August 31, 2019 23:40
ตอบโดย
Shintai Thavonlun (นพ.)
เบื้องต้นแนะนำให้ซื้อชุดตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตนเองมาทดสอบก่อนครับ โดยเก็บปัสสาวะหลังตื่นนอนซึ่งเป็นปัสสาวะใหม่ครับ
และถ้าผลลบแนะนำให้ทดสอบซ้ำอีกครั้งหลังจากครั้งแรกอย่างน้อย2-3วัน ถึง 1สัปดาห์ครับ (อาจเปลี่ยนยี่ห้อการตรวจครับ)
ถ้าไม่ตั้งครรภ์ การที่มีประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอนั้นอาจเกิดได้จากอีกหลายสาเหตุครับ เช่น
- มีปัญหาการตกไข่ที่ไม่สม่ำเสมอ
- รังไข่ผิดปกติ เช่น การมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่
- ฮอร์โมนในเลือดผิดปกติ
- ความเครียด/วิตกกังวล/อารมณ์แปรปรวน
- การออกกำลังกายที่หนักเกินไป
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
- ผลข้างเคียงของยาบางชนิด เช่น ยาคุมกำเนิด
- ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
เป็นต้นครับ
แนะนำจดบันทึกรอบประจำเดือนให้ชัดเจน และไปพบแพทย์สูตินรีเวชเพื่อตรวจประเมินอาการให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัด เพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ
เบื้องต้น หลีกเลี่ยงความเครียด และพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะความเครียดทำให้ประจำเดือนไม่มาได้ครับ และให้ออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร เพื่อลดน้ำหนักครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ถ้าหากหลังมีเพศสัมพันธ์ได้มีประจำเดือนขาดหายไป หมอก็แนะนำว่าควรลองตรวจการตั้งครรภ์ก่อนเพื่อความมั่นใจ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ถ้าหากตรวจแล้วไม่พบการตั้งครรภ์ประจำเดือนที่มาช้าก็อาจเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น
- ไม่มีการตกไข่ในรอบเดือนที่ผ่านมา
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
- ความเครียด
- ผลข้างเคียงของยาบางชนิด
ซึ่งในกรณีนี้ก็อาจรอประจำเดือนต่อไปก่อนได้ แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนหรือมีปัญหาประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมออยู่บ่อยๆก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุครับ
ส่วนการรับประทานยาสตรีจะไม่มีผลช่วยให้ประจำเดือนมาจึงไม่มีประโยชน์ที่จะรับประทานในกรณีนี้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตรวจเวลาอื่นได้ไหมคะ แบบตอนเย็นอะคะ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
เมื่อมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันก็มีโอกาสตั้งครรภ์ได้นะคะ ดังนั้น หากกังวล ก็สามารถตรวจการตั้งครรภ์ให้ชัดเจนได้ค่ะ โดยใช้ชุดทดสอบทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอนห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ
ซึ่งถ้าวันที่ผู้ถามมีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดคือ 7 สิงหาคม ก็สามารถตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะหลังตื่นนอนเช้าวันพรุ่งนี้ได้เลยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
1.ดูจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ มีโอกาสท้องอยู่ครับ
การมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้ใส่ถุงยางเเม้ไม่ได้หลั่ง/หลั่งนอก แต่ถ้ามีการสอดใส่อวัยวะเพศ มีโอกาสท้องครับ เนื่องจากขณะสอดใส่อาจมีอสุจิปนออกมากับน้ำหล่อลื่นฝ่ายชายได้ครับ
......
2.โดยทั่วไปก็จะถือว่าตรวจพบว่าท้องได้ เมื่อประจำเดือนขาดครับ
...........
ถ้าจำประจำเดือนแม่น รู้รอบประจำเดือนตัวเองดี ก็จะง่ายครับ
เช่นถ้าเมนส์มาวันที่ 1 กพ. ปกติมาตรง 30 วัน
ถ้า 3 มีนา เมนส์ไม่มา ก็สามารถตรวจได้ครับ
............
แต่ถ้าจำไม่ได้ว่าเดือนก่อนเมนส์มาวันไหน
แนะนำว่าให้ตรวจถ้าเมนส์ไม่มาหลังจากมีเพศสัมพันธ์ กันไปแล้ว 2 สัปดาห์
เพราะว่าถ้าจะท้องได้ ก็คือต้องไข่ตกช่วงที่มีเพศสัมพันธ์กันพอดี ถ้านอกเหนือไปจากนั้น โอกาสท้องก็น้อยครับ
...........
ถ้าตรวจแล้วผลว่าไม่ท้อง แต่ยังสงสัย แนะนำให้รอ เพราะบางครั้งค่าของฮอร์โมนอาจจะยังไม่มากพอที่จะให้ผล positive ถ้ารอแล้วเมนส์ยังไม่มา อีกซักสัปดาห์ค่อยตรวจซ้ำ ไม่ควรรีบไปกินพวกยาขับเลือด-ยาสตรี เพราะถ้าเกิดท้องขึ้นมาแล้วจริงๆ ยาพวกนี้อาจจะมีผลต่อเด็กได้ครับ
...........
- ชุดตรวจมีหลากหลายครับ ในรายละเอียดอาจจะต่างกันบ้าง ให้ดูตามคำเเนะนำในกล่องน่าจะดีที่สุดแต่โดยทั้วไปก็คือให้ปัสสาวะใส่ภาชนะ จุ่มที่ทดสอบลงไประยะเวลาหนึ่ง เอาขึ้นมาตั้ง รอเวลา แล้วจึงอ่านผล
- วิธีการเก็บปัสสาวะตรวจก็มีผลต่อการแปลผลมาก
ผลจะแม่นที่สุดควรจะต้องเป็นปัสสาวะครั้งแรกตอนเช้าที่เพิ่งตื่นนอนมาเพราะจะเป็นปัสสาวะที่เข้มข้น ถ้ามี hCG อยู่ก็จะตรวจพบได้ง่ายกว่า
- ชุดตรวจส่วนใหญ่จะแสดงผลเป็นขีดๆ โดยขีดแรกเป็นเส้น control จะต้องขึ้นเสมอไม่ว่าจะท้องหรือไม่ ถ้าไม่ขึ้นแปลว่าที่ตรวจนั้นเสีย ส่วนขีดที่สองถึงจะเป็นตัวบอกว่ามี hCG อยู่
...........
ดังนั้น สองขีดคือท้อง
...........
ขีดเดียวคือไม่ท้อง ถ้าไม่มีซักขีดคือชุดตรวจเสียครับ
3.กรณีตรวจเเล้วไม่ท้องจริงๆ
โดยปกติประจำเดือนสามารถมาเร็วมาช้าได้บวกลบ7วันครับ ถ้ายังไม่เกิน7วันหมอว่ายังรอไปก่อนได้ครับ
ปกติจะมาประมาณ2-6วัน ปริมาณประมาณ 20-60ml
.............
การที่ประจำเดือนมาไม่ตรงรอบหรือขาด อาจเกิดได้จากความเครียด ทำให้ระดับฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง ,การตั้งครรภ์ ,การฉีดยาคุมกำเนิดชนิดสามเดือน ,ยาฝังคุมกำเนิด หรือ ห่วงคุมเนิดชนิดฮอร์โมน ครับ
หรือเกิดได้จากโรคอื่นๆ กรณีที่ประจำเดือนขาดนานๆ หรือมาไม่สม่ำเสมอครับ เช่น โรคถุงน้ำรังไข่อาการคือ ประจำเดือนมักมาไม่สม่ำเสมอร่วมกับพบลักษณะของฮอรโมนเพศชาย(มีสิว มีขนเยอะ) หรือ บางครั้งความผิดปกติของต่อมใต้สมองซึ่งมีหน้าที่หลั่งฮอร์โมนมากระตุ้นรังไข่ก็ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติได้ครับหากประจำเดือนขาดนานๆ ร่วมกับบีบหัวนมเเล้วมีน้ำนมไหลออกมา หรืออาจเกิดจากการตกไข่ผิดปกติจากสาเหตุของรังไข่เอง
อื่นๆ เช่น เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่(ช็อคโกเเลตซีสต์) อาการคือ ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ เป็นต้นครับ
.............
หากเดิมประจำเดือนมาปกติ เเล้วประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ โดยที่ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ หรือตรวจเเล้วไม่ท้อง (ปกติประจำเดือนขาดก็ตรวจได้เเล้วครับว่าท้องหรือไม่) หรือ ไม่ได้มีความเครียดอื่นๆ ควรไปพบสูตินรีเเพทย์ครับ อาจพิจารณารับประทานยาคุมกำเนิดเพื่อปรับฮอร์โมน ร่วมกับหาสาเหตุด้วยครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ตอบโดย
สุวพัชญ์ พิศาลมงคล (นพ.)
สวัสดีครับ
เบื้องต้นหากมีประวัติมีเพศสัมพันธ์ในรอบเดือนที่ผ่านมาแล้วขาดประจำเดือน สงสัยว่าตั้งครรภ์ สามารถหาซื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์ตามร้านขายยาทั่วไปมาทดสอบได้ด้วยตนเองครับ หากทดสอบการตั้งครรภ์อย่างถูกวิธี ผลการทดสอบมีความน่าเชื่อถือสูงมากครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
สวัสดีครับ
โดยปกติ รอบเดือนของเรา จะคลาดเคลื่อนอยู่ระหว่าง 21-35 วัน (บวกลบเจ็ดวันจากรอบก่อนๆ ) อยู่แล้วครับ ถ้ายังอยู่ในช่วงนี้ ก็ยังถือว่าปกติครับ แต่ถ้ามีความเครียด วิตกกังวล ซึ่งเกิดขึ้นได้ในคนทั่วไป ก็อาจทำให้คลาดเคลื่อนไปได้อีกครับ
ในกรณีประจำเดือนไม่มาตามปกติ หรือ ประจำเดือนขาดไป
-ถ้าคนไข้มีความเสี่ยงเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ เช่น การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน การใช้ถุงยางอนามัย หรือการคุมกำเนิดวิธีอื่นๆไม่ถูกต้อง หรือ ผิดพลาด เช่น ถุงยางอนามัยรั่วซึม หรือ การหลั่งนอก ก็อาจตั้งครรภ์ได้ เบื้องต้นแนะนำว่า ให้ตรวจการตั้งครรภ์ก่อนนะครับ โดยการตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะด้วยตนเอง สามารถตรวจได้ตั้งแต่ 14 วันหลังมีเพศสัมพันธ์ครับ
(การตรวจนั้น ต้องตรวจถุกต้องตามคำแนะนำและระยะเวลาที่เหมาะสมด้วยนะครับจึงจะเชื่อถือได้ครับ)
-ถ้าคนไข้ไม่มีความเสี่ยงเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ เลยหรือตรวจการตั้งครรภ์แล้วไม่พบการตั้งครรภ์. ปัจจัยที่จะทำให้ประจำเดือนที่เคยมา แล้วไม่มา หรือผิดปกติ มีหลายอย่างครับ ตัวอย่าง เช่น
1.ความเครียด การอดอาหารนานๆ และการออกกำลังกายอยางหักโหมมากเกินไป ทำให้ประจำเดือนขาดได้ครับ พบได้บ่อยที่สุด
2.การใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ เช่น ยาคุมกำเนิด แบบฉีด หรือยาบางอย่าง เช่น ยารักษาโรคทางจิตเวช
3.โรคทางระบบสืบพันธ์บางชนิด เช่น ถุงน้ำรังไข่ ( PCOS) อาจทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติได้ หรือ การ ติดเชื้อ ทางเพศสัมพันธ์ อาจมำให้มีอาการปวดท้อง หรือ ตกขาว ที่ผิดปกติได้ ซึ่ง ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย
4.ฮอร์โมน ไทรอยด์ผิดปกติ ซึ่งจะต้องทีอาการอื่นๆร่วมด้วย เช่น ใจสั่น กินจุ น้ำหนักลด หรือ ฮอร์โมนจากรังไข่ผิดปกติ อาจทำให้ไม่เกิดการตกไข่ ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ไม่มา หรือมาแบบกระปริบกระปรอย เป็นต้นครับ
5. โรคทางการกินที่ผิดปกติ (anorexia) ซึ่งเป็นโรคทางจิตเวชอย่างหนึ่ง หากอดอาหาร หรือทานอาหารไม่ถูกวิธีนานๆ จะทำให้ขาดประจำเดือนได้ครับ
ถ้าคนไข้มีอาการต่างๆที่ผิดปกติดังที่กล่าวไป แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายหรือตรวจภายในเพิ่มเติมนะครับ
หากประจำเดือนมาล่าช้ากว่าปกติ และไม่ได้เป็นมาติดต่อกันนานเกิน 3 ครั้ง ก็ให้รอดูอาการก่อนได้ครับ หากเกิน 3 เดือนประจำเดือนไม่มา แนะนำให้ไปตรวจร่างกาย และตรวจภายในเพิ่มเติมนะครับ
อนึ่ง การทำใจให้สบาย พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ระมัดระวังเรื่องการใช้ยาหรืออาหารเสริมที่แพทย์ไม่ได้สั่ง และออกกำลังกาย จะช่วยให้สมดุลฮอร์โมนดีและทำให้ประจำเดือนมาสม่ำเสมอครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หนูจดรอบเดือนตลอดเลยคะ จะมาประมาณ 28-29ตลอดเลยคะ เมื่อก่อนจะมาช่วงวันที่10 ประมาณนี้เลยคะ
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
"ตรวจเวลาอื่นได้ไหมคะ แบบตอนเย็นอะคะ"
หากเป็นการตั้งครรภ์ในระยะแรก ฮอร์โมนการตั้งครรภ์อาจยังมีไม่มากนัก ถ้าตรวจในเวลาที่ไม่เหมาะสม เมื่อได้ผลตรวจออกมาเป็น 1 ขีด จะสรุปไม่ได้ว่าไม่มีการตั้งครรภ์จริง ๆ หรือว่ามีการตั้งครรภ์แต่ปริมาณฮอร์โมนยังไม่เข้มข้นมากพอที่ชุดทดสอบจะตรวจวัดได้ค่ะ
ดังนั้น ถ้าตรวจด้วยการใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ แนะนำให้ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ปัสสาวะแรกของวัน และห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
แต่มันผ่านมานานแล้ว ยังสามารถตรวจได้ใช่ไหม เราเครียดและช่วงนี้ก้อออกำลังกายไปด้วย เลยกลัวไปหมด
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ถ้าวันที่ผู้ถามมีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดคือ 7 สิงหาคม ก็สามารถตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะหลังตื่นนอนเช้านี้ได้เลยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
แล้วถ้าเราหิว เห้นแล้วอยากกินนู้นอยากกินนี้ เป็นอาการคนท้องไหม แต่ช่วงนี้เราก้อจะปวดท้องน้อยบาง ท้องปกติบาง
ขอบคุณนะคะ เราอาจจะตรวจตอนเย็น ตอนเช้าทำไม่ได้จิงๆ ผู้ปกครองอยู่ต้องไปทำข้างนอก ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
"แล้วถ้าเราหิว เห็นแล้วอยากกินนู้นอยากกินนี้ เป็นอาการคนท้องไหม แต่ช่วงนี้เราก้อจะปวดท้องน้อยบาง ท้องปกติบาง"
อาการต่าง ๆ ที่กล่าวมาไม่ใช่สิ่งบ่งชี้ว่าผู้ถามมีการตั้งครรภ์ค่ะ แต่ก็สรุปไม่ได้เช่นกันว่าผู้ถามไม่ได้ตั้งครรภ์นะคะ
ดังนั้น เมื่อไม่มีประจำเดือนมา และต้องการทราบผลที่แน่ชัด แนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์อย่างถูกวิธีและตรวจในเวลาที่เหมาะสมค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ถ้าหากต้องการตรวจการตั้งในตอนเย็นก็อาจต้องรอตรวจการตั้งครรภ์ห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายไป 3-4 สัปดาห์ผลตรวจจึงจะเริ่มมีความแมและเชื่อถือได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
อย่างงี้ก้อห่างมาเลยสัปดาห์แล้ว อย่างงี้ก้อตรวจได้แล้วสิคะ เพราะหนูชอบปวดท้องน้อยช่วงนี้ ท้องบ้าง กลัวลมเยอะ กรดไหลย้อนอีก และบางทีช่วงนี้ตามใจปาก อยากกินไปทุกอย่างเลยคะ แล้วที่ผ่านมากินมะม่วงน้ำปลาหวานเพราะอยากกิน
หนูมีประจำเดือนล่าสุดวันที่28/7/62 แล้วหนูมีอะไรกับแฟนวันที่7/8/62 แล้วคือมีอะไรกันตอนแรกไม่ใส่ถุง แต่หลังจากนั้นก็ใส่ถุงปกติ ยังไม่มีการแตก หรืออะไรทั้งสิ้น แล้วคือหนูเครียดมากกลัวปจด.ไม่มา แล้วตกขาวก้อมีมันไม่เชิงสีเขียว แต่ก้อยังมีความใสอยู่ แล้วหนูจะท้องไหมคะ หรือหนูควรซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจ หรือกินยาสตรีเพื่อปรับสมดุลฮอร์โมน ปจด.เลื่อนมาจะ5วันแล้วคะ แล้วก้อมีอาการเจ็บท้องน้อยบ้าง เวลาออกกำลังกายบางครั้ง และปวดท้องบ้าง ไม่แน่ใจว่าเป็นกรดไหลย้อนไหม แบบมีลมเยอะในท้อง
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)