คุณหมอคะ หนูกำลังเรียนอยู่ค่ะ หนูมีแฟนเป็นรุ่นพี่ หนูยังไม่เคยมีไรกับแฟนค่ะ แต่พอคบกันมานานแฟนขอมีอะไรด้วยและบางทีอยู่ด้วยกันสองคนอารมณ์มันก็พาไป(แต่หนูยังควบคุมตัวเองได้ไม่เกินเลย) แต่ในอนาคต/ม่แน่ ที่หนูกลัวที่สุดเลยคือการท้องในวัยเรียนค่ะ ตอนนี้หนูกินยาคุมแผง 28 เม็ดแผงแรกเผื่อไว้ และน่าจะกินไปเรื่อยๆ ถ้าเกิดว่าหนูมีอะไรกับแฟนให้แฟนใส่ถุงยาง+กับหนูกินยาคุมด้วย มันป้องกันได้กี่เปอร์เซ็นคะ แล้วถ้าเกิดว่าหลังมีอะไรหนูกินยาคุมฉุกเฉินเพิ่มด้วยได้มั้ยคะ จะอันตรายหรือเปล่า ถ้าทานได้ป้องกันได้แน่ๆใช่มั้ยคะ (หนูกังวลมากค่ะ)

สวัสดีค่ะ ปัจจุบันยังไม่มีวิธีการคุมกำเนิดใด ที่ให้ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดได้100%
- การฝังยาคุมกำเนิด เป็นที่นิยม เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูงถึง 99.97%
- การรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิด ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 99.8% ยังมีโอกาสผิดพลาดเช่น การลืมทานยา เป็นต้น
- การฉีดยาคุมกำเนิด มีประสิทธิภาพประมาณ 99.7%
- การใช้ถุงยางอนามัย มีประสิทธิภาพป้องกันการตั้งครรภ์ 99.5% ยังมีโอกาสที่ถุงยางรั่ว ถุงยางหลุด แตก ก็มีความเสี่ยงให้เกิดการตั้งครรภ์ได้
- การใส่ห่วงอนามัยในฝ่ายหญิงก็ป้องกันการตั้งครร์ได้สูงประมาณ 99.5%
- การทำหมันหญิง เป็นการทำหมันถาวร ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 99.99% เนื่องจากก็ยังมีโอกาสที่หมันหลุด หมันต่อเองได้ค่ะ ซึ่งก็เคยพบมาก่อน
ดังนั้นจึงยังไม่มีวิธีใดที่ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100%

สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการคุมกำเนิดมากขึ้น โดยคุมทั้งหญิงและชาย โดยการใช้ยาในฝ่ายหญิง และถุงยางอนามัยในฝ่ายชาย นอกจากจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์แล้วยังสามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ด้วยค่ะ

เมื่อทานยาคุมกำเนิดแบบแผง 28 เม็ด เป็นประจำทุกวัน และสม่ำเสมอ. เมื่อมีเพศสัมพันธ์ ไม่จำเป็นต้องทานยาคุมฉุกเฉินแล้วค่ะ เพราะยาคุมแบบแผงช่วยคุมกำเนิดได้สูงอยู่แล้ว ประกอบกับการใช้ถุงยางควบคู่ไปด้วย จะยิ่งช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้มากขึ้นไปอีก โอกาสท้องน้อยมากๆ

1. ไม่มีวิธีคุมกำเนิดใดที่สามารถป้องกันได้ 100% ค่ะ การคุมกำเนิดทำได้เพียงลดความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ให้น้อยลง จะลดได้มากหรือน้อย ก็ขึ้นกับวิธีที่ใช้ รวมถึงการใช้ที่ถูกต้องและเหมาะสมนะคะ

ดังนั้น หากหนูและแฟนยังไม่พร้อมจะรับผิดชอบ ในกรณีที่อาจเกิดความผิดพลาดและทำให้ตั้งครรภ์ แนะนำให้รอจนกว่าจะถึงวันที่พร้อมจริง ๆ จะดีกว่านะคะ

2. แต่ถ้ารอไม่ได้จริง ๆ ก็ต้องทำใจไว้ส่วนหนึ่งนะคะว่าอาจมีการตั้งครรภ์ได้ และควรเลือกคุมกำเนิดด้วยวิธีที่เหมาะสม และใช้อย่างถูกต้อง เพื่อลดความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ให้ได้มากที่สุด

ซึ่งโอกาสตั้งครรภ์ของการคุมกำเนิดด้วยวิธีต่าง ๆ มีดังนี้...

- เมื่อมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีผลคุมกำเนิดจากยาคุมรายเดือน จะมีโอกาสตั้งครรภ์ 0.3 - 9% แต่ถ้ารับประทานถูกต้องและตรงเวลาสม่ำเสมอ ตัวเลขก็จะค่อนไปทางต่ำ คือ 0.3% ค่ะ

- หากใช้ถุงยางอนามัย จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 2 - 18% แต่ถ้ามีการใช้อย่างถูกต้องและตรวจสอบแล้วว่าไม่รั่วซึม ตัวเลขก็จะค่อนไปทางต่ำ คือ 2% นะคะ

- ส่วนยาคุมฉุกเฉิน ผู้ใช้มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15 - 25% ค่ะ เนื่องจากประสิทธิภาพไม่สูงนัก จึงควรใช้เฉพาะในกรณีที่ฉุกเฉิน ไม่ควรใช้บ่อย ๆ หรือใช้แทนวิธีคุมกำเนิดปกติ

หากหนูและแฟนมีการใช้ยาคุมรายเดือน + ถุงยางอนามัย ในกรณีที่ใช้ถูกต้องทั้งคู่ โอกาสตั้งครรภ์จะเป็น 0.3% ตามวิธีการคุมด้วยยาคุมรายเดือนซึ่งถือว่ามีประสิทธิภาพสูงกว่า

แต่ถ้ารับประทานยาคุมรายเดือนไม่ถูกต้อง หรือลืมรับประทานยาจนไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่อง หากใช้ถุงยางถูกต้องและไม่รั่วซึม โอกาสตั้งครรภ์จะเปลี่ยนมาเป็น 2% ตามประสิทธิภาพของวิธีการคุมด้วยถุงยางนะคะ

และถ้าไม่ได้มีปัญหาพร้อมกันทั้งสองทาง จนทำให้ไม่มีผลคุมกำเนิดใด ๆ เลย ก็ไม่จำเป็นจะต้องใช้ยาคุมฉุกเฉินค่ะ เนื่องจากประสิทธิภาพไม่ได้สูงเหมือนวิธีคุมกำเนิดปกติอยู่แล้ว การใช้เพิ่มอีก ไม่ได้เพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกัน แต่จะเพิ่มผลข้างเคียงจากยาให้มากขึ้นโดยไม่จำเป็น

3. อย่างไรก็ตาม หากกังวลเรื่องการลืมรับประทานยา หรือการฉีกขาดของถุงยาง แนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อปรึกษาการคุมกำเนิดด้วยการฝังยาคุมกำเนิดแทนนะคะ เพราะเป็นวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในปัจจุบันค่ะ นั่นคือ ผู้ใช้มีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 0.05% เท่านั้น

ในกรณีที่ฝังยาคุมและมีผลคุมกำเนิดเกิดขึ้นแล้ว สามารถมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ค่ะ แต่ในกรณีที่ไม่ได้ตรวจโรค หรือไม่มั่นใจในพฤติกรรมของคู่รัก การใช้ถุงยางร่วมด้วยเพื่อหวังผลป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่านะคะ

สำหรับผู้มีอายุไม่เกิน 20 ปี สามารถรับการฝังยาคุมกำเนิดได้ฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ สามารถไปติดต่อที่โรงพยาบาลของรัฐสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ที่เป็นโรงพยาบาลประจำอำเภอหรือจังหวัดได้ทุกแห่งค่ะ