August 22, 2019 20:27
ตอบโดย
Shintai Thavonlun (นพ.)
ยาคุมกำเนิดถ้ากินสม่ำเสมอสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ ใกล้เคียงร้อยเปอร์เซนต์ครับ แต่ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ครับ ดังนั้นหากกินยาตลอด แม้เป็นช่วงหยุดยา โอกาสตั้งครรภ์ก็แทบไม่มีครับ ส่วนถ้าอยากป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดส่วนใหญ่ได้ แนะนำให้ใช้ถุงยางอนามัยด้วยครับ
ผลของการทานยาคุมกำเนิด จะขึ้นกับ เวลาที่เริ่มใช้ และชนิดของยาคุมกำเนิดครับ ถ้าแผงแรกที่เริ่มทาน
-ทานในช่วง5วันแรกของการมีประจำเดือน และยาที่ทานเป็นเม็ดยาฮอร์โมน(ส่วนใหญ่จะมีสี ที่ไม่ใช่สีขาว) จะคุมกำเนิดได้เลยครับ
-ทานในช่วงหลังจาก5วันแรกของการมีประจำเดือน มีผลคุมกำเนิดเมื่อทานเม็ดยาฮอร์โมน ติดต่อกันครบ 7 วันครับ
โดยทั่วไปยาคุมกำเนิด หลักๆจะมี 3แบบครับ
-แบบ 21เม็ด รับประทานครบ แล้วเว้น7วัน
-แบบ 22เม็ด รับประทานครบแล้วเว้น6วัน
-แบบ 28เม็ด รับประทานต่อเนื่องไปเลยครับ
ซึ่งโดยทั่วไป แบบ 21 หรือ 22 เม็ด ประจำเดือนจะมาในช่วงที่เว้นรับประทานยาไปครับ ส่วนแบบ 28 เม็ด ประจำเดือนจะมาในช่วงที่รับประทานเม็ดแป้งครับ
ทั้งนี้ควรทานยาสม่ำเสมอ และตรงเวลา จะได้มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดมากที่สุดครับ
นอกจากนี้ ยาคุมกำเนิด จะมีผลข้างเคียง ทำให้คลื่นไส้อาเจียน ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ อารมณ์แปรปรวนได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ยาเป็นแบบเม็ดสีขาวครับแล้วถ้าไม่อยากท้องก็จะต้องกินยาคุมกำเนิดไปตลอดหรอครับ
ตอบโดย
พิมพกา ชวนะเวสน์ (สูตินรีแพทย์)
ต้องรับประทานต่อเนื่องค่ะ
ถ้ามีเพศสัมพันธ์ช่วงที่รับประทานอย่างสม่ำเสมอ ก็สามารถคุมกำเนิดได้ มีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ค่อนข้างสูงค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ขอบคุณครับ
ตอบโดย
ศุภลักษณ์ แซ่จัง (พว.)
ยาคุมกำเนิดแบบรายเดือนมีประสิทธิ์ภาพสูงในการคุมกำเนิดก็ต่อเมื่อผู้ทานทานทุกวันสม่ำเสมอไม่ลืม หากคุณยังต้องการมีเพศสัมพันธ์อยู่เรื่อยๆ ก็ควรให้แฟนคุณทานยาคุมกำเนิดรายเดือนต่อเนื่องไปเรื่อยๆค่ะ เพื่อประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดอย่างต่อเนื่อง เพราะถ้าหยุดยาคุมแล้วมีเพศสัมพันธ์อีกก็มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ แต่หากไม่ต้องการมีเพศสัมพันธ์อีกแล้ว ก็ทานยาคุมแผงเดิมจนหมดแผงแล้วค่อยหยุดทานค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
แล้วถ้าครั้งต่อๆไปมีเพศสัมพันธ์แบบใส่ถุงยางอนามัยป้องกันหละครับต้องทานยาอยู่ไหมครับ
ตอบโดย
สุวพัชญ์ พิศาลมงคล (นพ.)
สวัสดีครับ
การทานยาคุมกำเนิดต้องทานทุกเดือนครับ โดยเริ่มทานวันที่ 1-5 ของรอบเดือนแล้วรับประทานทุกวันวันละ 1 เม็ดในเวลาเดิม เมื่อทานหมดแผงแล้ว ถ้าเป็นชนิด 28 เม็ด ต้องทานแผงถัดไปเลยครับหากยังมีเพศสัมพันธ์ต่อเนื่องอยู่ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
เเล้วถ้าครั้งต่อๆไปมีเพศสัมพันธ์แบบใส่ถุงยางอนามัยป้องกันหละครับต้องทานยาอยู่ไหมครับ
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
การใช้ยาคุมรายเดือน จะเป็นการป้องกันไปข้างหน้าค่ะ แต่ถ้าไม่ต้องการผลในการคุมกำเนิดต่อ เช่น พร้อมจะมีบุตรแล้ว หรือคาดว่าจะไม่มีเพศสัมพันธ์อีกเลย ก็ไม่จำเป็นจะต้องต่อแผงใหม่แล้วนะคะ
หากรับประทานยาคุมถูกต้อง ยาจะมีผลยับยั้งไข่ที่จะตกในรอบเดือนนั้น ๆ ได้ และเมื่อไม่มีไข่ตก ไม่ว่าจะมีเพศสัมพันธ์แบบหลั่งในที่มีอสุจิเข้าไปในช่องคลอดได้มาก หรือหลั่งนอกที่มีอสุจิเข้าไปในช่องคลอดได้น้อยกว่า หรือจะใช้ถุงยางป้องกันไม่ให้อสุจิเข้าไปในช่องคลอด ก็ไม่แตกต่างกัน เพราะต่อให้มีอสุจิเข้าไปในช่องคลอดแต่ก็ไม่สามารถผสมกับไข่ได้อยู่ดีค่ะ
ดังนั้น ถ้าผู้ถามและแฟนยังต้องการจะมีเพศสัมพันธ์ไปอีกเรื่อย ๆ การใช้ยาคุมต่อเนื่องและตรงเวลา จะช่วยลดความเสี่ยงของการตั้งครรภ์ให้น้อยลงได้
โดยการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีผลป้องกันจากยาคุมรายเดือน ผู้ใช้จะมีโอกาสตั้งครรภ์ 0.3 - 9% หรือค่อนไปทางต่ำ คือ 0.3% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่น่าจะกังวล หากรับประทานยาคุมตรงเวลาสม่ำเสมอ
..
..
..
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่คาดว่าจะมีเพศสัมพันธ์อีก แต่ไม่บ่อยครั้ง และไม่ต้องการจะใช้ยาคุมรายเดือน หรือทนผลข้างเคียงจากยาคุมไม่ได้ ก็สามารถใช้ถุงยางอนามัยป้องกันแทนได้นะคะ เพราะต่อให้มีไข่ตก (เนื่องจากไม่มียาคุมไปยับยั้งอีกแล้ว) แต่ถ้าใช้ถุงยางถูกต้องและไม่รั่วซึมหรือฉีกขาด ก็มีความเสี่ยงน้อยมากที่อสุจิจะเข้าไปผสมกับไข่ได้ อีกทั้ง ถุงยางยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
เเล้วถ้าหมดแผงแรกแล้วให้หยุดกินยาคุมเลยได้ใช้ไหมครับเพราะครั้งต่อๆไปก็ใช้ถุงยางอนามัยป้องกันครับ
ขอบคุณครับ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ถ้าหากหลังตฃจากรับประทานยาคุมหมอแผงแล้วต้องการเปลี่ยนไปคุมกำเนิดด้วยถุงยางอนามัยต่อก็สามารถหยุดรับประทานยาคุมได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ขอบคุณครับ
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ยาคุม "มินนี่ 28" จะมี "เม็ดยาฮอร์โมน" (เม็ดยาสีขาวขนาดใหญ่) 21 เม็ด และมี "เม็ดแป้ง" (เม็ดยาสีขาวขนาดเล็ก) 7 เม็ด
ถ้าใช้ยาคุมถูกต้องและไม่มีการตั้งครรภ์ ควรจะมีประจำเดือนมาในช่วงที่รับประทาน "เม็ดแป้ง" โดยมักจะมาประมาณเม็ดที่ 24 หรือ 25 แต่ก็อาจคคลาดเคลื่อนจากนั้นได้เล็กน้อย
เมื่อประจำเดือนมาแล้ว ก็หมายถึงการมีเพศสัมพันธ์ก่อนหน้านั้นไม่ได้ทำให้ตั้งครรภ์แล้วนะคะ
หากมีการต่อยาคุมแผงใหม่ ยาก็จะไปยับยั้งไข่ที่กำลังจะตกในรอบเดือนต่อไป จึงถือว่ามีผลคุมกำเนิดที่ต่อเนื่องกัน ถ้าจะมีเพศสัมพันธ์อีก ก็ไม่ต้องกังวลเพราะมีผลป้องกันจากยาคุมแผงใหม่ที่ใช้ต่อนั่นเอง
แต่ถ้าไม่มีการต่อยาคุมแผงใหม่แล้ว ก็จะมีไข่ตกได้ตามปกติค่ะ จึงต้องระวังว่าหากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน หรือป้องกันด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพต่ำ ก็เสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้มาก
แต่ถ้าผู้ถามจะใช้ถุงยางป้องกันทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ ก็ไม่จำเป็นจะต้องให้แฟนใช้ยาคุมรายเดือนต่อค่ะ โดยเฉพาะถ้าแฟนของผู้ถามก็ไม่อยากรับประทานยาคุมต่อแล้ว เนื่องจากถ้าใช้ถุงยางถูกต้องและไม่รั่วซึมหรือฉีกขาด ก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 2% (ซึ่งแม้ความเสี่ยงนี้จะสูงกว่าเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพสูงสุดของยาคุมรายเดือน ที่ถ้าใช้ถูกต้องและตรงเวลาสม่ำเสมอ ผู้ใช้จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียงแค่ 0.3%) แต่ก็ถือว่าเป็นความเสี่ยงที่น้อยจนไม่น่าจะกังวลค่ะ
แต่ถ้าแฟนของผู้ถามยังกังวลกับความเสี่ยง 2% นี้ โดยเฉพาะถ้ามีเพศสัมพันธ์บ่อย ๆ ซึ่งวิธีการป้องกันด้วยถุงยางอาจมีโอกาสเกิดความผิดพลาด (ถุงยางรั่วซึม / ฉีกขาด / เลื่อนหลุด) ได้มากกว่า รวมถึงทนผลข้างเคียงของยาคุมรายเดือนได้ การใช้ยาคุมรายเดือนต่อเนื่องตรงเวลา จะมีความเสี่ยงที่จะเกิดความผิดพลาดและตั้งครรภ์ได้น้อยกว่านะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ขอบคุณครับ
ตอบโดย
สุวพัชญ์ พิศาลมงคล (นพ.)
หากจะเปลี่ยนวิธีการคุมกำเนิดจากยาคุมกำเนิดไปเป็นการใช้ถุงยางอนามัยก็สามารถหยุดรับประทานยาคุมกำเนิดได้ครับ แนะนำให้ศึกษาวิธีการใช้ถุงยางอนามัยก่อนครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ขอบคุณครับ
ฝังเข็มมาคะ ได้ปีเกือบกว่าแล้ว ตอนนี้มีเลือดออกมาเป็นสีน้ำตาลเกือบดำเป็นมาเกือบ2อาทิตย์กว่าแล้ว นี่เป็นเพราะผลข้างเคียงใข่ไหมคะ แล้วจะหายไหมคะ
ฝังเข็มมาคะ ได้ประมาณปีหน่อยๆแล้ว ตอนนี้มีเลือดออกสีน้ำตาลเกือบดำได้เกือบสองอาทิตย์กว่าแล้วคะ อยากทราบว่าเป็นเพราะผลข้างเคียงไหมคะ แล้วจะหายไหมคะใช้เวลานานแค่ไหน
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ในช่วงที่ฝังยาคุมอยู่ยาคุมอาจมีผลข้างเคียงต่อประจำเดือนได้ใน 2 ลักษณะ คือ
1. ทำให้มีเลือดออกกระปริดกระปรอยทางช่องคลอด
2. ทำให้ประจำเดือนขาดหายไป
อย่างไรก็ตามถ้าหากเดิมไม่เคยมีเลือดออกในลักษณะนี้มาก่อนแล้วอยู่ๆกลับมีเลือดออกผิดปกติเกิดขึ้น หมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจภายในหาสาเหตุเพิ่มเติมก่อน เนื่องจากในกรณีนี้อาจมีความผิดปกติอื่นที่เป็นสาเหตุซ่อนอยู่ได้ เช่น มีการอักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ การมีเนื้องอกบางอย่าง ซึ่งถ้าหากตรวจพบสาเหตุเหล่านี้ก็จะต้องให้การรักษาที่เหมาะสมไปตามสาเหตุที่ตรวจพบครับ
แต่ถ้าหากตรวจแล้วไม่พบสาเหตุอื่น แต่อาการเลือดออกที่เกิดขึ้นมีผลรบกวนการใช้ชีวิตมาก ก็สามารถขอให้แพทย์จ่ายยามาเพื่อช่วยปรับฮอร์โมนหรือเปลี่ยนไปคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นแทนได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
พอดีผมซื้อยาคุมกำเนิดมาให้แฟนกินยาคุมหมดไปแล้ว1แผงแต่ทางเภสัชที่จ่ายยาให้เขาบอกให้กินแผงต่อไปเลื่อยๆถ้าไม่อยากท้องผมอยากรู้ว่าจริงๆแล้วยาคุมเขาไม่ได้กินเดือนเดียวเเล้วไม่ท้องกันหรอครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)