May 12, 2019 06:46
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
สวัสดีค่ะ สำหรับโรคไบโพล่าร์แล้ว จะต้องมีอาการManic หรืออารมณ์คึกคัก อย่างน้อย1สัปดาห์ สลับกับอาการซึมเศร้า อารมณ์คึกคักที่ว่านี้ได้แก่ เชื่อมั่นตัวเองมาก นอนน้อย พูดมากขึ้น ความคิดแล่น วอกแวก กระสับกระส่าย หากิจกรรมทำโดยไม่คิดผลที่จะตามมา ถ้ามีอาการที่กล่าวมาอย่างน้อย3ข้อ หรือ4ข้อหากมีเพียงอารมณ์หงุดหงิด สลับกับอาการซึมเศร้า ให้ไปพบจิตแพทย์ค่ะ กรณีมีอาการตลอดเนื่องจากหยุดยาเอง ร้องไห้บ่อย อยู่คนเดียวไม่ได้ กรณีนี้หมอแนะนำให้ไปพบจิตแพทย์ก่อนนะคะ แพทย์จะให้ยาและทำจิตบำบัดร่วมด้วย และไม่ควรหยุดยาเองระหว่างทำการรักษา ควรทานยาให้ครบคอร์สค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
กลัวถ้าไปพบแพทย์แล้วจะโดนหลอกให้ไปอยู่โรงพยาบาลอีก ครั้งก่อนไปอยู่ 16วัน ตอนนี้กลัวจะโดนแบบนั้นอีก อาการทำอะไรลงไปแบบไม่เคยคิดถึงผลที่จะตามมาที่หลังมีค่ะ นอนเยอะ พอตื่นขึ้นมา กินข้าวทุกๆ2ชั่วโมงที่ตื่น เริ่มหนึกขึ้น3วันมานี้หนู่ร้องไห้บ่อยขึ้นตอนอยู่คนเดียว และไม่อยากเจอใคร
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
การรักษาไม่ต่อเนื่อง หยุดยาเอง มีโอกาสทำให้อาการกลับเป็นซ้ำได้นะคะ
ในกรณีนี้แนะนำให้พบจิตแพทย์ เริ่มต้นรักษาใหม่อีกครั้ง การรักษาคุรหมอจะใช้ยาเพื่อปรับสมดุลสารเคมีในสมอง จะช่วยให้ควบคุมความคิด อารมณื และพฤติกรรมได้เหมาะสมมากขึ้น และอาจทำจิตบำบัดเพื่อฟื้นฟุสภาพจิตใจให้ปรับตัวต่อปัยหาหรือเหตุการณ์เลวร้ายที่ผ่านมาได้ดีขึ้นค่ะ
โรคเหล่านี้จะไม่สามารถหายได้เอง และหากปล่อยให้อาการเรื้อรัง จะทำให้โรคพัฒนามีอาการรุนแรงมากขึ้นจนทำให้รักษายากนะคะ
และหากในตอนนี้อาการของหนุยังไม่รุนแรงมาก คุณหมออาจจะรักษาแบบผู้ป่วยนอก ไปรับยาแล้วกลับบ้านไม่ต้องไปนอน รพ.ก็ได้ค่ะ แต่หากอาการรุนแรงมาก จนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ และมีความเสี่ยงที่จะทำร้ายตัวเองหรือคนรอบข้าง กรณีเช่นนี้อาจจะต้องพักรักษาตัวอยู่ใน รพ.เพื่อให้อาการดีขึ้นก่อนนะคะ
ในระหว่างทำการรักษา สิ่งสำคัญเลยคือควรทานยาอย่างสม่ำเสมอ และโดยมากผู้ป่วยมักจะไม่ทานยาเนื่องจากคิดว่าหายแล้ว หรือไม่ทานเพราะมีอาการข้างเคียงจากยาที่ทำให้รู้สึกไม่สบายตัว แต่ในกรณีเช่นนี้หากทานยาแล้วมีอาการข้างเคียงก็ควรไปพบแพทยืก่อนนัด ให้คุณหมอปรับยาให้เหมาะสม หมั่นออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงจากสารเสพติดและสารกระตุ้นทุกชนิด จะช่วยให้การรักษาได้ผลดียิ่งขึ้นค่ะ เมื่อาการดีขึ้นคุณหมอจะค่อยปรับลดยาให้ทีน้อย และเมื่อประเมินแล้วเห้นว่า อาการกลับมาเป็นปกติ 100 เปอรืเซนต์ ก็จะสั่งหยุดยาให้ และยังคงต้องนัดเพื่อเฝ้าระวังอาการกลับเป็นซ้ำของโรคด้วยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
สวัสดีครับ
จริงๆไม่อยากให้กลัวในเรื่องของการอยู่โรงพยาบาลนะครับเพราะการอยู่โรงพยาบาลเป็นเพียงแค่หนึ่งในวิธีการในการบำบัดรักษาฟื้นฟูครับ โรคไบโพล่าร์เป็นโรคที่มีความท้าทายในการรับมือ และควรจะต้องอาศัยการทานยาและการได้รับการรักษาด้วยวิธีการอื่นๆควบคู่กันไปด้วย เช่นการรับคำปรึกษาเชิงจิตวิทยา และการปรับเปลี่ยน lifestyle หรือพฤติกรรมบางอย่างที่จะช่วยทำให้อาการของโรคเองลดลงนะครับ ซึ่งการจะเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นอาจจะต้องอาศัยระยะเวลา แต่หากว่าคุณค่อยๆเป็นค่อยๆไป ตัวไบโพล่าร์นี้จะเข้ามากระทบกับการใช้ชีวิตของคุณน้อยลงครับ
ส่วนในเรื่องของการคิดถึงเหตุการณ์บางอย่างที่เฝ้าย้ำคิดถึงอยู่ตลอดนั้น ผมคิดว่าอาจจะเป็นเรื่องของการที่คุณได้เจอกับเหตุการณ์บางอย่างที่กระทบกระเทือนจิตใจมากเลยทำให้เหตุการณ์เหล่านั้นกลับเข้ามาในหัวบ่อยๆ ซึ่งตรงนี้อยากจะแนะนำให้ลองเข้ารับการพูดคุยกับนักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์ดูนะครัย เพราะการที่คุณได้พูดมันออกมาตรงนี้ก็เป็นวิธีการหนึ่งที่จะช่วยให้คุณสามารถก้าวผ่านเรื่องพวกนี้ไปได้
นอกจากการเข้าพบผู้เชี่ยวชาญ ผมขอเพิ่มเติมว่า การปรับพฤติกรรมก็อาจจะช่วยคุณได้ในนะครับ โดยคุณสามารถลองทำกิจกรรมที่เคยสนใจหรือทำแล้วรู้สึกว่าทำให้ผ่อนคลายหรือทำให้รู้สึกดีขึ้นได้บ้าง หาเวลาที่ตนเองจะรู้สึกสงบ รู้สึกดี หรือรู้สึกสนุกผ่อนคลายให้ และแบ่งเวลาไปอยู่กับสิ่งๆนั่นครับ นอกจากนั้นอาจจะลองมองดูกิจกรรมที่สามารถทำเป็นประจำได้เช่น การออกลังกาย การฟังเพลง หรือการทำงานอดิเรกบางอย่าง ทานอาหารให้ครบหมู่ ออกไปทานของอร่อยๆบ้าง ซึ่งตรงนี้ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่มีส่วนช่วยให้ความคิดที่คุณมีลดน้อยลงได้บ้าง คล้ายๆกับการพักฟื้นให้สภาพจิตใจของตนเองค่อยๆมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งการดูแลตนเองควบคู่กันไปด้วยกับการรับการช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต จะเป็นการฝึกเพื่อให้คุณสามารถรับมือกับเรื่องต่างๆที่เข้ามาในชีวิตได้ในระยะยาวครับ
สุดท้ายนี้หากรู้สึกว่าต้องการจะพูดคุยกับใครซักคนหนึ่งแต่ยังไม่ต้องการที่จะพบกับจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุณจะสามารถโทรเข้าไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ได้ซึ่ง ข้อเสียคืออาจจะต้องมีการรอสายที่นานในบางช่วงเวลานะครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หนูเป็นโรคไบโพลาร์เคยได้รับการรักษามาแล้ว แต่หยุดยา อาการจะมีอยู่ตลอดเรื่อยๆ ตอนนี้หนูโดนเหตุการ์ณ์ตามหลอกหลอนหนูมากจนอยู่คนเดียวไม่ได้ อยู่คนเดียวก็ร้องไห้ คิดแต่เหตุการ์ณนั้น คุณหมอมีวิธีช่วยให้หนูลืมเหตุการนั้นได้มั้ยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)