June 30, 2018 14:37
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
วิธีการเลิกบุหรี่ที่ได้ผลดีนั้นจะต้องเป็นการหักดิบครับ การใช้วิธีเลิกโดยลดปริมาณการสูบลงทีละน้อยมักจะทำให้การเลิกนั้นไม่ประสบผลสำเร็จ
ถ้าตั้งใจแล้วว่าจะเลิกบุหรี่จริงๆ แนะนำให้ใช้วิธีการดังนี้ครับ
- ทิ้งอุปกรณ์ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่ ไม่ว่าจะเป็นซองบุหรี่ ไม้ขีดไฟ ไฟแช็ก ที่เขี่ยบุหรี่
- หลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ทำให้คิดถึงการสูบบุหรี่ เช่น การเห็นภาพคนสูบบุหรี่ อยู่ในที่ที่มีคนสูบบุหรี่
- บอกกับคนรอบข้างถึงความตั้งใจที่จะเลิกบุหรี่ของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัวหรือเพื่อนร่วมงาน การบอกกับคนอื่นในลักษณะนี้จะช่วยให้ความตั้งใจในการเลิกบุหรี่นั้นมีมากขึ้น รวมถึงจะมีคนคอยเตือนเวลาที่มีการผิดพลาด
- หาอย่างอื่นทำเพื่อเบี่ยงเบนความคิดตัวเองจากความอยากบุหรี่
อุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดของผู้ที่เลิกบุหรี่นั้น คือ มักจะทนกับความอยากบุหรี่ของตนเองไม่ได้ครับ แต่ถ้าหากสามารถเอาชนะความอยากนี้ได้แล้วส่วนใหญ่มักจะเลิกสำเร็จ
เวลาที่เราอยากบุหรี่นั้นความอยากของเราจะค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เกิดความกระสับกระส่าย พยายามทุกวิถีทางที่จะหาบุหรี่มาสูบให้ได้ วิธีการกำจัดความอยากนี้มี 2 วิธี คือ
1. สูบบุหรี่ ซึ่งก็จะทำให้เลิกบุหรี่ไม่ได้
2. ปล่อยให้ความอยากนั้นผ่านไปเรื่อยๆ ในช่วงที่ปล่อยให้มีความอยาก อาจก่อให้เกิดความเครียดความกังวลอย่างมากเนื่องจาก ความรุนแรงของความอยากบุหรี่นั้นจะค่อยๆเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้าทนได้ถึงจุดหนึ่งความอยากนั้นจะสามารถหายไปได้เองโดยไม่ต้องสูบบุหรี่ครับ เหมือนกับเวลาที่เราโกรธใครมากๆสักคนหนึ่ง เมื่อความโกรธเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆถึงจุดหนึ่งความโกรธนั่นก็จะหายไปได้เอง
สุดท้ายถ้าลองทำตามวิธีข้างต้นแล้วไม่สามารถเลิกได้จริงๆ ก็สามารถไปขอคำแนะนำเพิ่มเติมที่คลินิกเลิกบุหรี่ตามโรงพยาบาลได้ครับ ซึ่งในช่วงแรกๆอาจจะได้ยามาช่วยเพื่อลดความอยากบุหรี่
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
เพิ่มเติมนะคะ..
การเลิกบุหรี่ มีทั้งการหักดิบ และใช้วิธีค่อยๆลดภายใน 1 เดือน
การเลิกด้วยวิธีค่อยๆลด อาจใช้ได้ผลในบางราย แต่ต้องมีเป้าหมายชัดเจนในการลด โดยมากมักจะแนะนำผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่แบบค่อยๆลด ในผู้ที่มีภาวะติดนิโคตินแบบรุนแรง เพราะหากใช้วิธีหักดิบ อาจทำให้มีอาการถอนนิโคตินจนรู้สึกว่าทนไม่ไหวแล้วต้องกลับไปสูบซ้ำอีก การเลิกแบบค่อยๆลด ให้เริ่มจากการตั้งเป้าหมาย ภายในเวลา 1 เดือน จะต้องหยุดโดยไม่มีการสูบเลย ดังนี้
- ดูว่าปกติเราสูบวันละกี่มวน จากนั้น ให้ลดจำนวนลงทีละครึ่ง เช่น เดิมสูบประมาณ 20 มวน/วัน ก็กำหนดวันออกเป็น 4 สัปดาห์
สัปดาห์ที่ 1 ให้เริ่มลดจาก 20 มวน เหลือ 10 มวน และสังเกตอาการผิดปกติ
สัปดาห์ที่ 2 ลดจาก 10 มวน ให้เหลือ 5 มวน
สัปดาห์ที่ 3 ลดจาก 5มวน ให้เหลือ 2 มวน
สัปดาห์ที่ 4 หยุดเลย
-ระหว่างที่ปรับลดจำนวน ให้สังเกตอาการผิดปกติ ดูว่ามักจะทนไม่ได้ช่วงเวลาไหน จากนั้นพยายามหาสิ่งทดแทน หากิจกรรมอื่นๆมาแทนเพื่อเบี่ยงเบนความต้องการสูบบุหรี่ออกไป สิ่งที่สามารถใช้ทดแทนได้ เช่น มะนาวหั่นแว่นติดเปลือก กานพลู ใช้อมเมื่อรู้สึกอยากสูบ น้ำดื่มเย็นๆ ผ้าเย็น ช่วยให้สดชื่น เป็นต้น
-ระหว่างที่เลิกบุหรี่ ควรปรับพฤติกรรมไปด้วย เช่น บางคนชอบสูบหลังกินข้าว ก็ต้องปรับพฤติกรรมใหม่ ลดอาการเผ็ดจัด หลังกินข้าวเสร็จควรแปรงฟันให้สะอาด บ้วนปากให้สดชื่น จะช่วยลดความอยากบุหรี่ลงได้ หรือสูบขณะอยู่ในกลุ่มเพื่อน ก็ควรหลีกเลี่ยงจากกลุ่มที่มีการสูบบุหรี่ออกไปก่อน การออกกำลังกายสม่ำเสมอเป็นการผ่อนคลายความตึงเครียดที่ดี
ในกรณีที่รู้ว่าติดนิสัย ติดพฤติกรรม แนะนำให้เลิกด้วยวิธีการหักดิบ แล้วหาสิ่งทดแทน พร้อมกับปรับพฤติกรรม จะทำได้ง่ายกว่า นอกจากนั้นควรหากำลังใจจากเพื่อน ครอบครัว เพื่อสนับสนุนให้เราเลิกได้ง่ายขึ้น คอยเตือน คอยพาเราไปทำกิจกรรมอื่นๆ เป็นต้น
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
คือผมติดบุหรี่ตั้งแต่อายุ 14-15ปีครับปัจจุบันอายุ26 ซึ่งครั้งแรกที่สุบ ยอมรับเลยครับว่าอยากเท่ อยากทำตามเพื่อน แต่พอโตขึ้น ความรู้สึกตอนนั้นมันไม่ใช่เลย อยากเลิกมากครับ ผมสังเกตตัวเองตลอดว่าเวลาหรือช่วงไหนที่สูบเยอะสูบบ่อย สรุปว่าผมติดพฤติกรรมการสูบเช่น หลังกินข้าว(ทุกมื้อ) หลังทำกิจกรรมต่างๆ ตอนพูดคุยในกลุ่มเพื่อนๆเวลาเครียด คือส่วนมากประมาร 80-90% ผมจะทำสิ่งเหล่านั้นก่อนแล้วจึงสูบครับ ประมาณ10% ที่จะสูบก่อนทำกิจวัตรทั่วไป จึงอยากขอคำแนะนำหย่อยครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)