteoporosis/features/diet-dangers#1)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป
10 อาหารสุขภาพที่มีวิตามิน E สูง
10 อาหารสุขภาพที่มีวิตามิน E สูง

รวบรวมอาหารเพื่อสุขภาพที่อุดมด้วยวิตามิน E เพื่อจะได้เติมประโยชน์ได้ร่างกายกันได้ง่ายขึ้น

อ่านเพิ่ม