ตั้งแต่หยุดกินยาคุมแบบรายเดือน ประจำเดือนมาบ่อย มาทุกๆสัปดาห์ มาครั้งละประมาณ2-3วัน สาเหตุเกิดจากอะไร มีความผิดปกติมั่ยค่ะ และควรแก้ไขหรือไม่อย่างไร

สวัสดีค่ะ

กรณีที่ประจำเดือนมาบ่อย มาทุกสัปดาห์ ครั้งละ 2-3 วัน อาจคิดถึงเลือดออกทางช่องคลอดที่ปกติได้นะคะ โดยอาจคิดถึงได้จากหลายสาเหตุ เช่น
-ฮอร์โมนแปรปรวน
-เกิดความเครียด
-ช่องคลอดหรือเยื่อบุโพรงมดลูกอักเสบ
-เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
-เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ
-ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ
-มีติ่งเนื้อ เนื้องอก หรือมะเร็ง
ยังไงกรณีนี้หมอแนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อทำการตรวจประเมินหาสาเหตุอีกทีค่ะ และจะได้ทำการวางแผนรักษาต่อไปค่ะ

สวัสดีครับ
จากประวัติแล้วหากหยุดทานยาคุมแบบรายเดือนมาแล้วมีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดที่ไม่ใช่ประจำเดือนสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการที่ระดับฮอร์โมนผิดปกติครับ ส่วนสาเหตุอื่นๆที่พบได้ เช่น
- มีติ่งเนื้อในมดลูก
- มดลูกโตจากเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
- เนื้องอกกล้ามเนื้อในมดลูก
- การเจริญของเยื่อบุโพรงมดลูกผิดปกติ
- มะเร็ง
- ภาวะการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ
- การตกไข่ผิดปกติ เช่น โรค PCOS, โรคไทรอยด์
- การทานยาบางชนิด
สาเหตุต่างๆที่ได้กล่าวไปเป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น โดยการวินิจฉัยต้องอาศัยการซักประวัติ และตรวจร่างกายเพิ่มเติมอีกครับ ดังนั้นควรไปพบสูตินรีแพทย์ที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจและให้การรักษาครับ

สวัสดีครับ
โดยปกติแล้วประจำเดือนแต่บะรอยควรจะมาห่างกันในระยะ 21-35 วันครับ การที่มีเลือดออกมาทางช่องคลอดทุกสัปดาห์นั้นอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
- มีระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- มีแผลในช่องคลอด
- มีการอักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน
- โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางอย่าง
- เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดปกติ
- เนื้องอกบางอย่าง

ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจภายในประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ