อยากกินยาคุมเพื่อปรับฮอร์โมนและช่วยรักษาสิวไปด้วยค่ะ จำเป็นจะต้องกินตอนที่มีประจำเดือนรึป่าวค่ะ

สวัสดีครับ
ถ้าหากมีความต้องการที่จะรับประทานยาคุมเพื่อปรับฮอร์โมนและรักษาสิวเท่านั้นโดไม่หวังผลการคุมกำเนิดก็สามารถเริ่มรับประทานยาคุมได้ทันทีถ้ามั่นใจได้ว่าไม่มีการตั้งครรภ์อยู่ครับ

แต่ถ้าหากหวังผลการคุมกำเนิดจากยาคุมด้วยเมื่อเริ่มรับประทานยาคุมแล้วก็จะต้องรับประทานยาติดต่อกันอย่างน้อย 7 วันก่อนยาคุมจึงจะเริ่มมีฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์และจึงเริ่มมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยได้หลังจากนั้นครับ หรือถ้าหากเริ่มรับประทานยาคุมภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนก็จะทำให้ยาคุมมีผลป้องกันการตั้งครรภ์ได้ตั้งแต่วันแรกที่รับประทานยาคุมครับ

เรื่องสิว ถ้าเป็นมากเเละเป็นคนหน้ามัน เเนะนำพบเเพทย์นะครับ โดยเฉพาะเเพทย์ผิวหนัง สิวเกิดได้ในวัยรุ่น เเต่บางครั้งก็เกิดจากสาเหตุที่ซ่อนอยู่ได้เช่นกันครับ
เช่น โรคถุงน้ำรังไข่(ในเพศหญิง อาการคือ มีสิวเยอะ มีขนเยอะเหมือนผู้ชาย หนวด ขนหน้าเเข้ง ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ)กลุ่มอาการคุชชิ่งเป็นต้น
โดยถ้าสงสัยภาวะถุงน้ำรังไข่หรือสิวขึ้นสัมพันธ์กับประจำเดือน ควรพบสูตินรีเเพทย์ครับ

ถ้าสิวสัมพันธ์กับรอบเดือนขัดเจน ก็พิจารณาเรื่องยาคุมได้ครับ
จะเริ่มกินช่วงที่ไม่มีประจำเดือนก็ได้ เเต่ต้องชัวร์ว่าตอนเริ่มกินนั้นไม่ได้ท้องอยู่ครับ

ถ้าเเนะนำก็ต้องยาคุมรุ่นใหม่ๆ ที่เอสโตรเจนต่ำ เเละ มีโปรเจสเตอโรนที่ช่วยต้านฮอร์โมนเพศชาย จะช่วยเรื่องลดหน้ามัน ลดสิวได้ครับ เช่น
- Yaz น่าจะดีที่สุด กรณีไม่อยากน้ำหนักขึ้น เพราะเอสโตรเจนต่ำที่สุด เเละช่วยลดสิวได้ด้วยครับ อาการคลื่นไส้อาเจียนก็น้อย ระยะยาวโอกาสเกิดฝ้าก็น้อยกว่าครับ เเต่ถ้ากินไม่ตรงเวลาอาจมีเลือดออกกระปริบกระปรอยได้ครับ ต้องกินให้ตรงเวลา
- Yasmin Sucee Preme ช่วยลดสิวได้ เเต่เอสโตรเจนจะมากขึ้น อาจทำให้น้ำหนักขึ้นมากกว่าครับ

ถ้าหากที่ผ่านมาได้มีเพศสัมพันธ์มาก่อนก็ต้องถือว่ามีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้อยู่ จึงยังไม่ควรเริ่มรับประทานยาคุมในทันทีสำหรับในกรณีนี้ครับ

ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรรอให้ประจำเดือนมาก่อนเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการตั้งครภ์และให้เริ่มรับประทานยาคุมภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนก็จะทำให้ยาคุมมีผลป้องกันการตั้งครรภ์ได้ทันทีตั้งแต่วันแรกที่รับประทานยาคุม

ส่วนถ้าหากมีอาการที่สงสัยว่าจะเป็นโรคถุงน้ำหลายใบในรังไข่ได้ หมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจยืนยันสาเหตุให้แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ช่วยเลือกยาสำหรับช่วยปรับฮอร์โมนได้อย่างเหมาะสมครับ