เป็นผู้หญิงนะคะ อายุ 25 ปี ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก เมื่อวันก่อนหลังถ่ายเสร็จจับไปเจอก้อนเนื้อมีลักษณะไม่แข็งมาก ไม่นิ่มมาก ในรูทวารหนัก (อยู่ข้างในนะคะ) ไม่เคยอุจจาระเป็นเลือดค่ะ มีอาการท้องผูกบ้างไม่บ่อยมาก คุณยายและคุณแม่เคยเป็นริดสีดวงค่ะ และบางครั้งมีอาการปวดท้องหน่วงน้อยเวลาที่มีอุจจาระตกค้างหรือก้อนใหญ่ แบบนี้พอจะบอกเบื้องต้นได้ไหมคะ ว่าเป็นอะไร หรือ เป็นมะเร็งทวารหนักหรือป่าว

สวัสดีค่ะ จากอาการที่เล่า การคลำเจอก้อนในทวารหนัก เป็นได้หลายสาเหตุค่ะ บอกได้ไม่ชัดว่าเป็นอะไร อาจเป็นได้ทั้ง ริดสีดวงทวาร หรือเนื้องอกในทวารหนักก็ได้ แนะนำว่าควรจะต้องมีการตรวจร่างกายโดยศัลยแพทย์ เพื่อวินิจฉัยโรคค่ะ โรคที่เป็นได้ เช่น 1. ริดสีดวงทวารภายใน ระยะที่ 1 เกิดจากการที่เส้นเลือดดำที่ทวารหนักมีการโป่งพองขึ้นจากแรงดันที่สูงขึ้น เช่นมีการเบ่งถ่ายประจำ ท้องผูก อุจจาระแข็ง หรือมีท้องเสียรุนแรงนำมาก่อน การนั่งส้วมนาน ก็ทำให้เกิดริดสีดวงได้ ซึ่งในระยะที่ 1 จะไม่มีติ่งยื่นออกมาจากรูทวาร และไม่มีอาการปวดใดๆ สามารถคลำก้อนได้จากการตรวจภายในทวารหนัก อาจพบได้ที่มีถ่ายเป็นเลือดสดๆสีแดง หลังจากถ่ายอุจจาระค่ะ การวินิจฉัย ทำได้จากการตรวจทวารหนักค่ะ สามารถรักษาได้โดยการใช้ยารับประทาน และการเหน็บทวาร เพื่อให้ริดสีดวงยุบ แนะนำการปฏิบัติตัว ได้แก่ - รับประทานผักผลไม้ที่มีกากใยสูง เพื่อช่วยเพิ่มกากใยให้กับอุจจาระ ป้องกันอุจจาระแข็ง - ดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 10 แก้ว หรือ 1.5 ลิตร - ออกกำลังกายสม่ำเสมอ จะช่วยเรื่องการไหลเวียนเลือด และการทำงานของระบบย่อยอาหาร - หลีกเลี่ยงกานนั่งแช่ในส้วมเป็นเวลานานๆ - หลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2. ก้อนมะเร็งที่ทวารหนัก สามารถพบเจอก้อนได้จากการตรวจภายในทวารหนัก และส่องกล้องทางทวารหนัก อาการที่พบได้ เช่น ถ่ายอุจจาระเป็นมูกบ่อย บางครั้งปนเลือด มีอาการท้องผูกสลับท้องเสีย ถ่ายอุจจาระลำเล็กลง น้ำหนักตัวลดลง ปัจจัยเสี่ยงเช่น มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ เป็นต้นค่ะ หากพบก้อนที่สงสัย แพทย์จะตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ หากพบเซลล์มะเร็ง อาจต้องผ่าตัดรักษาค่ะ 3. ก้อนติ่งเนื้อในทวารหนัก เป็นก้อนเนื้อที่ไม่ใช่เนื้อร้ายหรือมะเร็ง มักไม่ทำให้เกิดอาการใดๆ ตรวจพบได้จากการส่องกล้องตรวจทางทวารหนัก และตัดติ่งเนื้อเพื่อไปตรวจดูเซลล์ค่ะ แนะนำว่าเมื่อพบเจอก้อนที่ผิดปกติ ควรไปพบแพทย์ เพื่อตรวจร่างกายและวินิจฉัยสาเหตุของโรค เพื่อการรักษาที่ถูกต้องค่ะ