จะดูแลฟันของลูกให้แข็งแรงได้อย่างไร

เผยแพร่ครั้งแรก 5 ก.พ. 2019 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 ตรวจสอบความถูกต้อง 15 มี.ค. 2019 เวลาอ่านประมาณ 2 นาที
จะดูแลฟันของลูกให้แข็งแรงได้อย่างไร

การดูแลฟันที่ถูกต้องตั้งแต่ต้นจะทำให้สุขภาพฟันของลูกแข็งแรง วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับฟันของลูกกันว่าเมื่อไหร่ฟันของลูกจะเริ่มขึ้น เราควรจะทำความสะอาดฟันลูกอย่างไร จะเริ่มให้แปรงฟันให้ลูกได้เมื่อไหร่ และเราควรเสริมฟลูโอไรด์ให้กับลูกดีไหม ลองมาดูรายละเอียดกัน

ฟันซี่แรกของลูกจะเริ่มขึ้นเมื่อลูกอายุประมาณ 5 - 8 เดือน โดยเป็นฟันซี่กลางส่วนหน้า โดยฟันซี่ด้านล่างจะขึ้นก่อน แล้วจะขึ้นจนครบ 4 ซี่ เป็นคู่ๆ บนล่างด้านหน้า เราควรทำความสะอาดโดยใช้ผ้าชุบน้ำอุ่น หรือแปรงขนาดเล็กที่ขนแปรงอ่อนนุ่มชุบน้ำอุ่นเช็ดทำความสะอาดฟันตอนเช้าและก่อนนอน

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ทำฟันเด็กวันนี้ ที่คลินิกใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 290 บาท ลดสูงสุด 52%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

ฟันด้านล่างจะขึ้นเพิ่มอีกเป็น 8 ซี่เมื่อลูกอายุ 9 - 12 เดือน

ฟันจะขึ้นเพิ่มเป็น 16 ซี่เมื่อลูกอายุถึง 12 - 20 เดือน ในช่วงนี้ควรใส่ใจกับฟันของลูกให้มาก เด็กบางคนอยากแปรงฟันเอง ควรให้เด็กลองแปรงเอง ระยะนี้เด็กบางคนจะยอมใช้ยาสีฟันได้บ้างแล้ว เราควรที่จะฝึกให้ลูกแปรงฟันให้เป็นนิสัย

ฟันจะขึ้นเป็น 20 ซี่เมื่อลูกอายุประมาณ 20 - 36 เดือน ถ้าลูกเริ่มแปรงฟันได้เองอย่างถูกต้องแล้วเราควรปล่อยให้ลูกแปรงเองในช่วงเช้า ส่วนตอนเย็นคุณพ่อคุณแม่ควรแปรงให้ เพราะเด็กแปรงเองอาจจะยังไม่สะอาดเท่าที่ควร หรืออาจจะแปรงฟันร่วมกับลูก โดยระหว่างแปรงฟันคุณควรจะสอนและสังเกตุลูกด้วยว่าลูกแปรงฟันได้ถูกต้องหรือไม่ และเมื่อลูกอายุ 5-6 ปี เราก็ปล่อยให้ลูกแปรงฟันเองวันละ 2 ครั้งได้แล้ว

ทำไมลูกถึงฟันผุ

สาเหตุหลักที่ทำให้ลูกฟันผุเกิดจากน้ำตาลในอาหาร เมื่อลูกทานอาหารแล้วแปรงฟันไม่สะอาด น้ำตาลที่หลงเหลืออยู่ที่คราบฟันจะมีผลทำให้ฟันของลูกผุ เราควรใช้ผ้าชุบน้ำมาเช็ดทำความสะอาดฟันของลูกหลังทานอาหาร และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาล หรือทำความสะอาดฟันทันทีหลังจากลูกทานอาหารที่มีน้ำตาล

เราควรเสริมฟลูโอไรด์ให้กับลูกไหม

ก่อนที่เราจะเสริมฟลูโอไรด์ เราควรทราบก่อนว่า ฟลูโอไรด์คืออะไร ฟลูโอไรด์ (Fluoride) เป็นธาตุชนิดหนึ่งในลำดับที่ 13 ในตารางธาตุ ซึ่งพบได้ในธรรมชาติทั้งในสิ่งมีชิวิตและไม่มีชีวิต โดยคุณสมบัติหลักของฟลูโอไรด์ คือ จะช่วยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์หลายตัว และช่วยป้องกันฟันผุได้ แต่หากลูกทานอาหารที่มีน้ำตาลแล้วไม่ทำความสะอาดฟัน แม้จะมีฟลูโอไรด์ก็ไม่สามารถช่วยได้ ปัจจุบันนี้ยาสีฟันยี่ห้อต่างๆ ก็มักจะผสมฟลูโอไรด์อยู่แล้ว และเด็กอาจจะได้รับฟลูโอไรด์จากอาหารเช่น อาหารทะเล และนม จึงไม่จำเป็นต้องให้ลูกทานฟลูโอไรด์เสริม เพราะถ้าลูกได้รับฟลูโอไรด์มากเกินไปจะทำให้ฟันไม่ขาวนวล และผิวฟันขรุขระ เปราะง่าย ดังนั้นหากเราให้ลูกแปรงฟันด้วยยาสีฟันที่เหมาะสมกับเด็กโดยมีส่วนผสมของฟลูโอไรด์ และให้ลูกทานอาหารครบ 5 หมู่ ลูกก็ไม่จำเป็นต้องเสริมฟลูโอไรดฺ์

ปริมาณฟลูโอไรด์ที่ลูกควรได้รับเสริมในแต่ละช่วงอายุ

  • ในกรณีที่ลูกได้รับฟลูออไรด์จากสารอาหาร และน้ำดื่มปริมาณน้อย อาจเสริมฟลูออไรด์ตามช่วงอายุได้ดังนี้
  • อายุ 0 - 6 เดือน ควรได้รับฟลูโอไรด์ 0 มิลลิกรัม
  • อายุ 6 - 18 เดือน ควรได้รับฟลูโอไรด์ 0.25 มิลลิกรัม
  • อายุ 18 - 36 เดือน ควรได้รับฟลูโอไรด์ 0.5 มิลลิกรัม
  • อายุ 3 - 6 ปี ควรได้รับฟลูโอไรด์ 0.75 มิลลิกรัม
  • อายุ 6 ปีขึ้นไป ควรได้รับฟลูโอไรด์ 1 มิลลิกรัม

3 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
โรคฟันในเด็ก. (www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/...)
รศ.ทพญ. ประภาศรี ริรัตนพงษ์, การพัฒนาการและลำดับการขึ้นของฟันในชุดฟันผสม. (Elearning.dt.mahidol.ac.th/dtdocs...)
Recommendations for Using Fluoride to prevent and control dental caries in the united states. (Cdc.gov/mmwr/preview/mmwrhtml...)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)