หมอคะหนูอยากตายตลอดเวลา เหนื่อยกับทุกอย่าง เหมือนตัวเองไร้ค่า เกิดมาสร้างแต่ปัญหา มีสามีก็ทิ้งให้เลี้ยงลูกคนเดียว ร้องไห้ตลอดเวลา ไม่หิวข้าว หิวน้ำ กินก่คลื่นไส้ เหมือนคนบ้าอารมณ์แปรปรวนตลอด ปวดหัว บางครั้งก็ทำร้ายตัวเองเพื่อให้ความเครียดมันลดลงเหมือนมันได้ระบาย หนูเข้าข่ายเป็นบ้าไหมคะ

สวัสดีค่ะ จากอาการ แนะนำว่าควรไปปรึกษาจิตแพทย์เพื่อประเมินอาการนะคะ ลักษณะเข้ากันได้กับโรคซึมเศร้า ดังต่อไปนี้
- เบื่อไม่อยากทำสิ่งใด ไม่สนใจจะทำอะไร
- รู้สึกท้อแท้ ไม่สบายใจ ซึมเศร้า
- เบื่ออาหาร ไม่อยากทานอะไร หรือรู้สึกอยากกินมากเกินไป หรือมีน้ำหนักเพิ่มหรือลดผิดปกติ
- นอนไม่หลับ หลับยาก หรือนอนมากเกินไป
-รู้สึกว่าตัวเองล้มเหลว ผิดหวัง รู้สึกผิดต่อคนรอบข้าง
-เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย รู้สึกไม่มีแรง
-ขาดสมาธิ
-พูดช้าหรือทำอะไรช้าลง จนคนรอบข้างสังเกตได้ หรือมีอาการลุกลี้ลุกลน กระสับกระส่าย ไม่อยู่นิ่ง
-มีความคิดอยากฆ่าตัวตาย ทำร้ายตัวเอง ไม่อยากมีชีวิตอยู่

แนะนำว่าควรไปพบแพทย์นะคะ

โรงพยาบาลของรัฐ โดยทั่วไปจะมีจิตแพทย์อยู่ที่โรงพยาบาลใหญ่ๆ โรงเรียนแพทย์ หรือโรงพยาบาลประจำจังหวัดค่ะ ถ้าที่โรงพยาบาลตามสิทธิไม่มีจิตแพทย์ ถ้ารักษาไม่ได้ จะมีระบบส่งตัวเพื่อไปพบจิตแพทย์ในโรงพยาบาลเครือข่ายที่มีแพทย์ค่ะ
การรักษาโรคซึมเศร้า แพทย์จะใช้วิธีจิตบำบัดร่วมกับการใช้ยา ซึ่งจะมีการรักษาตืดตามอาการต่อเนื่อง ขึ้นกับการตอบสนองต่อการรักษา ยาที่อาจได้ทานบางชนิดอาจมีผลทำให้ง่วงนอนได้ แต่แพทย์จะมีการปรับยา เพื่อให้เข้ากับผู้ป่วยในแต่ละคนค่ะ
แนะนำว่าเบื้องต้นให้ไปปรึกษาแพทย์ที่โรงพยาบาลตามสิทธิก่อนค่ะ

สวัสดีครับ

ขอเพิ่มเติมนะครับ โดยปกติแล้วทางโรงงานไม่สามารถไล่พนักงานออกได้เพียงเพราะถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคทางจิตครับ แต่ผลของโรคซึมเศร้าอาจจะทำให้เราไม่สามารถทำงานได้ตามเดิม 100% หรือหากมีอารมณ์เศร้าหรือไม่มีแรงมากขึ้นก็อาจจะทำให้เราขาดงานได้ครับ ซึ่งหากเราไม่พยายามรักษาการไปทำงานหรือประสิทธิภาพในการทำงานของเราไว้ สิ่งเหล่านี้อาจเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้เราเสียงานได้ครับ

ในเบื้องต้นการเข้ารับการรักษากับจิตแพทย์ในโรงพยาบาลรัฐจะค่อนข้างใช้เวลาในการไปพบจิตแพทย์ในแต่ละครั้ง ซึ่งหมายความว่าคุณอาจจะมีความจำเป็นที่จะต้องขาดงานเพื่อไปโรงพยาบาลซึ่ง หากคุณทำงานเป็นกะในโรงพยาบาลคุณอาจจะสามารถสับเปลี่ยนกะเพื่อให้คุณสามารถไปรับบริการจากโรงพยาบาลในตอนกลางวันได้ หากไม่สามารถทำได้ คุณอาจจะต้องลองขอลาเพื่อไปพบแพทย์จากนั้นให้ปรึกษาจิตแพทย์ของคุณในเรื่องการนัดหมายครั้งต่อไป และขอใบรับรองแพทย์เพื่อพูดคุยกับหัวหน้างานในเรื่องอาการเหล่านี้และความจำเป็นในการพบจิตแพทย์ตามนัด

การทานยาจะค่อนข้างมีผลข้างเคียง ตามแต่บุคคลดังนั้นในช่วงแรกหากได้รับยามาทาน อยากให้ลองเตรียมพร้อมเพื่อที่จะรับมือกับอาการที่เกิดขึ้นและพูดคุยกับจิตแพทย์ประจำตัวของคุณเพื่อปรับเปรียบยาหาผลค้างเขียงของยาทำให้คุณไม่สามารถไปทำงานหรือทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ ขอเป็นกำลังใจให้การรักษาตัวไม่ขัดขวางการทำงานและการใช้ชีวิตของคุณมากนักครับ

การที่ต้องเผชิญกับความเครียดเป็นเวลานาน แล้วไม่สามารถปรับตัวกับภาวะเครียดเหล่านั้นได้ อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิตได้ค่ะ อาการที่เป็นยังไม่ถึงกับมีอาการทางจิต แต่อาจมีความผิดปกติทางด้านอารมณ์โดยเฉพาะเป็นอาการของโรคซึมเศร้า

เบื้องต้นทำแบบประเมินภาวะซึมเศร้าด้วยตัวเอง ดูก่อนก็ได้ค่ะ โดยให้สำรวจอาการภายในระยะ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมารวมวันนี้มีอาการเหล่านี้มากน้อยเพียงใด โดยให้คะแนนแต่ละอาการดังนี้
ไม่มีเลย 0 คะแนน
มี 1-7วัน 1 คะแนน
มากกว่า 7 วัน 2 คะแนน
ทุกวัน 3 คะแนน

ลักษณะอาการในช่วง 2 สัปดาห์
1. เบื่อหน่าย ไม่สนใจอยากจะทำอะไร
2. ไม่สบายใจ ซึมเศร้า ท้อแท้
3. หลับยาก หลับๆตื่นๆ หรือหลับมากเกินไป
4. เหนื่อยง่าย ไม่ค่อยมีแรง อ่อนเพลีย
5. เบื่ออาหาร หรือ กินได้มาก กินจุบจิบตลอดเวลา
6. รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง คิดว่าล้มเหลว หรือคิดว่าทำให้ตนเองและครอบครัวต้องผิดหวัง
7. ขาดสมาธิ เหม่อลอย ขี้ลืมบ่อย
8. ทำอะไรช้าลง กระสับกระส่าย อยู่นิ่งไม่ได้
9. คิดทำร้ายตัวเอง อยากตาย หรือตายไปจะดีกว่า
รวมคะแนน หากคะแนนรวมมากกว่า 7 คะแนนขึ้นไป แนะนำให้พบจิตแพทย์นะคะ รับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม จะช่วยให้อาการดีขึ้น สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพดังเดิมนะคะ แต่หากหนูปล่อยไว้ให้อาการเรื้อรัง อาจจะทำให้รักษายากและโรคอาจพัฒนารุนแรงจนถึงขั้นมีอาการทางจิตได้นะคะ