June 14, 2018 19:57
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
โดยส่วนใหญ่แล้วมะเร็งลำไส้จะเกิดขึ้นในผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปครับ โอกาสที่จะเกิดมะเร็งลำไส้ในช่วงวัยรุ่นนั้นเป็นไปได้ยากมาก โดยเฉพาะถ้าไม่มีประวัติคนเป็นมะเร็งลำไส้ในครอบครัว
และอาการของมะเร็งลำไส้ก็จะไม่ได้มีเพียงแค่อาการท้องผูกอย่างเดียวเท่านั้น
อาการมักจะมีหลายๆอาการประกอบกัน ได้แก่ ถ่ายอุจจาระในลักษณะท้องผูกสลับท้องเสีย ถ่ายมีมูกปนเลือด ถ่ายอุจจาระลำเล็กลง น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
อาการท้องผูกเป็นประจำสามารถเป็นเพียงแค่โรคท้องผูกธรรมดาได้ครับ
การรักษาอาการท้องผูกที่สำคัญที่สุดไม่ใช่การกินยาถ่ายครับ แต่เป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ได้แก่
- พยายามขับถ่ายให้เป็นเวลา เช่น ถ่ายทุกวันตอนเช้า
- ไม่กลั้นอุจจาระเมื่อมีอาการปวด
- ดื่มน้ำมากๆ
- รับประทานผักและผลไม้ให้มากๆ
ถ้าปรับพฤติกรรมเบื้องต้นแล้วอาการไม่ดีขึ้น แนะนำให้ไปพบแพทย์ครับ ไม่ควรซื้อยารับประทานเอง
การรับประทานยาถ่ายบ่อยจนเกินไปมีผลเสียทำให้ลำไส้เกิดการเคยชินกับการใช้ยาถ่ายครับ ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้เกิดอาการท้องผูกได้มากขึ้น เพราะเมื่อหยุดใช้ยาถ่ายก็จะถ่ายไม่ออกครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
เคยลองมาทุกอย่างแล้วดื่มน้ำเยอะ ดินผักผลไม้ แต่ว่ามันก็ยังถ่ายไม่ดีขึ้นค่ะได้แต่ปัสสาวะบ่อย
แล้วก็เคยกินยาลดน้ำหนักมาเยอะด้วยมีผลม้้ยคะเพราะที่กินหลายตัวส่วนใหญ่ทานแล้วไม่ลด
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ถ่ายที3-4วันครั้งบางทีอาทิตละครั้งแล้วเวลาออกกำบังกายควบคุมอาหารลดนน.พอไม่ถ่ายท้องนน.ก็ไม่ยอมลด
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ในปัจจุบันไม่มียาลดน้ำหนักตัวใดที่มีหลักฐานว่าสามารถใช้ลดน้ำหนักได้อย่างได้ผลครับ
และยาลดน้ำหนักส่วนใหญ่ที่มีขายอยู่ในท้องตลาดก็มักเป็นยาที่ไม่ได้รับการรับรองให้ใช้เป็นยาแผนปัจจุบัน รวมถึงมักมีส่วนประกอบหลายๆชนิดที่อาจส่งผลเสียหรืออันตรายกับร่างกายได้
ดังนั้นก็คงต้องบอกว่าการรับประทานยาลดน้ำหนักอาจส่งผลให้มีอาการท้องผูกได้ครับ เนื่องจากไม่สามารถทราบได้ว่าในตัวยามีส่วนประกอบเป็นอะไรอยู่บ้าง
นอกจากนี้อาการท้องผูกที่เป็นอยู่ก็อาจเป็นผลต่อเนื่องมาจากการใช้ยาถ่ายมาเป็นเวลานานได้เช่นกันครับ
ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารและการขับถ่ายให้ถูกสุขลักษณะ"อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ"ครับ เนื่องจากเป็นสาเหตุส่วนใหญ่ของอาการท้องผูก
ถ้าปรับพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอและถูกต้องแล้วจริงๆ อาการท้องผูกก็ยังไม่ดีขึ้น ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุทางกายอื่นๆเพิ่มเติม รวมถึงพิจารณาการให้ยาเพื่อช่วยในการขับถ่ายอย่างเหมาะสมครับ
ตัวอย่างของสาเหตุทางกายที่ทำให้เกิดอาการท้องผูกได้(แต่เป็นสาเหตุส่วนน้อย) เช่น
- ฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ
- ฮอร์โมนพาราไทรอยด์สูง
- เบาหวาน
- ความผิดปกติของระบบประสาทที่ใช้ควบคุมการขับถ่าย
- โรคของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่ผิดปกติ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ไม่ถ่ายท้องค่ะเครียดมากอาการนี้เริ่มเป็นตอนป.5-6 แต่ว่าเริ่มมาหนักช่วง มัธยม แล้วเวลาไม่ถ่ายก็ซื้อยาถ่ายมาทานเองหลายขนานเรยยาเม็ด ยาต้มสมุนไพรตอนกินก็ถ่ายพอไม่ได้กินก็ไม่ถ่ายเวลาถ่าย กลัวว่าลำไส้มันจะทำงานเองไม่ได้เพราะกินยากระตุ้นบ่อยเวลากินยาถ่ายออกมาก็น้อย(เป็นคนกินเยอะ)ไปอ่านในเน้ตเขาบอกว่าถ้าไม่ถ่ายจะเป็นมะเร็งลำไส้ทีนี้เครียดหนักเรยค่ะกำลังเรียนยุด้วย เคยทานยาลดนน.มาก่อน
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)