หมอ... อาการของหนูถ้าไม่มีอะไรให้หนูต้องคิด หนูก็จะเฉยๆแบบคนที่โรคส่วนตัวสูง แต่มาพักหลังหนูคิดว่าหนูเริ่มไม่ไหวจริงๆแล้ว ถ้าเกิดหนูเครียด หนูจะชา หนูจะหายใจไม่ทัน เหมือนมันกำลังจะตายอยูา แต่สมองและจิตใจมันคอยสั่งว่าอย่าตายๆ ตายไม่ได้ อาการของหนูมันเริ่มเหมือน อยากทิ้งตัว ไม่อยากรับอะไรแล้วตอนนี้ อยากตายแล้วว่างั้น แต่ลึกๆ หนูไม่ได้อยากหาย หนูกลัวว่าวันนึงอยู่หนูจะวูบไปเองโดยไม่ทีสติ หนูไม่สามารถคุยกับใครได้เลย หนูไม่ได้อยากได้ยินคำว่าหนูบ้าๆ

สวัสดีครับ
การเวลาที่เกิดความเครียดมากๆนั้นบางครั้งอาจส่งผลให้เกิดการหายใจเร็วโดยไม่รู้ตัวแลพมีอาการชามือชาเท้า มือจีบเกร็งตามมาได้ครับ

ทั้งนี้ถ้าหากอาการเหล่านี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆหรือมีอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปมากจนมีความรู้สึกอยากตายเกิดขึ้นก็ควรได้รับการตรวจหาสาเหตุและหาทางแก้ไขครับ

ในกรณีนี้หมออยากให้คุณได้ลองไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมดูก่อน เพื่อที่จะได้ให้การรักษาและความช่วยเหลือที่เหมาะสมต่อไปครับ

ทั้งนี้การที่มีสภาวะจิตใจที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมหรือการไปพบจิตแพทย์ต่างก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะเป็นบ้าครับ เพียงแต่อาการเหล่านี้ก็เป็นเพียงการเจ็บป่วยอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นได้ไม่ต่างจากการเจ็บป่วยด้วยโรคทางกาย หมออยากให้คุณได้ลองเปิดใจกับเรื่องเหล่านี้ดูครับ

การที่มีโลกส่วนตัวสูง อาจทำให้เกิดความเครียดความกดดันได้มากกว่าคนที่ชอบเข้าสังคมนะคะ ในกรณีของหนูยังไม่ใช่อาการบ้านะคะ แต่อาจเป็นความผิดปกติทางด้านความคิด และอารมณ์

เบื้องต้น ลองทำแบบประเมินซึมเศร้าด้วยตัวเองดูก่อนนะคะ โดยในช่วงระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้มีอาการเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน
ไม่มีเลย 0 คะแนน
มี 1-7 วัน 1 คะแนน
≥7 วัน 2 คะแนน
ทุกวัน 3 คะแนน
1. เบื่อหน่าย ไม่สนใจอยากจะทำอะไร
2. ไม่สบายใจ ซึมเศร้า ท้อแท้
3. หลับยาก หลับๆตื่นๆ หรือหลับมากเกินไป
4. เหนื่อยง่าย ไม่ค่อยมีแรง อ่อนเพลีย
5. เบื่ออาหาร หรือ กินได้มาก กินจุบจิบตลอดเวลา
6. รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง คิดว่าล้มเหลว หรือคิดว่าทำให้ตนเองและครอบครัวผิดหวัง
7. ขาดสมาธิ เหม่อลอย ขี้ลืมบ่อย
8. ทำอะไรช้าลง กระสับกระส่าย อยู่นิ่งไม่ได้
9. คิดทำร้ายตัวเอง อยากตาย หรือตายไปจะดีกว่า
จากนั้นรวมคะแนน หากได้มากกว่า 7 คะแนนขึ้นไป อาจมีแนวโน้มที่จะเป็นซึมเศร้าได้ค่ะ แนะนำให้พบจิตแพทย์ ประเมินอาการเพิ่มเติม แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม การรักษาที่ถูกต้องตามแนวทางโรคจะช่วยให้อาการดีขึ้น ปรับตัวได้มากขึ้น ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติอีกครั้งนะคะ

การรักษาอาจจำเป็นต้องใช้ยาร่วมกับการทำจิตบำบัด ซึ่งยาจะช่วยปรับสมดุลของสารเคมีในสมองให้หลั่งปกติ ทำให้สามารถควบคุมความคิด อารมณ์ ให้เหมาะสมมากขึ้นนะคะ