สวัสดีค่ะอยากสอบถามหน่อยค่ะ คือพ่อมีอาการปวดเท้ามากๆเดินนลงน้ำหนักแทบไม่ได้แต่ก็ต้องเดิน เพราะงานของพ่อต้องเดินตลอดแล้วไม่สามารถพักได้ค่ะ ก็เลยพาพ่อไปหาหมอครั้งแรกหมอบอกเป็นเท้าแบนให้ยามากินแล้วก็ฉีดยาเพราะพ่อปวดมาก พอกลับมาบ้านได้แค่ไม่กี่วันพ่อก็ปวดอีกแล้ว เริ่มปวดมากขึ้นเลยพาไปหารอบสองหมอบอกพ่อว่าเป็นที่เส้นเอ็นอักเสบเหมือนเดิมค่ะฉีดยาแล้วให้ยามากินเหมือนเดิม แต่ตอนนี้พ่อเริ่มปวดมากๆเดินแทบไม่ได้เลยค่ะ ทำไงดีคะ ต้องรักษายังไงคะ แล้วระหว่างนี้จะให้ทำยังไงคะประคบน้ำแข็ง กินยาอะไร หรือว่าใช้ที่รัดเท้าอาการถึงจะเบาลงคะพ่อปวดมากๆเลยค่ะ แล้วแบบนี้เป็นโรคอะไรแน่คะแล้วถ้าเป็นข้อเท้าอักเสบจะรู้ได้ไงคะว่ามันอักเสบจริงไม่ใช่เท้าแบนต้องทำยังไงอาการถึงจะดีขึ้นคะ

สวัสดีค่ะ อาการปวดเท้า เดินไม่ได้นั้น จะต้องหาสาเหตุหลายอย่างค่ะ เช่น 1.การติดเชื้อ ข้อนี้สำคัญค่ะ อาการคือ จะมีอาการบวม แดง ร้อน บริเวณกล้ามเนื้อ ข้อเท้า หรือ เส้นเอ็น บางคนปวดไปจนถึงกระดูก อาจมีไข้ได้ ซึ่งการติดเชื้อ มีตั้งแต่ แบคทีเรีย หรือ เชื้อราค่ะ ประวัติที่จะทำให้นึกถึงการติดเชื้อมากขึ้น ได้แก่ การหกล้ม กระแทก หรือ มีอุบัติเหตุ หรือมีแผลบริเวณนันมาก่อนค่ะ 2.อุบัติเหตุต่างๆ เช่น การหกล้ม แล้วมีกระดูกเคลื่อน หรือ หัก เป็นต้น หรือ การใช้งานบริเวณข้อเท้าหนักๆ เช่น ออกกำลังกาย ทำงานลงน้ำหนักมากๆ เป็นต้น 3.โรคเกี่ยวกับหลอดเลือด เช่น หลอดเลือดดำตีบ อาจทำให้มีอาการขาบวม ปวด ขาเย็น เป็นต้น สาเหตุที่ยกมา เป็นสาเหตุที่อันตราย ควรจะต้องตรวจเพิ่มเติมค่ะ ซึ่งต้องตรวจร่างกายให้ชัดเจน ดังนั้น หากรักษาไปแบ้ว อาการไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์ซ้ำ เพื่อประเมินใหม่นะคะ อาจจะต้องตรวจร่างกาย ตรวจเลือดหรือ เอกเรย์ หรือ mri เพิ่มเติมค่ะ เพื่อการรักษาตามสาเหตุที่ตรวจจุดนะคะ